นายภาสกร ชัยรัตน์ ผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจอุตสาหกรรม (สศอ.) เปิดเผยว่า สศอ. ได้เห็นถึงความสำคัญของการพัฒนาอุตสาหกรรมป้องกันประเทศ จึงได้ดำเนินโครงการศูนย์สารสนเทศอัจฉริยะอุตสาหกรรมป้องกันประเทศ ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2568 โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อให้เกิดการทำงานเชิงบูรณาการระหว่างหน่วยงาน ฝ่ายพลเรือนและหน่วยงานฝ่ายกลาโหมอย่างเป็นรูปธรรม เพื่อร่วมกันขับเคลื่อนอุตสาหกรรมป้องกันประเทศให้เป็นอุตสาหกรรมเศรษฐกิจใหม่ ส่งผลให้ภาครัฐและเอกชนมีข้อมูลอุตสาหกรรมที่สำคัญและทันสมัย ใช้ในการกำหนดนโยบายและดำเนินธุรกิจ เพิ่มขีดความสามารถในการผลิตยุทโธปกรณ์และอุปกรณ์ทางการทหารในประเทศ ทำให้ไทยสามารถพึ่งพาตนเองได้ ลดการนำเข้าและพัฒนาสู่การเป็นฐานการผลิตเพื่อส่งออก และสร้างมูลค่าทางเศรษฐกิจให้กับประเทศอย่างยั่งยืน ตามนโยบาย “การปฏิรูปอุตสาหกรรม” ของนายเอกนัฏ พร้อมพันธุ์ รมว.อุตสาหกรรม
ทั้งนี้ สศอ. ได้ร่วมมือกับสถาบันยานยนต์จัดกิจกรรมลงนามในบันทึกความเข้าใจ (MOU) ด้านวิชาการระหว่างสถาบันยานยนต์และสำนักงานปลัดกระทรวงกลาโหม โดยมีพลเอก วัฒนา ฉัตรรัตนแสง ผู้อำนวยการศูนย์การอุตสาหกรรมป้องกันประเทศและพลังงานทหาร และนายเกรียงศักดิ์ วงศ์พร้อมรัตน์ ผู้อำนวยการสถาบันยานยนต์ เป็นผู้ลงนามในบันทึกความเข้าใจ
“อุตสาหกรรมป้องกันประเทศเป็นอุตสาหกรรมที่เป็นเทคโนโลยีสองทาง (Dual Use Technology) กล่าว คือ เป็นประโยชน์ทั้งด้านความมั่นคงและสามารถต่อยอดไปสู่การพัฒนาอุตสาหกรรมอื่น ๆ และสนับสนุนอุตสาหกรรมเดิมของไทยในเชิงพาณิชย์ได้ ด้วยความสำคัญนี้ จึงต้องขับเคลื่อนผลักดันอุตสาหกรรมป้องกันประเทศให้มีความแข็งแกร่งและพัฒนาศักยภาพให้เกิดผลที่เป็นรูปธรรมเพื่อเป็นอีกหนึ่งอุตสาหกรรมเศรษฐกิจใหม่ที่จะขับเคลื่อนเศรษฐกิจของประเทศต่อไป” นายภาสกร กล่าว
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี