นายสุเมธ ประสงค์พงษ์ชัย ผู้อำนวยการสถาบันวิจัยและพัฒนาอัญมณีและเครื่องประดับแห่งชาติ (องค์การมหาชน) หรือ GIT เปิดเผยว่า การส่งออกอัญมณีและเครื่องประดับ ไม่รวมทองคำ เดือนกุมภาพันธ์ 2568 มูลค่า 2,297.95 ล้านดอลลาร์สหรัฐ เพิ่มขึ้น 104.23% ขยายตัวเป็นบวกต่อเนื่อง 4 เดือนติดต่อกัน หากรวมทองคำ มูลค่า 4,032.21 ล้านดอลลาร์สหรัฐ เพิ่มขึ้น 121.29% และการส่งออกรวม 2 เดือนของปี 2568 (มกราคม-กุมภาพันธ์)ไม่รวมทองคำ มูลค่า 3,231.58 ล้านดอลลาร์สหรัฐ เพิ่มขึ้น 73.22% รวมทองคำ มูลค่า 6,133.71 ล้านดอลลาร์สหรัฐ เพิ่มขึ้น 102.32%

การส่งออกเฉพาะทองคำในเดือนกุมภาพันธ์2568 มีมูลค่า 933.63 ล้านดอลลาร์สหรัฐ เพิ่มขึ้น 26.395% จากการส่งออกไปเก็งกำไร เพราะมีปัจจัยหนุนจากแรงซื้อทองคำซึ่งเป็นสินทรัพย์ปลอดภัย ท่ามกลางความกังวลเกี่ยวกับมาตรการภาษีของสหรัฐฯ ทำให้ราคาทองคำทำสถิติสูงสุดที่ 2,937 ดอลลาร์สหรัฐต่อออนซ์ ส่วนยอดรวมส่งออกทองคำ 2 เดือน มีมูลค่า 2,101.50 ล้านดอลลาร์สหรัฐ เพิ่มขึ้น 73.74% และแยกเป็นรายเดือนมกราคม2568 มูลค่า 1,167.87 ล้านดอลลาร์สหรัฐ เพิ่มขึ้น 148.95%

สำหรับตลาดส่งออกสำคัญ สหรัฐฯ มาแรงสุด เพิ่ม 31.61% จากการเร่งนำเข้า เพื่อลดความเสี่ยงจากมาตรการภาษี เพราะในเดือนนี้ ยังไม่รู้ว่าจะสหรัฐฯ จะประกาศขึ้นภาษีกับไทยในอัตราเท่าใด เยอรมนี เพิ่ม 8.56% อิตาลี เพิ่ม 4.37% สหราชอาณาจักร เพิ่ม 13.80% ญี่ปุ่น เพิ่ม 4.37% ส่วนฮ่องกง ลด 8.09% เบลเยี่ยม ลด 21.24% กาตาร์ ลด 46.92% สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ ลด 29.99%

ส่วนการส่งออกสินค้า แพลทินัม เพิ่ม 155,712.30% จากการส่งออกไปอินเดียเกือบทั้งหมด เครื่องประดับเงิน เพิ่ม 12.18% เครื่องประดับแพลทินัม เพิ่ม 40.99% พลอยก้อน เพิ่ม 11.17% พลอยเนื้อแข็งเจียระไน เพิ่ม 22.34% พลอยเนื้ออ่อนเจียระไน เพิ่ม 14.17% กลุ่มพลอย ขยายตัวต่อเนื่อง เพราะซื้อไปลงทุน เครื่องประดับเทียม เพิ่ม 2.98% ส่วนเครื่องประดับทอง ลด 11.99% ส่วนเพชรก้อน ลด 33.86% เพชรเจียระไน ลด 29.48% เนื่องจากการส่งออกไปยังฮ่องกง เบลเยียม และสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ลดลง

นายสุเมธกล่าวว่า แนวโน้มการส่งออกเดือนมีนาคม2568 คาดว่าจะยังคงขยายตัวดีต่อเนื่อง โดยเฉพาะตลาดสหรัฐฯ ที่จะมีการเร่งนำเข้า เพื่อหลีกเลี่ยงปัญหาเรื่องภาษี แต่ผลจากการที่สหรัฐฯ ได้เริ่มเก็บภาษีนำเข้า 10% แล้ว คงต้องจับตาดูว่าจะมีผลกระทบต่อการส่งออกสินค้ากลุ่มนี้ในเดือน เมษายน 2568 หรือไม่ เพราะเดิมอัตราภาษีนำเข้าเฉลี่ยต่ำมากแค่ 0-6.5% แต่ยังดีที่ไม่เจอ 36% เพราะถูกชะลอออกไป 90 วัน ทำให้ส่งออกหายใจได้คล่องขึ้น และต้องติดตามดูสถานการณ์ต่อไปว่าจะเจรจาได้หรือไม่