พ.อ.เฟื่องวิชชุ์ อนิรุทธเทวา ผู้ช่วยรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน เปิดเผยในการประธานเปิดการประชุมเชิงปฏิบัติการภายใต้กรอบความร่วมมืออาเซียน-สหภาพยุโรป ครั้งที่ 1 (The 1st Technical Workshop under the EU-ASEAN Energy Dialogue) ซึ่งจัดขึ้นระหว่างวันที่ 8-9 เมษายน 2568 ว่า การประชุมดังกล่าวมีผู้เข้าร่วมการประชุมจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในภาคพลังงานทั้งภาครัฐและเอกชน จากประเทศสมาชิกอาเซียนและสหภาพยุโรปกว่า 80 คน โดยเป็นส่วนหนึ่งของการดำเนินกิจกรรมตามแผนการดำเนินงานปี 2567-2568 (Work Programme 2024-2025) ที่จัดขึ้นภายใต้หัวข้อ “EU-ASEAN Experience in Building a Regionally Integrated Electricity System and Market”
ทั้งนี้เพื่อส่งเสริมความร่วมมือระหว่างสหภาพยุโรปและอาเซียนในการพัฒนาโครงการการเชื่อมโยงโครงข่ายสายส่งไฟฟ้าอาเซียน(ASEAN Power Grid Advancement Programme: APG-AP) นับเป็นเวทีที่เปิดโอกาสให้หน่วยงานภาครัฐในฐานะผู้กำหนดนโยบาย หน่วยงานกำกับดูแล ผู้เชี่ยวชาญและผู้มีส่วนได้ส่วนเสียในภาคพลังงาน ได้หารือแลกเปลี่ยนความรู้เกี่ยวกับความท้าทายและโอกาสในการสร้างความร่วมมือระหว่างสหภาพยุโรปและอาเซียน เพื่อแสวงหาแนวทางที่เหมาะสมในการพัฒนาระบบและตลาดไฟฟ้าแบบบูรณาการระดับภูมิภาค รวมถึงการพัฒนาโครงข่ายไฟฟ้าอัจฉริยะในภูมิภาคอาเซียน
“ไทยให้ความสำคัญกับการขยายการเชื่อมโยงโครงสร้างพื้นฐานด้านพลังงานในภูมิภาค การบูรณาการแหล่งพลังงานหมุนเวียน และการปรับปรุงประสิทธิภาพการใช้พลังงานในทุกภาคส่วน โดยกรอบความร่วมมือด้านพลังงานอาเซียน-สหภาพยุโรป ถือเป็นโอกาสดีที่จะได้เรียนรู้จากสหภาพยุโรป ซึ่งมีตลาดซื้อขายไฟฟ้าแบบเสรีและเชื่อมโยงกันในระดับภูมิภาค เพื่อใช้เป็นแนวทางสำหรับการพัฒนาระบบพลังงานของไทย และการเชื่อมโยงโครงข่ายสายส่งไฟฟ้าในระดับภูมิภาค ซึ่งจะเป็นประโยชน์ในการเสริมสร้างความมั่นคงด้านพลังงานของภูมิภาคอาเซียนต่อไปในอนาคต”พ.อ.เฟื่องวิชชุ์ กล่าว
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี