นายพูนพงษ์ นัยนาภากรณ์ ผู้อำนวยการสำนักงานนโยบายและยุทธศาสตร์การค้า (ผอ. สนค.) โฆษกกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า อัตราเงินเฟ้อที่ต่ำกว่าคาดการณ์ไม่ส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจ โดยอัตราเงินเฟ้อที่อยู่ระดับต่ำเป็นผลมาจากราคาพลังงานเป็นส่วนสำคัญ ซึ่งไม่ได้ส่งผลกระทบต่อรายได้ของประชาชนหรือสะท้อนกิจกรรมทางเศรษฐกิจที่ชะลอตัว รวมถึงผลของการดูแลค่าครองชีพของรัฐบาลและกระทรวงพาณิชย์ให้ ทันกับสถานการณ์ต่าง ๆ โดยรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ นายพิชัย นริพทะพันธุ์ ได้สั่งการให้กรมการค้าภายในและพาณิชย์จังหวัดทั่วประเทศดำเนินมาตรการเชิงรุกเพื่อดูแลค่าครองชีพของประชาชน และให้ติดตามสถานการณ์ราคาสินค้าอย่างใกล้ชิด รวมถึงช่วงเทศกาลสงกรานต์ไม่ให้มีการฉวยโอกาสขึ้นราคาสินค้า ขณะที่การขึ้นกำแพงภาษีของสหรัฐฯ จะมีส่วนสำคัญที่ทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงทิศทางอัตราเงินเฟ้อในอนาคตจากคาดการณ์เดิม
สำหรับอัตราเงินเฟ้อในเดือนมีนาคม 2568 อยู่ที่ร้อยละ 0.84 ส่งผลให้ไตรมาสแรกของปี 2568 อยู่ที่ร้อยละ 1.08 ซึ่งต่ำกว่าคาดการณ์เดิม นอกจากนี้ ในไตรมาสที่ 2 คาดว่าอัตราเงินเฟ้อจะต่ำกว่าร้อยละ 1.0 อย่างต่อเนื่อง ทำให้ทั้งปี 2568 อัตราเงินเฟ้อมีแนวโน้มต่ำกว่ากรอบเป้าหมาย
นอกจากนี้ ยังเป็นผลจากการดำเนินงานของกระทรวงพาณิชย์ได้อย่างมีประสิทธิภาพตามที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ นายพิชัย นริพทะพันธุ์ ได้สั่งการให้กรมการค้าภายในและพาณิชย์จังหวัดทั่วประเทศเร่งดูแลค่าครองชีพของ ประชาชนอย่างต่อเนื่อง ให้สอดคล้องกับสถานการณ์ต่าง ๆ ที่เปลี่ยนแปลงเช่น การเปิดบริการจุดจำหน่ายน้ำมันปาล์มขวดราคาประหยัดในย่านชุมชนต่าง ๆ และปั๊มน้ำมัน
อย่างไรก็ตาม การลงพื้นที่ตรวจสอบสถานการณ์ราคาและปริมาณสินค้าวัสดุก่อสร้างหลังเกิดเหตุแผ่นดินไหว เพื่อป้องกันการฉวยโอกาสขึ้นราคาสินค้าและดูแลให้มีสินค้าเพียงพอ การลงพื้นที่ตรวจสอบสถานการณ์ราคาสินค้าอุปโภคบริโภคในช่วงเทศกาลสงกรานต์ และการตรวจสอบหัวจ่ายปั๊มน้ำมันทั่งประเทศให้ได้มาตรฐาน โดยวางเป้าตรวจสอบไม่น้อยกว่า 16,000 หัวจ่าย เป็นต้น ซึ่งการดำเนินมาตรการเหล่านี้มีส่วนสำคัญในการดูแลค่าครองชีพของประชาชน
นายพูนพงษ์ฯ กล่าวว่า สำหรับอัตราเงินเฟ้อในระยะต่อไปต้องติดตามผลกระทบจาก การดำเนินมาตรการกำแพงภาษีของสหรัฐฯ ต่อประเทศต่าง ๆ ทั่วโลก อย่างไรก็ตามจากนโยบายของสหรัฐฯ ที่ยังมีการปรับเปลี่ยนอย่างต่อเนื่องทำให้ต้องเฝ้าติดตามอย่างใกล้ชิด ก่อนที่จะประเมินผลกระทบต่ออัตราเงินเฟ้อของไทย แต่ทั้งนี้ มีสัญญาณเชิงบวกมากขึ้น หลังจากสหรัฐฯ แสดงถึงความยืดหยุ่นในการดำเนินมาตรการ ทั้งการเลื่อนบังคับใช้ออกไปอีก 90 วัน และการยกเว้นภาษีสำหรับบางสินค้า ซึ่งเป็นประเด็นที่ไทยต้องพิจารณานำมาใช้ในการเจรจาเพื่อสร้างความสมดุลใหม่ของการค้าไทยและสหรัฐฯ
ทั้งนี้ คาดว่าสินค้าไม่น้อยกว่าร้อยละ 50 ของตะกร้าเงินเฟ้อจะเชื่อมโยงกับการขึ้นภาษีของสหรัฐฯ ผ่าน 3 ช่องทางที่สำคัญ ดังนี้ 1) การแข่งขันที่รุนแรงขึ้นของตลาดภายในประเทศ เมื่อสินค้าส่งออกไปสหรัฐฯ มีความยากลำบากมากขึ้น กลุ่มสินค้าเหล่านั้นอาจกลับมาทำตลาดในประเทศทดแทน ทำให้สินค้าต่าง ๆ มีการแข่งขันกันรุนแรงขึ้น 2) คู่ค้าของสหรัฐฯ จะกระจายสินค้าสู่ตลาดอื่น (Export Diversification) โดยประเทศที่ส่งออกไปยังสหรัฐฯ ไม่ได้อาจระบายสินค้าสู่ตลาดใหม่รวมถึงประเทศไทย ทำให้ต้องเผชิญกับความเสี่ยงในการนำเข้าสินค้าราคาถูกมากขึ้นและ 3) เศรษฐกิจโลกที่เติบโตต่ำกว่าคาดการณ์ ทำให้ภาคเศรษฐกิจของไทยที่พึ่งพิงอุปสงค์จากต่างประเทศอาจได้รับผลกระทบจากการชะลอตัวของเศรษฐกิจโลกไปด้วย รวมถึงการลดลงของราคาสินค้าโภคภัณฑ์ที่สำคัญ ในตลาดโลก เช่น ราคาน้ำมัน และสินค้าทางการเกษตร เป็นต้น
- 030
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี