นางสาวสุนันทา กังวาลกุลกิจ อธิบดีกรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ (DITP) กระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า กรมได้มอบนโยบายให้ทูตพาณิชย์ที่ประจำอยู่ในประเทศต่าง ๆ ทำการสำรวจลู่ทางการค้าและโอกาสการส่งออกสินค้าไทยไปยังประเทศที่ประจำอยู่ ตามนโยบายนายพิชัย นริพทะพันธุ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ ล่าสุดได้รับรายงานจากนางสาวอุษาศรี เขียวระยับ ผู้อำนวยการสำนักงานส่งเสริมการค้า ณ นครโฮจิมินห์ เวียดนาม ถึงการติดตามสถานการณ์การส่งออกข้าวของเวียดนาม หลังจากอินเดียกลับมาส่งออกข้าวขาว และแนวทางการปรับตัวของรัฐบาลเวียดนามในการส่งเสริมการเพาะปลูกข้าวให้กับเกษตรกร เพื่อหลีกเลี่ยงการแข่งขันด้านราคา
ทั้งนี้ ทูตพาณิชย์แจ้งว่า นับตั้งแต่อินเดียได้ประกาศยกเลิกคำสั่งห้ามส่งออกข้าวขาว ทำให้อินเดียกลับมาส่งออกข้าวขาวสู่ตลาดโลกเพิ่มขึ้น ส่งผลให้ราคาข้าวขาวในตลาดโลกปรับตัวลดลง แต่เป็นประโยชน์ต่อประเทศในแอฟริกาที่นิยมข้าวราคาถูก รวมถึงอุตสาหกรรมอาหารสัตว์ของจีนที่มีความต้องการข้าวหักสูง และอุตสาหกรรมผลิตเอทานอลสำหรับเชื้อเพลิงชีวภาพที่คาดว่าจะเพิ่มการสั่งซื้อข้าวหักเช่นกัน
โดยเวียดนาม ซึ่งเป็นผู้ส่งออกข้าวรายใหญ่อันดับ 3 ของโลก รองจากอินเดียและไทยได้ส่งออกข้าวประมาณ 9.18 ล้านตันในปี 2567 คิดเป็นมูลค่า 5,750 ล้านเหรียญสหรัฐ โดยตลาดหลัก ได้แก่ ฟิลิปปินส์ จีน มาเลเซีย และโกตดิวัวร์ แต่หลังจากที่อินเดียกลับมาส่งออกข้าวขาว ทำให้เวียดนามได้รับผลกระทบจากราคาข้าวที่ลดลง รัฐบาลเวียดนามจึงได้มีแผนปรับกลยุทธ์การส่งออกข้าวโดยตั้งเป้าลดปริมาณการส่งออกเหลือ 4 ล้านตันต่อปีภายในปี 2573 เพื่อมุ่งเน้นการผลิตข้าวคุณภาพสูง รับประกันความมั่นคงทางอาหารภายในประเทศ และปกป้องสิ่งแวดล้อม
“ทูตพาณิชย์บอกว่า อินเดียเป็นผู้ส่งออกข้าวรายใหญ่ที่สุดของโลก มีสัดส่วนเกือบร้อยละ 40 ของปริมาณการค้าข้าวทั่วโลก การกลับเข้าสู่ตลาดครั้งนี้ ทำให้ปริมาณข้าวในตลาดเพิ่มขึ้นอย่างมหาศาลส่งผลให้ราคาข้าวขาวหัก 5% และข้าวขาวหัก 25% จากประเทศผู้ส่งออกรายอื่น ๆ โดยเฉพาะจากไทย เวียดนาม และปากีสถาน ต้องเผชิญแรงกดดันและมีแนวโน้มปรับตัวลดลงอย่างต่อเนื่อง ทำให้เวียดนามต้องปรับกลยุทธ์ในการเพาะปลูกข้าว และส่งออกข้าวใหม่ ซึ่งกรมเห็นว่า ไทยก็ต้องปรับกลยุทธ์โดยเน้นการเพิ่มมูลค่าผลิตภัณฑ์ข้าวคุณภาพสูง เช่น ข้าวหอมมะลิ ข้าวออร์แกนิก และข้าวเพื่อสุขภาพ เพื่อตอบสนองความต้องการของตลาดระดับพรีเมียมที่มีกำลังซื้อสูง เช่น สหภาพยุโรปตะวันออกกลาง และญี่ปุ่น โดยกรมพร้อมที่จะช่วยทำตลาด เพื่อให้ข้าวไทยเป็นที่ต้องการต่อไป”นางสาวสุนันทากล่าว
-031
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี