นายสุชาติ ชมกลิ่น รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์ กล่าวว่า เมื่อวันที่ 22 เมษายน 2568 ได้เข้าร่วมพิธีเปิดงาน IGNITE Thailand-Korea Business Forum ณ โรงแรม Lotte Hotel Seoul กรุงโซล สาธารณรัฐเกาหลี ซึ่งจัดขึ้นโดยความร่วมมือระหว่างสถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงโซล การนิคมอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย(กนอ.) และเฮรัลด์ มีเดีย กรุ๊ป เพื่อส่งเสริมความร่วมมือทางเศรษฐกิจระหว่างไทยกับเกาหลีใต้ และดึงดูดการลงทุนในอุตสาหกรรมแห่งอนาคต ในโอกาสนี้ได้เชิญชวนนักลงทุนเกาหลีใต้ร่วมลงทุนในอุตสาหกรรมเป้าหมายในไทย อาทิ ยานยนต์ไฟฟ้า พลังงานสะอาด เทคโนโลยีชีวภาพ อุตสาหกรรมกลาโหม ดิจิทัล และอิเล็กทรอนิกส์อัจฉริยะซึ่งล้วนเป็นอุตสาหกรรมจุดแข็งของเกาหลีใต้ ที่สามารถต่อยอดความร่วมมือระหว่างกันเพื่อสร้างการเติบโตที่ยั่งยืนระหว่างสองประเทศ
นายสุชาติ กล่าวว่า ศักยภาพของไทยในการพัฒนาเศรษฐกิจไปสู่อุตสาหกรรมอนาคต เมื่อผสานกับความเชี่ยวชาญด้านเทคโนโลยีและนวัตกรรมของเกาหลีใต้ จะเปิดโอกาสมหาศาลในการลงทุน ร่วมทุน และถ่ายทอดเทคโนโลยี รวมถึงการเชื่อมโยงกับระบบนิเวศของสตาร์ทอัพและ SMEs ซึ่งล้วนเป็นพลังขับเคลื่อนเศรษฐกิจไทยในยุคดิจิทัลและเศรษฐกิจสีเขียว
ทั้งนี้ไทยมีความพร้อมในการเปิดรับการลงทุนจากนานาประเทศ โดยไทยมีข้อได้เปรียบเชิงภูมิศาสตร์ในการเป็นศูนย์กลางการลงทุนในภูมิภาคด้วยโครงสร้างพื้นฐานที่พัฒนาอย่างต่อเนื่อง อาทิ เขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก โครงการแลนด์บริดจ์ และสิทธิประโยชน์ด้านภาษีจากสำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน ซึ่งล้วนเป็นเครื่องมือสำคัญในการจูงใจนักลงทุนต่างชาติ
“นอกจากนี้ รัฐบาลไทยยังให้ความสำคัญกับการสร้างสภาพแวดล้อมทางการค้าที่เสรี เปิดกว้าง โปร่งใส และคาดการณ์ได้ เพื่อช่วยเสริมสร้างความเชื่อมั่นให้แก่นักลงทุน โดยท่านนายกรัฐมนตรีแพทองธาร ชินวัตร ได้มอบหมายให้กระทรวงพาณิชย์ได้เร่งผลักดันการเจรจา FTA กับประเทศคู่ค้าสำคัญอย่างต่อเนื่อง ซึ่งปัจจุบัน ไทยมี FTA รวมทั้งสิ้น 17 ฉบับ กับ 24 ประเทศ และกำลังเจรจาฉบับใหม่ ซึ่งรวมถึงการผลักดันให้ความตกลงหุ้นส่วนทางเศรษฐกิจ ไทย – เกาหลีใต้ แล้วเสร็จภายในปี 2568 ซึ่งจะช่วยเสริมสร้างความเชื่อมั่นและเปิดประตูสู่โอกาสทางธุรกิจระหว่างสองประเทศในระยะยาว” นายสุชาติ กล่าว
นอกจากนี้ยังได้ร่วมเปิดตัวโครงการ “การชำระเงินต่างประเทศผ่าน QR Code” ระหว่างไทยและเกาหลีใต้ เพื่ออำนวยความสะดวกในการทำธุรกรรมทางการเงิน โดยเฉพาะกับนักท่องเที่ยว ผู้บริโภค และธุรกิจ SMEs ซึ่งจะช่วยสนับสนุนการเข้าสู่ระบบเศรษฐกิจไร้เงินสด และเพิ่มความคล่องตัวในการค้าขายระหว่างกัน รวมทั้งรองรับการใช้ประโยชน์ในอนาคตจากความตกลงหุ้นส่วนทางเศรษฐกิจ ไทย – เกาหลีใต้
ทั้งนี้ในปี 2567 สาธารณรัฐเกาหลีเป็นคู่ค้าอันดับที่ 13 ของไทย โดยมีมูลค่าการค้ารวมระหว่างกันอยู่ที่ 14,744.13 ล้านดอลลาร์สหรัฐ แบ่งเป็นการส่งออกจากไทย 6,073.06 ล้านดอลลาร์สหรัฐ และการนำเข้า 8,671.07 ล้านดอลลาร์สหรัฐ สินค้าส่งออกสำคัญจากไทยไปเกาหลีใต้ ได้แก่ ผลิตภัณฑ์ยาง น้ำมันสำเร็จรูป แผงวงจรไฟฟ้า ผลิตภัณฑ์อลูมิเนียม และน้ำตาลทราย ขณะที่สินค้านำเข้าหลักจากเกาหลีใต้ ได้แก่ แผงวงจรไฟฟ้า เหล็ก เหล็กกล้าและผลิตภัณฑ์ เคมีภัณฑ์ เครื่องจักรกลและส่วนประกอบ รวมถึงเครื่องจักรไฟฟ้าและส่วนประกอบ
อย่างไรก็ตามในช่วง 2 เดือนแรกของปี 2568 (มกราคม–กุมภาพันธ์) การค้าระหว่างสองประเทศมีมูลค่ารวม 2,405.95 ล้านดอลลาร์สหรัฐ โดยเป็นการส่งออกจากไทย 912.69 ล้านดอลลาร์สหรัฐ และการนำเข้า 1,493.26 ล้านดอลลาร์สหรัฐขณะเดียวกัน การลงทุนของเกาหลีใต้ในไทยยังคงแข็งแกร่ง โดยในปี 2567 มีบริษัทจากเกาหลีใต้ยื่นขอรับการส่งเสริมการลงทุนในไทยจำนวน 38 โครงการ รวมมูลค่ากว่า 4,000 ล้านบาท สะท้อนความเชื่อมั่นต่อศักยภาพเศรษฐกิจไทยในระยะยาว
-031
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี