‘อ้วยอันโอสถ’ เดินเกมรุกตลาดยาสมุนไพร ด้วยการดีไซน์แคมเปญเจาะตลาดคนรุ่นใหม่ “คู่ซี้มียัง?” ชูผลิตภัณฑ์สมุนไพรยอดนิยม ‘ยาอมสมุนไพรมังกรทอง’ ที่ให้ความชุ่มคอแบบออริจินอลกับขวดที่หลายคนเห็นต้องคุ้นเคย จัดเสิร์ฟแพ็คคู่กับ ‘ยาดมสมุนไพรมังกรทอง’ กระปุกน้ำเงิน ที่ล่าสุดใช้นวัตกรรมใหม่ M-Lock ล็อคล่องหน คงความหอมชื่นใจแบบไม่มีอะไรกั้น แท็กทีมเติมเต็มความชุ่มคอและมอบความชื่นใจในทุกจังหวะชีวิต ถ่ายทอดผ่านคาแรกเตอร์สุดน่ารักเอาใจคนรุ่นใหม่ ตั้งเป้าเป็นแบรนด์สมุนไพรในใจลูกค้า

นางสาวนิชา สมบูรณ์เวชชการ กรรมการผู้จัดการ บริษัท อ้วยอันโอสถ จำกัด เปิดเผยว่า อ้วยอันโอสถ เป็นหนึ่งในผู้นำตลาดยาสมุนไพรที่อยู่คู่คนไทยมานานกว่า 7 ทศวรรษ ด้วยความชำนาญ เชี่ยวชาญด้านสมุนไพรของบรรพบุรุษที่ถ่ายทอดจากรุ่นสู่รุ่น ซึ่งปัจจุบันมีสินค้าสมุนไพรกว่า 100 รายการ และมีแบรนด์ที่หลากหลาย ครอบคลุมทุกกลุ่มเป้าหมาย เช่น ยาฟ้าทะลายโจร ยาอมสมุนไพร ยาน้ำแก้ไอสำหรับเด็ก เป็นต้น ภายใต้แบรนด์ “Herbal One”, “Mr. HERB” และ “แบรนด์มังกรทอง” ที่ก่อตั้งมานานกว่า 36 ปี จึงไม่ใช่หน้าใหม่ในตลาดยาสมุนไพร ซึ่ง Hero Product ที่หลายคนคุ้นหน้าคุ้นตากันเป็นอย่างดี คือ “ยาอมสมุนไพร”หลากหลายรสชาติ

โดยก่อนที่จะต่อยอดความสำเร็จมาเป็นผลิตภัณฑ์ล่าสุดของแบรนด์มังกรทอง กับ“ยาดมสมุนไพรมังกรทอง” กระปุกน้ำเงินกับนวัตกรรมใหม่ล่าสุด ที่ปรับแก้ Pain Point ของคนชอบดมยาดมโดยเฉพาะ ด้วยการใช้นวัตกรรม M-Lock ที่ถือเป็นเจ้าแรกที่ใช้อุปกรณ์พิเศษล็อคเพื่อไม่ให้ไส้ยาดมร่วงออกมา แบบไม่มีอะไรมากั้นความสดชื่น ภายใต้สโลแกน “หอม เย็น ชื่นใจ มุมไหนไม่มีร่วง” ทำให้กระจายกลิ่นได้ดี หอมทันทีที่เปิดกระปุก ซึ่งหลังจากเปิดตัวยาดมสมุนไพรตรามังกรทองเมื่อปีที่ผ่านมา ได้รับการตอบรับจากผู้บริโภคเป็นอย่างดี และยังเป็นหนึ่งในไอเทมที่ “Lisa Blackpink” พกติดตัวอีกด้วย

ทั้งนี้ปัจจุบันกระแสนิยมของสมุนไพรในกลุ่มคนรุ่นใหม่เพิ่มขึ้นอย่างชัดเจน โดยมีมุมมองว่าเป็นผลิตภัณฑ์ที่มีประโยชน์และทันสมัย ไม่ใช่ของล้าสมัยอีกต่อไป นอกจากกระแสความนิยมในกลุ่มคนรุ่นใหม่แล้ว บุคคลมีชื่อเสียงในวงการบันเทิง ทั้งดาราและศิลปิน ยังมีบทบาทในการจุดกระแสให้ผลิตภัณฑ์สมุนไพรกลายเป็นไอเทมที่ต้องมีติดกระเป๋า ซึ่งมีผลต่อการเติบโตของตลาดสมุนไพรในประเทศไทย หากจะมองในแง่มุมของการค้า ตลาดสมุนไพรมีมูลค่ากว่า 50,000 ล้านบาท ขณะที่ Euromonitor คาดการณ์ว่าในปี 2569 จะมีมูลค่าสูงถึง 59,500 ล้านบาท และหากแยกตลาดยาดมออกมาให้เห็นชัดเจนขึ้น พบว่าตลาดยาดมมีมูลค่าประมาณ 4,500 ล้านบาท โดยมีอัตราการเติบโตเฉลี่ยต่อปี 10%

นางสาวนิชา กล่าวว่า แคมเปญ “คู่ซี้มียัง?” บริษัทต้องการสร้างการรับรู้ให้ผู้บริโภค ว่าแบรนด์มังกรทองไม่ใช่แบรนด์น้องใหม่ แต่เป็นแบรนด์สินค้าสมุนไพรคุณภาพ มีสินค้าชูโรงอย่างยาอมสมุนไพรที่อยู่คู่คนไทยมายาวนาน และในปีที่ผ่านมาบริษัทได้พัฒนาสินค้ายาดมสมุนไพรกระปุกสีน้ำเงิน โดยเจาะกลุ่มเป้าหมายคนรุ่นใหม่ เป็นอีกหนึ่งสินค้าคุณภาพภายใต้แบรนด์เดียวกัน

“ผลิตภัณฑ์ของอ้วยอันโอสถ ที่สามารถใช้ได้ในชีวิตประจำวันมีทั้งยาอม และยาดม เพื่อเป็นการสะท้อนแนวคิด เพื่อนซี้ที่อยู่ข้างตัว เราจึงคิดแคมเปญ คู่ซี้มียัง? เป็นการจับคู่คาแรกเตอร์ที่มีความน่ารัก สะดุดตา สร้างภาพลักษณ์ให้ทันสมัย เข้าถึงง่าย เป็นที่จดจำของกลุ่มเป้าหมาย อีกทั้งยังเป็นผลิตภัณฑ์สมุนไพรที่มีความปลอดภัย เป็นมิตร เป็นเพื่อนคู่ซี้ ทั้งดมชื่นใจ และอมชุ่มคอ”นางสาวนิชา กล่าว

โดยยาอมสมุนไพร ตรามังกรทอง มี 7 รสชาติ ได้แก่ รสเปลือกส้ม รสบ๊วยเค็ม รสมะนาว รสฟ้าทะลายโจร รสมะขามป้อม รสมะแว้ง รสกานพลู โดย “คู่ซี้มียัง?” จะจับคู่ยาดมสมุนไพรกับ ยาอมสมุนไพร 3 รสชาติยอดนิยม ได้แก่ ฝาส้ม-รสเปลือกส้ม, ฝาเหลือง-รสบ๊วยเค็ม และฝาเขียวเข้ม-รสมะนาว

“เป้าหมายของแคมเปญ คู่ซี้มียัง? คือ กลุ่มคนรุ่นใหม่ ซึ่งบริษัทมองเห็นว่าพฤติกรรมการใช้สินค้าสมุนไพรเปลี่ยนไปจากเดิม เราจึงจะสร้างคาแรกเตอร์ให้กับทั้ง 2 ผลิตภัณฑ์ให้มีความน่ารัก กลยุทธ์สำคัญสำหรับแคมเปญนี้คือ Storytelling เพื่อเป็นการสื่อสารให้แบรนด์เชื่อมโยงกับอารมณ์ของผู้บริโภคได้มากขึ้น การใช้สื่อ OOH (Out-of-Home Advertising) ตามจุดสำคัญในพื้นที่กรุงเทพฯ เช่น สถานีรถไฟฟ้า ห้างสรรพสินค้า และศูนย์รวมไลฟ์สไตล์ของคนรุ่นใหม่ และ การใช้ Influencer Marketing, Social Media Engagement เพื่อขยายการรับรู้แคมเปญผ่านช่องทางดิจิทัล เช่น TikTok, Instagram และ Facebook ซึ่งแน่นอนว่า ทั้งหมดนี้คือความตั้งใจที่จะส่งต่อผลิตภัณฑ์สมุนไพรคุณภาพสู่ผู้บริโภค” นางสาวนิชา กล่าว

-033