มีนา’68อสังหาฯกทม.-ปริมณฑลเปิดใหม่มูลค่า21,006ล้าน ส่วนใหญ่ชานเมือง-ห้องชุดราคากลางถึงถูก
25 เม.ย. 2568 นายโสภณ พรโชคชัย ประธานศูนย์ข้อมูลวิจัยและประเมินค่าอสังหาริมทรัพย์ไทย บจก. เอเจนซี่ ฟอร์ เรียลเอสเตท แอฟแฟร์ส (AREA) เปิดเผยว่า ในเดือน มี.ค. 2568 ที่ผ่านมา ภาพรวมของอสังหาริมทรัพย์ในเขตกรุงเทพฯ - ปริมณฑล มีการเปิดตัวจำนวนโครงการลดลง โดยมีโครงการเปิดขายใหม่รวม 18 โครงการ น้อยกว่าเดือน ก.พ. 2568 ส่งผลให้จำนวนหน่วยขาย และมูลค่าโครงการลดลง แต่มีราคาเฉลี่ยต่อหน่วยเพิ่มขึ้น
โดยอาคารชุดยังคงครองสัดส่วนหน่วยขายสูงสุดถึง 50.1% ของหน่วยขายทั้งหมดในเดือน มี.ค. 2568 และมีสัดส่วนขายได้สูงสุดด้วยเช่นกัน ขณะที่จำนวนอสังหาริมทรัพย์ที่เกิดขึ้นใหม่ในเดือนมี.ค. 2568 มีทั้งหมด 3,524 หน่วย ลดลง 1,207 หน่วย เมื่อเทียบกับเดือน ก.พ. 2568 ที่มีจำนวน 4,731 หน่วย หรือลดลงประมาณ 30.8% ทั้งนี้ ในเดือน มี.ค. 2568 ผู้ประกอบการรายใหญ่มีการเปิดตัวมากกว่ารายเล็กเช่นเดิม โดยส่วนใหญ่ร้อยละ 93 ของจำนวนหน่วยขายเป็นการพัฒนาโดยผู้ประกอบการในตลาดหลักทรัพย์ และบริษัทในเครือ
ซึ่งสัดส่วนหน่วยขายส่วนใหญ่มาจากการพัฒนาอาคารชุดระดับราคาปานกลางค่อนข้างถูก และการพัฒนาบ้านเดี่ยวระดับราคาค่อนข้างสูง ด้านมูลค่ารวมของการพัฒนาโครงการอสังหาริมทรัพย์ที่เกิดใหม่ในเดือน มี.ค. 2568 นี้มีมูลค่ารวมทั้งสิ้น 21,006 ล้านบาท ลดลง 320 ล้านบาท เมื่อเทียบกับเดือน ก.พ. 2568 ที่มีมูลค่า 21,326 ล้านบาท หรือลดลง ประมาณ 1.5%
โดยในเดือน มี.ค. 2568 ลักษณะการพัฒนาที่อยู่อาศัยจะแตกต่างกับเดือนที่ผ่านมาเล็กน้อย ซึ่งพบว่า อาคารชุดที่เข้าสู่ตลาดในเดือนดังกล่าวส่วนใหญ่จะเป็นระดับราคาปานกลางค่อนข้างถูก ส่วนบ้านแนวราบจะมีระดับราคาปานกลางค่อนข้างสูงถึงระดับราคาสูง เป็นสำคัญ และหากพิจารณาอัตราการขายได้ จะพบว่าในเดือนที่ 3 ของการเปิดขายมีอัตราการขายได้เฉลี่ยที่ 18.6% ซึ่งลดลงจากเดือนก่อนหน้าที่มีอัตราการขายได้ที่ 23.3% ต่อเดือน
“ประเภทอสังหาริมทรัพย์ที่มีอัตราการได้สูงสุด คือ อาคารชุด ระดับราคา 2-3 ล้านบาท จำนวน 379 หน่วย ขายได้แล้ว 255 หน่วย (67%) รองลงคือ อาคารชุด ระดับราคา 3-5 ล้านบาท จำนวน 389 หน่วย ขายได้แล้ว 224 หน่วย (58%) และอันดับ 3 คือ อาคารชุด ระดับราคา 5-10 ล้านบาท จำนวน 68 หน่วย ขายได้แล้ว 25 หน่วย (37%)” นายโสภณ ระบุ
นายโสภณ กล่าวต่อไปว่า ผู้ประกอบการที่เปิดตัวโครงการใหม่ในเดือน มี.ค. 2568 จะพบว่าเป็นบริษัทในตลาดหลักทรัพย์ (มหาชน) มีจำนวน 12 บริษัท คือ บริษัท เอพี (ไทยแลนด์) จำกัด (มหาชน) บริษัท แอสเซทไวส์ จำกัด (มหาชน) บริษัท เซ็นทรัลพัฒนา จำกัด (มหาชน) บริษัท วิลล่า คุณาลัย จำกัด (มหาชน) บริษัท ลลิล พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด (มหาชน) บริษัท แลนด์แอนด์เฮ้าส์ จำกัด (มหาชน) บริษัท โนเบิล ดีเวลลอปเมนท์ จำกัด (มหาชน) บริษัท พฤกษา เรียลเอสเตท จำกัด (มหาชน) บริษัท เสนาดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด (มหาชน)
บริษัท แสนสิริ จำกัด (มหาชน) บริษัท ศุภาลัย จำกัด (มหาชน) และ บริษัท ธนาสิริ กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) ตามลำดับ นอกจากนี้ก็ยังมีบริษัททั่วไปอีกจำนวนหนึ่ง สำหรับโครงการที่เปิดตัวใหม่ตั้งอยู่ในเขตกรุงเทพฯ ชั้นในจำนวน 1 โครงการ และตั้งอยู่ในส่วนต่อขยายเมือง (Intermediate area) จำนวน 5 โครงการ เช่น ย่านลาดพร้าว คู้บอน พระรามเก้า สุขุมวิทตอนปลาย ชัยพฤกษ์ เป็นต้น และยังมีอีก 12 โครงการที่อยู่ในพื้นที่รอบนอกเมือง ซึ่งเป็นชุมชนที่อยู่อาศัยในย่านแหล่งงานและสถานศึกษา เช่น รังสิต ลำลูกกา บางพลี เทพารักษ์ บางนา-ตราด บางใหญ่ บางบัวทอง เป็นต้น
“มูลค่าโครงการ 3 เดือนแรกของปี 2568 มีมูลค่าการโครงการรวม 50,321 ล้านบาท และจำนวนหน่วยขายรวมของ 3 เดือนแรกปี 2568 มีจำนวน 9,892 หน่วย คาดว่าในปี 2568 ทั้งปี มูลค่าโครงการอาจมีรวมกันเพียง 260,000 ล้านบาท รวมจำนวนหน่วยเพียง 55,395 หน่วย ซึ่งถือว่าลดลงกว่าปี 2567 เสียอีก แต่ทั้งนี้เป็นเพียงการประมาณการเบื้องต้น หากเศรษฐกิจดีขึ้นได้ ตลาดอสังหาริมทรัพย์ก็อาจเติบโตตามไป” นายโสภณ กล่าว
043...
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี