กรมการขนส่งทางบก แจ้งข่าวว่า กรมการขนส่งทางบก ตรวจควันดำรถบรรทุก และรถโดยสารต่อเนื่องทั่วประเทศ มุ่งป้องกันและแก้ไขปัญหา PM2.5 จากภาคคมนาคมขนส่ง อย่างมีประสิทธิภาพ และเป็นรูปธรรม ตามนโยบายรัฐบาลและกระทรวงคมนาคม
นายจิรุตม์ วิศาลจิตร อธิบดีกรมการขนส่งทางบก เผยผลการดำเนินการตรวจควันดำรถบรรทุกและรถโดยสารทั่วประเทศ ซึ่งเป็นการดำเนินการตามนโยบายของรัฐบาล และกระทรวงคมนาคม เพื่อป้องกันและแก้ไขปัญหาฝุ่นละอองขนาดเล็ก PM 2.5 โดยผลการตรวจวัดควันดำวันที่ 25 เมษายน 2568 มีผลการตรวจวัดควันดำรถโดยสารและรถบรรทุกทั่วประเทศ จำนวน 1,117 คัน พบรถที่มีค่าควันดำเกินเกณฑ์มาตรฐานที่ราชการกำหนด จำนวน 19 คัน ส่งผลให้ตั้งแต่วันที่ 1 ตุลาคม 2567 – 25 เมษายน 2568 ดำเนินการตรวจควันดำรถทั้งสิ้น 101,656 คัน พ่นห้ามใช้แล้วจำนวน 1,296 คัน
ทั้งนี้ กรมการขนส่งทางบกจะจัดทำบัญชี Blacklist และติดตามการใช้รถผ่านระบบ GPS หากพบว่ามีการฝ่าฝืนใช้รถคันกล่าว จะมีความผิดฐานฝ่าฝืนคำสั่งนายทะเบียนตามมาตรา 83 มีโทษปรับตามมาตรา 148 ปรับไม่เกิน 50,000 บาท โดยกำชับให้ผู้ประกอบการและเจ้าของรถทุกคันที่ถูกพ่นห้ามใช้ ต้องนำรถไปแก้ไขและนำรถเข้ารับการตรวจสภาพ ณ สำนักงานขนส่ง เมื่อผ่านการตรวจสภาพแล้วจึงจะสามารถนำรถไปใช้งานได้ นอกจากนี้ ประชาชนสามารถมีส่วนร่วมป้องกันและแก้ไขปัญหาฝุ่นละอองขนาดเล็ก PM2.5 ด้วยการส่งภาพรถบรรทุกและรถโดยสารควันดำที่สังเกตเห็นหมายเลขทะเบียนชัดเจน ให้ศูนย์คุ้มครองผู้โดยสารและรับเรื่องร้องเรียน สายด่วน 1584 ตลอด 24 ชั่วโมง •Line@: @1584DLT •Facebook: 1584 ร้องเรียนรถโดยสารสาธารณะ https://www.facebook.com/dlt1584/ •เว็บไซต์ http://ins.dlt.go.th/cmpweb/ •แอปพลิเคชัน DLT GPS •E-mail: dlt_1584complain@hotmail.com
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี