ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย(ตลท.) สรุปมูลค่าซื้อขายหลักทรัพย์สะสมตามกลุ่มนักลงทุนตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม- 25 เมษายน  2568  พบว่าสถาบันในประเทศขายสุทธิ 11,295.62  ล้านบาท บัญชีบริษัทหลักทรัพย์(โบรกเกอร์)ขายสุทธิ 10,093.18 ล้านบาท  นักลงทุนต่างประเทศขายสุทธิ 57,437.22 ล้านบาท นักลงทุนในประเทศ(รายย่อย)ซื้อสุทธิ 78,826.02 ล้านบาท

เฉพาะวันที่ 1-25 เมษายน 2568 พบว่าสถาบันในประเทศขายสุทธิ 6,140.06 ล้านบาท โบรกเกอร์ขายสุทธิ 66.86  ล้านบาท นักลงทุนต่างประเทศขายสุทธิ 17,569.98  ล้านบาท รายย่อยซื้อสุทธิ 23,776.90ล้านบาท

บริษัทศูนย์วิจัยกสิกรไทย สรุปความเคลื่อนไหวช่วงที่ผ่านมาดัชนีหุ้นไทยร่วงลงแรงช่วงต้นสัปดาห์ท่ามกลางความกังวลต่อสถานการณ์สงครามการค้า หลังมีรายงานข่าวว่าสหรัฐฯ จะกดดันให้ประเทศอื่นๆ โดดเดี่ยวจีน ซึ่งจีนก็พร้อมตอบโต้ประเทศที่ให้ความร่วมมือกับสหรัฐฯ ประกอบกับเลื่อนการเจรจาการค้าระหว่างไทย-สหรัฐฯ ออกไปอย่างไม่มีกำหนด ส่งผลให้เกิดแรงเทขายทำกำไรในหุ้นทุกกลุ่มอุตสาหกรรม โดยเฉพาะกลุ่มแบงก์ที่ประกาศผลประกอบการเสร็จสิ้นไปแล้ว

ดัชนีหุ้นไทยดีดตัวขึ้นในเวลาต่อมาจนถึงช่วงกลางสัปดาห์ โดยมีแรงหนุนจากแรงซื้อหุ้นกลุ่มพลังงานและเทคโนโลยี ประกอบกับนักลงทุนความคาดหวังต่อการเจรจาการค้าระหว่างสหรัฐฯ และประเทศคู่ค้าหลักอย่างญี่ปุ่นและอินเดีย นอกจากนี้ยังมีรายงานข่าวว่าสหรัฐฯ ลดท่าทีที่แข็งกร้าวต่อจีนลง โดยอาจจะไม่เรียกเก็บภาษีสินค้านำเข้าจากจีนในอัตราที่สูงมาก อย่างไรก็ดีท่าทีที่แข็งกร้าวของจีนต่อสหรัฐฯ และแรงขายทำกำไรหุ้นกลุ่มพลังงานส่งผลให้ดัชนีหุ้นไทยย่อตัวลงช่วงสั้นๆ ก่อนจะดีดตัวขึ้นอีกครั้งในช่วงท้ายสัปดาห์ตามทิศทางตลาดหุ้นภูมิภาค

แนวโน้มสัปดาห์นี้ (28 เมษายน-2 พฤษภาคม 2568) บริษัทหลักทรัพย์กสิกรไทย มองว่า ดัชนีหุ้นไทยมีแนวรับที่ 1,140 และ 1,125 จุด แนวต้านอยู่ที่ 1,175 และ 1,190 จุด ตามลำดับ ศูนย์วิจัยกสิกรไทย ประเมินปัจจัยสำคัญที่ต้องติดตาม ได้แก่ การประชุมคณะกรรมการนโยบายการเงิน หรือ กนง. ในวันที่ 30  เมษายนนี้ ผลประกอบการไตรมาส 1/2568 ของบริษัทจดทะเบียน(บจ.)ไทย ประเด็นความขัดแย้งทางการค้าระหว่างสหรัฐฯ และประเทศคู่ค้า รวมถึงทิศทางเงินทุนต่างชาติ