นายณัฐกิตติ์ ตั้งพูลสินธนา กรรมการผู้จัดการใหญ่ สายงานการตลาด บริษัท เซ็นทรัลพัฒนา จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า เซ็นทรัลพัฒนาต่อยอดความสำเร็จของ ‘เซ็นทรัล ภูเก็ต’ ศูนย์การค้าลักชัวรีหนึ่งเดียวในไทยนอกกรุงเทพฯ สู่แลนด์มาร์กระดับเวิลด์คลาส ด้วยพื้นที่รวมกว่า 400,000 ตร.ม. ครอบคลุมโซน Floresta, Festival และโครงการที่อยู่อาศัย พร้อมเดินหน้าขยายโซนลักชัวรีเพิ่มอีก 20,000 ตร.ม. ด้วยเงินลงทุน 3,000 ล้านบาท ส่งผลให้มูลค่าโครงการมิกซ์ยูสรวมกว่า 23,000 ล้านบา

โดยเฟสแรกของการขยายตัวจะเปิดให้บริการในไตรมาส 3 ปี 2569 ทำให้เซ็นทรัล ภูเก็ต กลายเป็นฟันเฟืองสำคัญในการยกระดับภูเก็ตสู่ Luxury & Lifestyle Destination และศูนย์กลางการท่องเที่ยวระดับพรีเมียมของเอเชีย ดึงดูดแบรนด์หรูจากทั่วโลก โดยล่าสุดได้ต้อนรับแบรนด์ดัง ได้แก่ BVLGARI, PRADA, Alo, COS ที่เปิดสาขาแรกนอกกรุงเทพฯ และ Orlebar Brown สาขาแรกในไทย ตอกย้ำศูนย์กลางลักชัวรีระดับโลก พร้อมขับเคลื่อนเศรษฐกิจ การท่องเที่ยว และอุตสาหกรรมรีเทลไทยอย่างครบวงจร

นอกจากนี้ เซ็นทรัล ภูเก็ต ยังเดินหน้ายกระดับศูนย์ฯ ด้วยการใช้ Data & AI สร้าง Personalized Shopping Journey และพัฒนา Loyalty Program ที่ตอบโจทย์ลูกค้าพรีเมียมอย่างลึกซึ้ง ปัจจุบันมีผู้ใช้บริการเฉลี่ย 80,000 คน/วัน คาดว่าจะเพิ่มเป็น 100,000 คน/วัน เมื่อโซนใหม่แล้วเสร็จในปี 2569 ไม่เพียงดึงทราฟฟิกเข้าสู่ศูนย์การค้า แต่ยังขยายโอกาสให้ร้านค้าไทยและ SMEs สร้างการกระจายรายได้สู่ท้องถิ่นอย่างยั่งยืน พร้อมสะท้อนศักยภาพของรีเทลไทยในการยกระดับเศรษฐกิจ และผลักดันประเทศไทยสู่การเป็น World-Class Shopping Destination อย่างแท้จริง

ทั้งนี้จากข้อมูลจากสำนักนายกรัฐมนตรีและสมาคมธุรกิจการท่องเที่ยวจังหวัดภูเก็ต ระบุว่า ปี 2567 ภูเก็ตครองอันดับ 1 จังหวัดที่มีรายได้จากการท่องเที่ยวสูงสุดของประเทศ มูลค่ากว่า 490,000 ล้านบาท โดยมีรัสเซีย จีน และอินเดียเป็นกลุ่มนักท่องเที่ยวหลักในปี 2568 สะท้อนศักยภาพของภูเก็ตในฐานะเมืองท่องเที่ยวที่ ไม่มี Low Season และสามารถดึงดูดนักเดินทางคุณภาพสูงได้ตลอดปี แม้จำนวนนักท่องเที่ยวจะยังไม่เท่าปี 2019 แต่รายได้กลับเพิ่มขึ้น โดยเฉพาะกุมภาพันธ์ที่มีอัตราเข้าพักสูงถึง 85%

-031