นายศุภชัย เจียรวนนท์ ประธานคณะผู้บริหาร บริษัทเครือเจริญโภคภัณฑ์ จำกัด เปิดเผยว่า  ทางกลุ่มได้เปิดตัว Amaze Super App  (อเมซ ซูเปอร์แอป)ในรูปแบบแอปช้อปปิ้งน้องใหม่จากเครือCP ที่มีจุดเด่นในด้านการรวมพอยท์จากบัตรเครดิตชั้นนำ และพอยท์จากสมาชิกในเครือ CP มาใช้จ่ายแทนเงินสดได้เป็นครั้งแรกของไทยถือเป็นก้าวแรกของ CP ในการเข้าสู่อีคอมเมิร์ซจะเรียกว่าCRM ของ อีคอมเมิร์ซ และยังเป็นส่วนหนึ่งของยุทธศาสตร์ ดิจิทัลทรานฟอร์เมชันของ CP ด้วยการขับเคลื่อนอีคอมเมิร์ซด้วย Data และ AI ที่จะช่วยทำให้เข้าใจผู้บริโภคดีขึ้น การไม่ได้เป็นเพียงมาร์เก็ตเพลสแต่เข้าใจผู้บริโภคด้วยข้อมูลและบริการหลังการขายจะเป็นการต่อยอดและขยายผลเป็นผู้ประกอบการอีคอมเมิร์ซระดับภูมิภาค

สำหรับ Amaze Super App คือการพัฒนาโครงสร้างเศรษฐกิจดิจิทัลที่เครือซีพีตั้งใจวางรากฐานให้เกิดขึ้นอย่างยั่งยืน ด้วยการเชื่อมโยงแต้มสะสมจากหลายแหล่งให้กลายเป็นมูลค่าจริงในชีวิตประจำวัน ผ่านระบบที่ปลอดภัย โปร่งใส และขับเคลื่อนด้วยเทคโนโลยีที่พัฒนาโดยคนไทย แนวทางการพัฒนาแพลตฟอร์มดิจิทัล คือ การสร้างระบบนิเวศที่เอื้อต่อการใช้ประโยชน์จากข้อมูล (Data) อย่างมีประสิทธิภาพ เคารพสิทธิของผู้บริโภคและเปิดโอกาสให้แบรนด์ไทยสามารถเข้าถึงกลุ่มลูกค้าได้อย่างตรงจุด ขณะเดียวกันก็วางพื้นฐานสำหรับการทำ Personalized Commerce และ Retail Media อย่างครบวงจรในอนาคตเรามุ่งหวังให้ Amaze Super App เป็นมากกว่าพื้นที่ซื้อขาย แต่เป็นโครงสร้างดิจิทัลที่ประเทศไทยสามารถเป็นเจ้าของเองได้สอดคล้องกับหลักปรัชญา 3 ประโยชน์ของเครือซีพีที่ยึดประโยชน์ของประเทศชาติ ประชาชน และองค์กรเป็นหลักพร้อมสนับสนุนการเติบโตอย่างยั่งยืนของเศรษฐกิจดิจิทัลไทยในระยะยาว

ดร.สรินทิพย์ สถิตย์เสถียร  กรรมการผู้จัดการ Amaze Super App แอปชอปปิ้งใหม่ในเครือซีพี ภายใต้บริษัท แอสเซนด์ คอมเมิร์ซ จำกัด กล่าวว่า ธุรกิจอีคอมเมิร์ซเป็น 1 ใน 8 ธุรกิจเสาหลักของเครือซีพีประกอบด้วยธุรกิจเกษตรอุตสาหกรรมและอาหารธุรกิจค้าปลีกธุรกิจสื่อสารและโทรคมนาคม ธุรกิจอีคอมเมิร์ซและดิจิทัล ธุรกิจพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ธุรกิจยานยนต์และอุตสาหกรรมธุรกิจยาและเวชภัณฑ์ธุรกิจการเงินและการธนาคารที่สำคัญ เป็นธุรกิจที่สร้างโอกาสการเติบโตของทุกๆ กลุ่ม ข้อมูลจากกรมพัฒนาธุรกิจการค้า กระทรวงพาณิชย์ ระบุว่า ตลาดอีคอมเมิร์ซของไทยมีอัตราการเติบโตอย่างรวดเร็วจาก 6.34 แสนล้านบาท ในปี 2566 เป็น 6.94 แสนล้านบาท ในปี 2567 เติบโตเฉลี่ยปีละ 6% และคาดว่าปี 2568 จะเติบโตถึง 7.5 แสนล้านบาท

สำหรับ Amaze Super App  เราตั้งเป้าหมายจะเป็นผู้นำด้านเทคโนโลยีปฏิวัติการใช้พอยต์และพลิกโฉมการชอปของคนไทย โดยเฉพาะ Pain Point เรื่องพอยต์หมดอายุ โดยลูกค้าสามารถใช้ Amaze Super App  รวบรวมพอยต์จาก ALL POINT, My Lotus’s, Makro PRO POINT, True Point รวมถึงพอยต์จากบัตรเครดิต ไม่ว่าจะเป็น KrungSri, FirstChoice, POINTX, UOB, BBL, GSB และ KBank ไว้ในกระเป๋าพอยต์ที่เดียว  เช่น ผู้ใช้สามารถรวมพอยต์มาเป็นอเมซพอยท์ ซื้อสินค้าที่ร้าน 7-Eleven และ Lotus’s และใช้ชอปสินค้าแบรนด์ดังพร้อมรับประกันของแท้ 100% จาก Amaze Mall (อเมซมอลล์ )ที่มีให้เลือกมากกว่า 500 ร้านค้า

ดร.สรินทิพย์ กล่าวว่า ​​Amaze Super App  คือจุดเริ่มต้นของการปฏิวัติโครงสร้างการใช้พอยท์ในไทย เรามองเห็นศักยภาพของพอยท์ที่คนไทยมีอยู่แต่ยังใช้งานได้ไม่เต็มประสิทธิภาพ นอกจากนี้ เรายังมุ่งมั่นสร้างอีโคซิสเต็มที่มีประสิทธิภาพ พร้อมผลักดันร้านค้าพันธมิตรเข้าสู่โลกดิจิทัลด้วยต้นทุนที่ต่ำลงและโอกาสในการเข้าถึงฐานลูกค้าในเครือซีพีที่มีอยู่กว่า 30 ล้านคน เพื่อให้ต้นทุนของการค้าขายออนไลน์ลดลงจริง ทั้งในฝั่งร้านค้า แพลตฟอร์ม และผู้บริโภค เพราะเมื่อต้นทุนลดลง ผู้บริโภคก็จะได้ซื้อสินค้าที่ถูกลง ทำให้ทุกฝ่ายได้ประโยชน์ร่วมกัน

“เรายังมุ่งให้ Amaze Mall  เป็นอีกหนึ่งช่องทางในการสนับสนุนร้านค้าเช่น Amaze Mall Day ที่มอบส่วนลดพิเศษและ Pointback สูงสุดถึง 15% เพื่อช่วยขยายฐานลูกค้าพร้อมด้วยเครื่องมือบริหารจัดการที่ใช้งานง่าย และทีมงานผู้เชี่ยวชาญทั้งหมดนี้สอดคล้องกับเป้าหมายของ Amaze Super App  ที่ต้องการขยายจำนวนร้านค้าให้ครอบคลุมเป็น 1,800 ร้านค้าภายในสิ้นปีนี้ เพื่อยกระดับประสบการณ์ช้อปปิ้งและสร้างอีโคซิสเต็มทางธุรกิจที่เติบโตอย่างยั่งยืนร่วมกัน” ดร. สรินทิพย์ กล่าว

-031