ตอนนี้เรื่องสำคัญที่จะไม่พูดถึงคงจะไม่ได้ คือ การเยียวยาต่อลมหายใจให้ ภาคอุตสาหกรรมโทรคมนาคมของไทย ให้เดินหน้าต่อไป เพราะอุตสาหกรรมโทรคมนาคม ถือเป็นหัวใจสำคัญที่ขับเคลื่อน นำพาประเทศให้เดินหน้าต่อไปได้ และ ทัดเทียมนานาประเทศ และกระตุ้นให้เกิด 5G ขึ้นในประเทศไทยโดยเร็วเป็นไปตามเป้าหมายที่รัฐบาลกำหนดไว้ที่จะให้ประเทศไทยมี 5G ภายในปี 2563...เพราะหากเราจะมองไปถึงประเทศเพื่อนบ้าน อย่างเกาหลีใต้, ญี่ปุ่น และจีน ที่วันนี้รุดหน้าไปอย่างรวดเร็ว เตรียมพร้อมรองรับเทคโนโลยี 5G อย่างเต็มที่ และเริ่มการทดลองใช้งานแล้ว โดยญี่ปุ่นและเกาหลีใต้ ระบุว่าจะเริ่มต้นใช้งาน 5G อย่างเป็นทางการในปี 2020 รวมถึง สปป.ลาว ที่วันนี้เทคโนโลยีก้าวนำไกลไปถึง 5G เรียบร้อยแล้ว
การที่รัฐบาลละล้าละลัง ไม่กล้าตัดสินใจยื่นมือช่วยเหลือภาคอุตสาหกรรมโทรคมนาคมของไทย โดยเฉพาะประเด็น การขยายเวลาผ่อนชำระค่าคลื่น 900 MHZ ตามที่ผู้ประกอบการภาคเอกชนร้องขอ ทำให้ความเสียหายเกิดขึ้นกระทบเป็นวงกว้าง เห็นได้จาก ไม่มีเอกชนรายใดเข้ายื่นประมูลคลื่น 1800 MHZ เป็นเหตุให้ กสทช.ต้องพับแผนการประมูล คาดการณ์ทำนายอนาคตได้ว่า สิ่งที่รัฐบาลประกาศไว้ ในปี 2563 ประเทศไทยจะก้าวเข้าสู่ยุค 5G คงล้มไม่เป็นท่าอย่างแน่นอน หรือได้แต่ฝันลมๆ แล้งๆ!!!!!
สอดคล้องกับ นักวิชาการ ภาคเอกชนโทรคมนาคม รวมถึง กสทช. ที่พูดเป็นเสียงเดียวกันว่า หากประเทศไทยไม่มี 5 G ความเสียหายจะเกิดขึ้นกับประเทศชาติและประชาชนอย่างแน่นอน
นายสมเกียรติ ตั้งกิจวานิชย์ ประธานสถาบันวิจัยเพื่อการพัฒนาประเทศไทย(ทีดีอาร์ไอ) พูดในงานสัมมนา “ทำอย่างไรให้ “5G เทคโนโลยีพลิกโลก” เกิดขึ้นจริงในไทย” จัดโดยบริษัท มติชน จำกัด (มหาชน) ร่วมกับ สำนักงานคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ(กสทช.) โดยระบุว่า ผู้ใช้ 5G กลุ่มใหญ่คืออุตสาหกรรม โดยเฉพาะภาคโรงงานและการผลิต ดังนั้น 5G จะมีความสำคัญที่จะช่วยเพิ่มขีดความสามารถการแข่งขันของไทย หากอุตสาหกรรมไทยไม่มี 5G ใช้ แต่ประเทศอื่นมี ก็จะเกิดการย้ายผลิตอย่างแน่นอน ผลเสียตกอยู่ที่ประเทศชาติ!!
ส่วนผู้ประกอบการโทรคมนาคมทั้ง 3 ค่าย เอไอเอส ทรู และ ดีแทค ประสานเสียงชัดเจน ว่า 5G ไม่ได้มาทดแทน 4G แต่เป็นส่วนเติมเต็ม โดยเฉพาะกับภาคอุตสาหกรรม ที่สำคัญ 5G
เป็นเครื่องมือสำคัญที่ช่วยพัฒนาประเทศ ฉะนั้นอยู่ที่ภาครัฐว่าจะผลักดันให้เป็นแบบไหน แต่ 5G จะเกิดได้ต้องมีคลื่นมีโรดแมปที่ชัดเจน
ขณะที่นายฐากร ตัณฑสิทธิ์ เลขาธิการ กสทช. คาดว่า ปี 2573 จะเกิดการใช้ 5G อย่างเต็มรูปแบบ แต่ถ้า 5G ไม่เกิดขึ้นภายในปี 2573 จะทำให้ไทยสูญเสียโอกาสทางเศรษฐกิจถึง 2.3 ล้านล้านบาท คิดเป็นราว 20% ของ GDP 5G จะทำให้เกิดการลงทุนและมูลค่าเพิ่มจาก 2 แสนล้านบาท ในปี 2563 พุ่งถึง 2.3 ล้านล้านบาท ในปี 2573 ถ้าเกิดขึ้นช้าจะสูญเสียมูลค่าเพิ่มตรงนี้ คิดเป็น 77% ของงบประมาณแผ่นดินในปัจจุบัน โดยภาคการผลิตและภาคอุตสาหกรรมจะกระทบสุด จะเสียโอกาสสร้างมูลค่าเพิ่มไปกว่า 7 แสนล้านบาท ถึง 1.6 ล้านล้านบาท หรือ 10-30% ของมูลค่าภาคอุตสาหกรรมของไทยในปัจจุบัน
เสียงสะท้อนจากทุกภาคส่วนที่เกิดขึ้นในวงสัมมนาครั้งนี้ ชี้ให้เห็นชัดเจนว่า หากประเทศไทยไร้ 5G จะเสียหายอย่างไร ถึงเวลาหรือยังที่รัฐบาลต้องใช้ความเด็ดขาด กล้าที่จะกระโดดลงมาช่วยเหลือภาคอุตสาหกรรมโทรคมนาคมอย่างจริงจัง ด้วยการขยายเวลาผ่อนชำระค่าคลื่น 900 MHZ เพื่อให้ผู้ประกอบการโทรคมนาคมได้มีเวลาหายใจ และได้มีโอกาสเข้าร่วมประมูลคลื่น 1800 MHZ ผลักดันให้เกิด 5G เกิดขึ้นในประเทศไทยโดยเร็ว รัฐบาลต้องชั่งน้ำหนักความเสียหายที่จะเกิดขึ้น เพราะท้ายที่สุดแล้ว ประเทศชาติและประชาชนคือผู้ที่รับผลของการกระทำของรัฐบาล!!!!!!
เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี