ในเวลานี้...ปฏิเสธไม่ได้ว่า...โครงการพัฒนาพื้นที่ระเบียงเศรษฐกิจภาคตะวันออก หรือ อีอีซี...คือผลงานชิ้นใหญ่ที่สุดของรัฐบาลที่จะทำให้เกิดการยกระดับขีดความสามารถในการแข่งขันของภาคธุรกิจไทย และเป็นอีกหนึ่งโครงการที่จะดึงดูเม็ดเงินลงทุนมหาศาล...ทั้งจากนักลงทุนไทยและต่างประเทศ....ซึ่งภายใต้โครงการ อีอีซี..จะมีการลงทุนด้านโครงสร้างพื้นฐานมากมาย ซึ่งเฉาะภาคการขนส่งก็มีครบทั้ง ทางบก น้ำ อากาศ และระบบราง...
และหนึ่งในโครงการที่กำลังเป็นที่สนใจของนักลงทุนทั่วโลกอยู่นี้คือ...โครงการรถไฟความเร็วสูงเชื่อม 3 สนามบินดอนเมือง-สุวรรณภูมิ-อู่ตะเภา ระยะทาง 220 กม. รวมพัฒนาเชิงพาณิชย์สถานีมักกะสัน 150 ไร่ ศรีราชา 25 ไร่ วงเงินลงทุน 2.2 แสนล้านบาท....ด้วยตัวโครงการที่น่าสนใจด้วยเม็ดเงินลงทุนมหาศาลแล้ว..ด้วยเหตุที่รัฐบาลพยายามจะเร่งให้เกิดโครงการขึ้นมาภายในปี 2562 จึงทำให้ถนนของนักลงทุนทุกสายมุ่งตรงมาตรงนี้...
ซึ่งหลังจากที่...การรถไฟแห่งประเทศไทย (ร.ฟ.ท.) ในฐานะเจ้าของโครงการ...เปิดขายเอกสารประกวดราคาก่อสร้างโครงการฯไปเมื่อวันที่...18 มิ.ย.-9 ก.ค. 2561...ก็ปรากฏว่า นักลงทุนไทยและต่างชาติสนใจซื้อซองประมูลถึง 31 ราย แยกเป็น บริษัทไทย 14 ราย จีน 7 ราย ญี่ปุ่น 4 ราย ฝรั่งเศส 2 ราย มาเลเซีย 2 ราย เกาหลี 1 ราย และอิตาลี 1 ราย....
แต่สิ่งหนึ่งที่เป็นกระแสอย่างต่อเนื่องเกี่ยวกับการลงทุนของรับในเมกะโปรเจกท์ทั้งหลายก็คือว่าผลประโยชน์ส่วนใหญ่ควรจะตกอยู่ในมือของกลุ่มธุรกิจไทย...และกระจายไปยังธุรกิจหลากหลายกลุ่ม...และลงไปถึงทั้งธุรกิจกลุ่มเล็ก กลาง และใหญ่...คือพูดง่ายๆ ก็ควรจะกระจายโอกาสให้ทั่วถึงกันทุกส่วน....
แน่นอนล่ะว่าไทยเองไม่เคยมีเทคโนโลยีรถไฟความเร็วสูงมาก่อน ซึ่งก็ไม่แปลกอะไรที่กลุ่มทุนไทยจะร่วมมือกับกลุ่มทุนต่างชาติที่เป็นเจ้าของเทคโนโลยีนี้...แต่ในส่วนอื่นๆไม่ว่าจะเป็นงานโยธา...งานก่อสร้างสถานี...การบริหารจัดการพื้นที่ในโครงการ...ฯลฯ ผลประโยชน์เหล่านี้ควรตกอยู่ในมือของกลุ่มธุรกิจไทย...และสินค้าในกลุ่มวัสดุก่อนสร้างที่ต้องใช้ในโครงการนี้...ก็ควรจะเป็นของไทยให้มากที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้....
อย่าให้เหมือนโครงการรถไฟความเร็วสูงไทย-จีน....ที่คนไทยต้องแบกหนี้ก้อนโตเพื่อก่อสร้างโครงการ...แต่สุดท้ายกลายเป็นว่าเราได้มาแต่....หนี้กับแค่ความหวังว่าจะสร้างโอกาสทางเศรษฐกิจให้ไทยได้จริง....ในขณะที่เค้กก้อนโต...ตกไปอยู่ในมือธุรกิจเหล็กจีน...ที่ได้โอกาสระบายสต๊อกเหล็กที่กำลังล้นประเทศ....หรือบริษัทผลิตรถไฟฟ้าของจีน...ที่ได้โอกาสระบายของหรือโละเทคโนโลยีที่อาจจะไม่ได้อัพเดทล่าสุด...เมื่อเทียบกับ เทคโนโลยีของ ญี่ปุ่น หรือฝรั่งเศส....
ในเมื่อลูกหลานไทยจะต้องแบกภาระหนี้ไปอีกหลายชั่วอายุคน...ก็ควรคำนึงถึงผลประโยชน์ของคนในชาติเป็นอันดับต้นๆ....
เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี