บริษัทหลักทรัพย์ (บล.) เมย์แบงก์ (ประเทศไทย) วิเคราะห์หุ้นธนาคารกรุงเทพ หรือ BBL เรามีมุมมองบวกต่อแนวโน้มการเติบโตแข็งแกร่งของสินเชื่อธุรกิจและต้นทุนสินเชื่อที่ลดลงในปี 2565 โดย BBL น่าจะได้ประโยชน์จากความต้องการสินเชื่อที่แข็งแกร่งจากการลงทุนในโครงสร้างพื้นฐานคาดว่าการเติบโตของสินเชื่อและ NIM จะดีขึ้นในครึ่งปีหลังเนื่องจากการเบิกเงินกู้ใหม่พร้อมอัตราดอกเบี้ยที่สูงขึ้น คุณภาพสินทรัพย์ไม่น่าห่วงเนื่องจาก NPL coverage สูงถึง 229% ในไตรมาส 1/65 คงคำแนะนำ ซื้อ ราคาเป้าหมาย 165 บาทความเสี่ยงที่สำคัญการเติบโตของรายได้ช้ากว่าที่คาดไว้

ในการประชุมนักวิเคราะห์BBL ยังคงเป้าหมายการเติบโตของสินเชื่อที่ 4-6% ในปีนี้ (4-6% สำหรับทุกกลุ่ม ยกเว้น SME ที่ 1-3%) เทียบกับ 0% YTD ในไตรมาส 1/65 ผู้บริหารคาดว่าการเติบโตของสินเชื่อจะฟื้นตัวในครึ่งปีหลัง 2565 และเห็นความต้องการสินเชื่อที่แข็งแกร่งในสินเชื่อธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับการลงทุนโครงสร้างพื้นฐาน ข้อตกลงในการควบรวมกิจการ และการปล่อยสินเชื่อในต่างประเทศในระยะต่อไป การเปิดประเทศคาดจะส่งผลให้กิจกรรมทางเศรษฐกิจ/การท่องเที่ยวดีขึ้น BBL คาดว่าการลงทุนโครงสร้างพื้นฐานสาธารณะและการท่องเที่ยวระหว่างประเทศจะหนุนการเติบโตของ GDP 3-4% ในปี 2565 ทั้งนี้ มีแรงงาน 10 ล้านคนในภาคการท่องเที่ยวและคิดเป็น 15% ของ GDP จากทั้งหมด 5% มาจากในประเทศและ 10% มาจากนักท่องเที่ยวต่างประเทศ

BBL เผยว่าผลกระทบจาก Omicron จำกัดมากกว่าที่คาดไว้มาก นอกจากนี้ BBL ยังมีความเสี่ยงด้านสินเชื่อที่จำกัดในภาคการท่องเที่ยวและบริการ โดยธนาคารยังคงสำรองไว้ 2.6 หมื่นล้านบาทในปี’65 (เทียบกับที่เราคาดการณ์ไว้ที่ 2.9 หมื่นล้านบาท) จาก 3.1 - 3.4 หมื่นล้านบาท ในปี 62-64 ผู้บริหารคาดว่า NIM จะทรงตัว YoY ที่ 2.10% ในปี 65 (เทียบกับ 2.04%ในไตรมาส 1/65) เราคาดว่า NIM จะดีขึ้นจากผลตอบแทนเงินกู้ที่สูงขึ้นในครึ่งปีหลัง เนื่องจากธนาคารอาจเรียกเก็บผลตอบแทนเงินกู้ที่สูงขึ้นจากการเบิกเงินกู้ใหม่ตามผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลที่ปรับตัวสูงขึ้น

เงินให้สินเชื่อภายใต้โครงการบรรเทาหนี้ทรงตัว QoQ ที่ 11% ของสินเชื่อรวมในไตรมาส 1/65 และส่วนใหญ่เป็นสินเชื่อแก่ SMEs ในภาคบริการ จากทั้งหมด 50% อยู่ในโครงการสีน้ำเงิน (เสนออัตราดอกเบี้ยที่ต่ำกว่าและการปรับลดหนี้) และ 50%ในรูปแบบสีส้ม (ขยายระยะเวลาการชำระเงินและผ่อนชำระที่ต่ำกว่า ไม่มีการลดอัตราดอกเบี้ย) ธนาคารตั้งเป้าอัตราส่วน NPL ที่ <4.0% ในปีนี้ เทียบกับ 3.3% ในไตรมาส 1/65

ที่มา : บล.เมย์แบงก์ (ประเทศไทย)