บริษัทหลักทรัพย์(บล.)โกลเบล็กวิเคราะห์หุ้นบริษัท ธนพิริยะ (TNP)เราคาดรายได้งวด 4Q65 ราว 646 ล้านบาท -6%YoY +4%QoQโดยคาดรายได้หดตัว YoYเนื่องจากมาตรการกระตุ้นการใช้จ่ายของภาครัฐที่สนับสนุนวงเงินต่อคนน้อยลงจากปีก่อน(Table1) สะท้อนการเติบโตยอดขายสาขาเดิม (SSSG) ที่คาดจะหดตัวราว 16%YoY อย่างไรก็ตาม รายได้รวมหดตัวลงไม่มากเนื่องจากแผนการขยายสาขาใหม่อย่างต่อเนื่องช่วยชดเชยรายได้บางส่วนที่หายไปจากมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ โดย ณ ปลายธันวาคม 2565 มีสาขาทั้งสิ้น 43 แห่ง (+5 สาขา YoY +2 สาขา QoQ)

อย่างไรก็ตาม รายได้ยังคงเติบโต QoQจากการเข้าสู่ช่วง High Season ประกอบกับเศรษฐกิจภายในประเทศเริ่มฟื้นตัว ขณะที่%GPM คาดที่ระดับ 17.2% (4Q64 = 17.4%, 3Q65 = 16.9%) และ %SG&A/Salesคาดที่ระดับ 10.0% (4Q64 = 8.3%, 3Q65 = 10.0%) ส่งผลให้เราคาดกำไรงวด 4Q65 ราว 38.6 ล้านบาท-28%YoY +4%QoQและคาดกำไรทั้งปี 2565 ที่ราว 145.7 ล้านบาท-24%YoY ทั้งนี้งวด9M65 มีกำไร 107.1 ล้านบาทคิดเป็น 74% ของประมาณการกำไรปี 2565

• คงประมาณการกำไรปี 2566 โต15%

:เราคงคาดการณ์รายได้ปี 2566 ราว2,742 ล้านบาท+14% โดยรายได้มีแนวโน้มเติบโตจากปีก่อนตามแผนขยายสาขาใหม่อีก 6 สาขา สู่ทั้งหมด 49 สาขา ณ สิ้นปี 2566 ประกอบกับคาดบริษัทจะได้รับอานิสงส์จากการปรับวงเงินสนับสนุนในบัตรสวัสดิการฯเพิ่มอีก 200 บาท เป็น 400-500 บาท ภายในช่วงเดือนมกราคม 2566ขณะที่มาตรการ “ช้อปดีมีคืน” เราคาดว่าบริษัทจะได้รับผลประโยชน์ไม่มากเนื่องจากมูลค่าการซื้อสินค้าต่อบิลต่ำส่วนสมมุติฐาน% GPM คงคาดที่ระดับ 17.1% เพิ่มขึ้นจากปี 2565 เล็กน้อยที่ 17.1% ส่งผลให้เราคงคาดการณ์กำไรสุทธิปี 2566 ราว168 ล้านบาท +15% ทั้งนี้แนวโน้มผลประกอบการปี 2566 ยังไม่ได้รวมอัปไซต์จากมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจอื่นๆ ที่อาจมีเพิ่มเติม

• คงคำแนะนำ “ซื้อ”

:เราคงราคาเหมาะสม TNP ที่ 5.75 บาท โดยอิง Prospective PERที่ระดับเดิม 27.5x และคาดการณ์กำไรต่อหุ้นปี 2566 ราว 0.21 บาท/หุ้นปัจจุบันราคาหุ้นซื้อขายที่ PER เพียง 20.8x ซึ่งยังคงต่ำกว่าค่าเฉลี่ยของอุตสาหกรรมค้าปลีกที่ระดับ 35.2xโดยราคาเป้าหมายมีอัปไซต์จากราคาปัจจุบัน 38% และจ่ายปันผลในอัตราราว 2% ต่อปี ส่งผลให้เราคงคำแนะนำ “ซื้อ”

ที่มา : บล.โกลเบล็ก