กำหนดวันเลือกตั้งใหญ่ สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (สส.) ใกล้เข้ามาทุกทีในวันที่ 14 พ.ค. 2566 นี้แล้ว ผู้มีสิทธิเลือกตั้งจะต้องออกเสียงลงคะแนนเพื่อเลือก สส.เขต และ สส.บัญชีรายชื่อ โดยต้องกาบัตรลงคะแนน 2 ใบ แยกกัน
ผู้ที่สนใจการเมือง หากสังเกตให้ดีจะเห็นว่า การเลือกตั้ง สส.ในประเทศไทย มีความแปลกที่แตกต่างและไม่เหมือนกับประเทศอื่นหลายประการ อาทิ
การเลือกตั้ง สส. แต่เดิมมีเฉพาะการเลือกตั้ง สส.เขต ประเทศไทยเริ่มมีการเลือกตั้ง สส.บัญชีรายชื่อครั้งแรกในการเลือกตั้งเมื่อ พ.ศ. 2544 ตามรัฐธรรมนูญ พ.ศ. 2540 โดยที่ประเทศไทยได้รับเอาแนวความคิดมาจากประเทศเยอรมนีมาใช้ ที่เห็นว่า ควรเปิดโอกาสให้ผู้ที่มีความรู้ความสามารถ และความเชี่ยวชาญในสาขาต่างๆ ได้เข้ามาทำหน้าที่เป็น สส.ในสภา แต่คนเหล่านั้นไม่ถนัดในการพบปะ และหาเสียงกับประชาชน ซึ่งน่าจะเป็นประโยชน์ในการพัฒนาประเทศ จึงได้มีการกำหนดให้มี สส. บัญชีรายชื่อ
แต่ สส. บัญชีรายชื่อของไทยได้เพี้ยนและแปลกไป ตรงที่ลำดับผู้สมัครเป็น สส.ระบบบัญชีรายชื่อของไทยอันดับต้นๆ จะเป็นนักการเมืองผู้อาวุโสที่มีบารมี หรือผู้มีอุปการคุณที่บริจาคเงินให้แก่พรรคการเมืองเป็นจำนวนมาก เพื่อที่บุคคลเหล่านี้จะได้ไม่ต้องเหนื่อยหาเสียงแบบ สส.เขต จึงมีโอกาสสูงที่ได้รับเลือกเป็น สส.บัญชีรายชื่อ ส่วนผู้ที่มีความรู้ความสามารถจริง มักจะถูกจัดให้อยู่ในลำดับผู้สมัครเป็น สส.บัญชีรายชื่อลำดับท้ายๆ จึงทำให้ไม่ค่อยได้มีโอกาสเป็น สส. บัญชีรายชื่อหรือแทบไม่มีโอกาสเลย
การกำหนดห้ามจำหน่ายเหล้า หรือเครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์ก่อนวันเลือกตั้งล่วงหน้า และในวันเลือกตั้งผู้ฝ่าฝืนมีโทษทางอาญาด้วย (มาตรา 147 แห่ง พ.ร.บ.ว่าด้วยการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร พ.ศ. 2561)โดยเหตุผลที่ว่า ไม่ต้องการให้มีการเลี้ยง ชักจูงให้ผู้มีสิทธิรับลงคะแนนเสียงเลือกตั้ง ให้แก่ผู้สมัคร สส. หรือพรรคที่เป็นเจ้าภาพเลี้ยง จึงเป็นที่แปลกใจและสงสัยแก่นักท่องเที่ยวต่างชาติเป็นอย่างมากว่า การขายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์จะเกี่ยวข้องกับการเลือกตั้งได้อย่างไร ซึ่งเป็นเพราะนักท่องเที่ยวต่างชาติเหล่านั้นยังไม่เข้าใจแนวคิดและวิถีชีวิตของคนไทย
การห้ามถ่ายรูปบัตรเลือกตั้งหลังการลงคะแนนผู้ฝ่าฝืนก็มีโทษทางอาญาด้วย (มาตรา 97 ประกอบมาตรา 165 แห่ง พ.ร.บ. ว่าด้วยการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร พ.ศ. 2561) สาเหตุที่กฎหมายห้ามไว้ เพราะเกรงว่าจะเป็นพฤติกรรมยืนยันว่าผู้มีสิทธิเลือกตั้งคนนั้นได้ลงคะแนนให้ผู้สมัครหรือพรรคที่ลงสมัครรับเลือกตั้งจริงๆ เพื่อรับสินจ้างหรือประโยชน์จูงใจในภายหลังนี้ กรณีนี้ในหลายประเทศไม่มีกฎหมายห้ามไว้ แต่ไม่มีคนที่มีพฤติการณ์ดังกล่าว
ผู้มีสิทธิเลือกตั้งในประเทศไทย มีบัตรประชาชน และมีสิทธิเลือกตั้งในหน่วยเลือกตั้งที่มีความเกี่ยวข้องสัมพันธ์กับทะเบียนบ้านของตน กรณีนี้จะแตกต่างกับหลายประเทศ เช่น ประเทศสหรัฐอเมริกา คนอเมริกัน ไม่มีบัตรประชาชนเพียงยืนยันตัวตนด้วยใบขับขี่ และจะลงคะแนนเลือกตั้งในหน่วยเลือกตั้งที่ตนได้รายงานตัวไว้ก่อน เพราะคนอเมริกันไม่มีทะเบียนบ้าน
นักเรียนไทยในอเมริกาได้ เคยถาม เจ้าหน้าที่ประจำหน่วยเลือกตั้งในอเมริกาว่า หากมีคนรายงานตัวที่หน่วยเลือกตั้งหลายหน่วย และใช้สิทธิเลือกตั้งทุกหน่วยที่รายงานตัวไว้ในวันเดียวกัน เจ้าหน้าที่จะทราบและห้ามหรือไม่ คำตอบที่ได้คือ เจ้าหน้าที่หน่วยเลือกตั้งอาจไม่ทราบ แต่เขาเชื่อว่าคนอเมริกันจะไม่ทำเช่นนั้น คำตอบเช่นนี้แสดงว่า พวกเขายังรู้จักคนไทยน้อยเกินไป
กรณีที่แปลกประหลาดมากที่สุด คือ ในการเลือกตั้งล่วงหน้า ในประเทศไทยเมื่อวันที่ 7 พฤษภาคม2566 ที่ผ่านมา หน้าซองที่ใส่บัตรเลือกตั้งล่วงหน้า เพื่อส่งไปยังหน่วยเลือกตั้งประจำเขตปกติ ที่มีช่องให้ใส่เลข 5 ตัว ซึ่งมีความหมายว่า 2 ตัวแรกเป็นรหัสจังหวัด 3 ตัวหลังเป็นรหัสเขตเลือกตั้ง ได้สร้างความสับสนอลหม่าน ทั้งผู้ใช้สิทธิเลือกตั้ง และเจ้าหน้าที่ประจำหน่วยเลือกตั้งซึ่งเป็นคนของคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) หลายคนเข้าใจเองว่าช่องสำหรับกรอกหมายเลข 5 หลัก เป็นช่องเพื่อกรอกรหัสไปรษณีย์ ซึ่งได้เขียนที่หน้าซองและหย่อนลงไปในหีบบัตรเลือกตั้งแล้ว
ผู้ใช้สิทธิเลือกตั้งบางคนมีข้อสงสัยได้ทักท้วง จนได้คำตอบที่ชัดเจน ปัญหามีว่า ซองใส่บัตรเลือกตั้งที่หย่อนลงไปในหีบเลือกตั้งแล้ว จะแก้ไขอย่างไร ซึ่งในความจริงคงจะแก้ไขไม่ได้ และกลายเป็นบัตรเสีย หรือเป็นคะแนนที่ผิดเพี้ยนไปในที่สุด
ปัญหานี้ กกต. ต้องรับผิดชอบไปเต็มๆ เพราะเป็นผู้ที่ได้รับงบประมาณในการจัดเลือกตั้งไม่น้อยกว่า 6,000 ล้านบาท ทำไมจึงไม่จัดอบรมและซักซ้อมเจ้าหน้าที่ประจำหน่วยเลือกตั้ง ให้มีความเข้าใจถูกต้องตรงกัน จะได้ไม่เกิดความสับสน หรือเป็นเพราะไปดูงานต่างประเทศมากเกินไป กรณีที่เกิดขึ้น เมื่อเจ้าหน้าที่เองยังไม่เข้าใจ แล้วจะให้ประชาชนทั่วไปเข้าใจและปฏิบัติตนให้ถูกต้องได้อย่างไร
วันเลือกตั้งใหญ่ในวันที่ 14 พฤษภาคม 2566 นี้ จะเป็นวันที่กำหนดและชี้ชะตาประเทศไทยต่อไปในอนาคต ผู้มีสิทธิออกเสียงเลือกตั้ง จึงควรมาใช้สิทธิอย่างเต็มที่
เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี