nn จากกรณีทีมีการเผยแพร่ข่าวในสื่อต่างๆประเด็น...ความไม่โปร่งใสและภาระทางการคลังที่เพิ่มขึ้นจากการดำเนินนโยบายกึ่งการคลังในช่วงของรัฐบาลพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา...!! ล่าสุดคุณพรชัย ฐีระเวช ผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง ในฐานะโฆษกกระทรวงการคลัง...ได้ออกมาชี้แจงว่าเอกสารเหล่านี้ได้ เคยเผยแพร่ในเดือนเมษายน 2565 และได้มีการชี้แจงข้อเท็จจริงจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้องแล้ว...แต่มีการนำกลับมาเผยแพร่ซ้ำผ่านสื่อโซเชียลมีเดียต่างๆ ในช่วง 2-3 วันที่ผ่านมานั้น...กระทรวงการคลัง...ขอชี้แจงข้อเท็จจริงว่า...1.ภาระทางการคลังที่เกิดจากการดำเนินนโยบายกึ่งการคลังเป็นการบันทึกรายการค่าใช้จ่ายที่ใช้ไปในการดำเนินโครงการนโยบายรัฐเพื่อช่วยเหลือและสนับสนุนเกษตรกร ผู้ประกอบการรายย่อย และประชาชนผู้มีรายได้น้อย ในกรณีที่มีความจำเป็นฉุกเฉินเร่งด่วนและหน่วยงานของรัฐที่มีหน้าที่เกี่ยวข้องไม่ได้ขอตั้งงบประมาณรองรับไว้ล่วงหน้า โดยหลังจากที่ได้มีการดำเนินโครงการแล้ว หน่วยงานของรัฐจะเป็นผู้ยื่นคำขอรับจัดสรรงบประมาณโดยตรงกับสำนักงบประมาณต่อไป....2.ทุกรัฐบาลที่ผ่านมามีการดำเนินนโยบายกึ่งการคลังมาโดยตลอด ทั้งนี้ ในปีงบประมาณ 2565 ที่ผ่านมารัฐบาลมีความจำเป็นเร่งด่วนในการให้ความช่วยเหลือและสนับสนุนเกษตรกรในช่วงที่ราคาสินค้าการเกษตรตกต่ำ รวมถึงการเพิ่มสภาพคล่องให้กับผู้ประกอบการรายย่อยและลดภาระค่าครองชีพให้กับผู้มีรายได้น้อยในช่วงวิกฤตโควิด-19 โดยรัฐบาลได้มีการอนุมัติวงเงินโครงการเพื่อสนับสนุนช่วยเหลือเกษตรกร จำนวน 186,217 ล้านบาท
ผู้ประกอบการรายย่อย จำนวน 16,764 ล้านบาท และประชาชนผู้มีรายได้น้อย จำนวน 7,059 ล้านบาท 3. การดำเนินนโยบายกึ่งการคลังดังกล่าวเข้าข่ายเป็นกิจกรรม มาตรการ หรือโครงการที่ต้องปฏิบัติตามมาตรา 28 แห่งพระราชบัญญัติวินัยการเงินการคลังของรัฐ พ.ศ. 2561(พ.ร.บ.วินัยการเงินการคลังฯ) อย่างเคร่งครัด โดยจะกระทำได้เฉพาะกรณีที่อยู่ในหน้าที่และอำนาจตามกฎหมายและอยู่ภายในขอบแห่งวัตถุประสงค์ของหน่วยงานของรัฐนั้น และต้องเป็นไปเพื่อ (1) ฟื้นฟูหรือกระตุ้นเศรษฐกิจ (2) เพิ่มขีดความสามารถในการประกอบอาชีพหรือยกระดับคุณภาพชีวิตของประชาชน หรือ (3) ช่วยเหลือฟื้นฟูผู้ได้รับผลกระทบจากสาธารณภัยหรือการก่อวินาศกรรม…!! โฆษกกระทรวงการคลังย้ำว่า นโยบายกึ่งการคลังเป็นหนึ่งในเครื่องมือทางการคลังที่ทุกรัฐบาลมีการดำเนินการมาโดยตลอด เนื่องจากสามารถช่วยให้รัฐบาลบริหารงานเพื่อให้ความช่วยเหลือและสนับสนุนเกษตรกร ผู้ประกอบการรายย่อย และประชาชนผู้มีรายได้น้อย ในยามจำเป็นฉุกเฉินเร่งด่วนได้...ในขณะเดียวกันรัฐบาลได้ให้ความสำคัญกับการรักษาวินัยการคลังอย่างเคร่งครัด โดยได้จัดสรรงบประมาณเพื่อชดเชยค่าใช้จ่ายในการดำเนินการให้กับหน่วยงานของรัฐอย่างต่อเนื่องเพื่อไม่ให้การดำเนินนโยบายกึ่งการคลังเป็นภาระต่อหน่วยงานของรัฐมากจนเกินสมควร....ส่งผลให้ยอดคงค้างฯ ในปัจจุบันจึงยังอยู่ในระดับที่บริหารจัดการได้....!! จากข้อเท็จจริงที่เกิดขึ้นในข่าว...กับสิ่งที่กระทรวงการคลังชี้แจงออกมาครั้งนี้...!! ผู้ลองใช้วิจารณญาณของท่านไตร่ตรองดูว่า...กระทรวงการคลังตอบคำถามได้ตรงประเด็นหรือไม่...ตอบในสิ่งที่สังคมเกิดความกังวลหรือไม่...!! เชื่อว่าคงได้คำตอบในใจแล้ว...nn
อนันตเดช พงษ์พันธ์ุ
เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี