บริษัทหลักทรัพย์ (บล.) เคจีไอ (ประเทศไทย) วิเคราะห์หุ้นบริษัท บีซีพีจีหรือ BCPG ผู้บริหารดูมั่นใจกับแนวโน้มของบริษัทมากขึ้นในconference call ล่าสุด ภาพรวมโครงการต่างๆ ยังคืบหน้า และ มองว่าน่าจะมีดีล M&A รออยู่ข้างหน้าอีก ทั้งนี้ gap ของกำไรจากการที่ adder หมดอายุ และไม่มีโครงการความร้อนใต้พิภพแล้ว ซึ่งนักลงทุนกังวลมาตลอด ส่วนใหญ่ถูกอุดไปแล้วด้วยสินทรัพย์ที่เปิดดำเนินการแล้วในสหรัฐ (857MWe) ที่เหลือจะถูกอุดด้วยโครงการที่รออยู่ใน pipeline นำโดยโครงการพลังงานลม Monsoon, solar ในไทย และจากบางส่วนของโครงการ solar ในไต้หวัน เรายังคาดว่าหนี้ดอกเบี้ยลอยตัวที่ลดเหลือ 35% ของยอดหนี้รวมใน 2Q66 (จาก 52% ในปี 2565) จะปรับโครงสร้างเพิ่มอีกด้วยอัตราดอกเบี้ยที่ต่ำลง
หลังปิดดีล M&A ไปแล้ว (โรงไฟฟ้าก๊าซสี่โรงในสหรัฐ (Carrol & South Field, Liberty & Patriot และ oil terminal) BCPG กำลังจะเข้าซื้อหุ้นอีก 40% (จากเดิม 8.7%) ในโครงการ Caroll โดยใช้งบลงทุน (capex) 5 พันล้านบาท กำหนดปิดดีลใน 4Q66 เราคาดว่าดีลนี้จะทำให้กำลังการผลิต เพิ่มเป็น 2,025 MWe (จาก 1,109MWe ในปี 2565) ซึ่งจะทำให้กำไรเพิ่มขึ้นตั้งแต่ปี 2567F อีก 130-150 ล้านบาท (+7-10%) ทำให้ราคาเป้าหมายเพิ่มอีก 0.50-0.60 บาท/หุ้น
กำไรในงวด 2H66F น่าจะพุ่งสูงขึ้น HoH โดยคาดว่ากำไรหลักใน 3Q66F จะสูงที่สุดในรอบปีนี้ เนื่องจาก i) เป็นช่วง
high season ของโรงไฟฟ้าพลังน้ำ ii) มีการรับรู้ผลการดำเนินงานของ oil terminal เต็มไตรมาส iii) โรงไฟฟ้าสองแห่งแรกในสหรัฐกลับมาเปิดดำเนินการ iv) เริ่มรับรู้ผลการดำเนินงานของโรงไฟฟ้า Liberty & Patriot โครงการโรงไฟฟ้าพลังน้ำของบริษัทอาจจะได้รับผลกระทบจาก El Nino ลดลงเพราะปริมาณฝนที่ตกเพิ่มขึ้น ขณะที่ราคาก๊าซ Henry Hub ที่จะเพิ่มขึ้นในช่วงฤดูหนาวน่าจะส่งผลดีต่อโรงไฟฟ้าก๊าซในสหรัฐของ BCPG ในงวด 2H66F แนวโน้มในระยะยาว เราคาดว่ากำไรหลักปี 2566-2568F จะอยู่ที่ 1.4 พันล้านบาท (-31% YoY) / 1.8 พันล้านบาท (+24% YoY) / 2.0 พันล้านบาท (+13% YoY) ตามลำดับ
เรายังคงคำแนะนำ ซื้อ BCPG ขยับไปใช้ราคาเป้าหมายปี 2567 ที่ 12.00 บาท เราเชื่อว่าความเชื่อมั่นที่เพิ่มขึ้นของนักลงทุนจะหนุนโมเมนตัมของราคาหุ้นให้ขึ้นต่อขณะที่ความกังวลเกี่ยวกับ gap ของ adder และโรงไฟฟ้าพลังงานความร้อนใต้พิภพที่หายไปผลประกอบการของบริษัทน่าจะถึงจุดต่ำสุดในปี 2566F ก่อนที่จะกลับเข้าสู่ขาขึ้นได้อีกครั้งหลังจากนี้ นักลงทุนกระแสหลักน่าจะตอบสนองเชิงบวกต่อการซื้อกิจการในปี 2566 และอาจคาดหมายว่าจะมีดีลอื่นๆ อีกในอนาคต
ปัจจัยเสี่ยงจากการปิดโรงไฟฟ้านอกแผน, ปัญหา cost overruns,และความผันผวนของอัตราแลกเปลี่ยน และอัตราดอกเบี้ย
ที่มา : บล.เคจีไอ (ประเทศไทย)
เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี