nn ในการอภิปรายทั่วไปแบบไม่ลงมติของวุฒิสมาชิกเมื่อสองสามวันก่อน...ทำไมท่านวุฒิสมาชิกท่านหนึ่งบอกว่า...ท่านนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่ากากระทรวงการคลัง เศรษฐา ทวีสิน รู้สึกจะหมกมุ่นอยู่กับเรื่องการเดินหน้าโครงการแจกเงินผ่าน “ดิจิทัล วอลเล็ต” 5 แสนล้านบาท...!! แหมๆ ท่านวุฒิสมาชิก..ทำไมไปว่าท่านนายกฯ เช่นนั้น...ก็อันนี้เป็นไพ่ใบสุดท้ายในมือที่เหลือที่พอจะเรียกเรทติ้งกลับมาได้บ้างหลังจากยอม “ตระบัดสัตย์” กับประชาชนมาเพื่อแลกกับการได้จัดตั้งรัฐบาลและพาตัว “นายใหญ่” กลับบานมาได้...และแม้จะยอมกลืนน้ำลายตัวเองที่เคยพูดไว้ว่า...การกระตุ้นเศรษฐกิจด้วยการแจกเงินนั้นคือนโยบายที่สิ้นคิดและปัญญาอ่อน...แต่ถึงวันนี้ยังไงก็ต้องทำให้ได้เพราะเป็นรัฐบาลทั้งทีแต่คะแนนนิยมต่ำเตี้ยเรี่ยดินและลดลงทุกเวลา...สวนทางกับฝ่ายค้านที่คะแนนนิยมสูงกว่ารัฐบาลเท่าตัวแถมเพิ่มขึ้นอีกต่างหากจากการสำรวจแต่ละครั้ง...!! เอาล่ะจะรอฟังข่าวดีวันที่ 10 เมษายนนี้...นะว่านายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังจะมีอะไรมาบอกประชาชน...แต่ที่แน่ๆ คือขอให้มีข้อมูลที่เป็นข้อเท็จจริงและเป็นวิทยาศาสตร์ที่เชื่อได้นะว่าเงินที่รัฐต้องเป็นหนี้ 5 แสนล้านบาท...จะกระตุ้นจีดีพีได้กี่เปอร์เซ็นต์กันแน่...!! จีดีพีของไทยตอนนี้ประมาณ 16-17 ล้านล้านบาท...!! ผลการศึกษาจากประเทศพัฒนาแล้วทั่วโลกที่เคยใช้นโยบายแจกเงินแบบ “เฮลิคอปเตอร์มันนี่”...ช่วยกระตุ้นจีดีพีแต่ระดับ 0.4-0.6% เท่านั้นเอง...เอาล่ะถ้าไม่ “บายแอด” กับรัฐบาลมากเกินไป..แวดวงการเงิน...ก็ขอให้รัฐบาลทำได้ในระดับ 1-2%...ไปเลย...และเมื่อคิดจากขนาดของจีดีพีไทย...ก็น่าจะได้ตัวเลขระดับ 2-3 แสนล้านบาท...แต่ถ้าเอาตัวเลขในระดับสากลที่เชื่อถือได้(0.4-0.6%...ก็จะได้ตัวเลขที่ไม่ถึง 1 แสนล้านบาท...!!คำถามสำคัญแล้วมันคุ้มหรือไม่กับการที่ต้องแลกมาด้วย “วินัยทางการเงินการคลังที่อ่อนแอลง”...รวมทั้งภาระหนี้ที่เพิ่มขึ้นที่ตามมาด้วยภาระดอกเบี้ยจ่าย...ซึ่งมันจะไปบั่นทอนความสามารถในการใช้งบประมาณเพื่อการพัฒนาประเทศ...เรื่องวินัยการเงินการคลังสำคัญนะจะบอกให้...เพราะคือหนึ่งในดัชนีความเชื่อมั่นของนักลงทุนต่างชาติเขามีต่อประเทศไทย....หากดัชนีตัวนี้แย่ลงแน่นอนว่าตลาดเงินตลาดทุนก็อ่อนไหวไปด้วย...เม็ดเงินลงทุนโดยตรงของต่างชาติ (FDI) ก็อย่าหวังว่าจะเพิ่มขึ้น...เพราะเขาขาดความเชื่อมั่นเสียแล้ว....!! อ้อ...อีกคำถามสำคัญที่ฝากไปถึงคุณจุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง...ที่ได้รับมอบหมายให้เป็นหนึ่งในแม่งานใหญ่สำหรับโครงการดิจิทัล วอลเล็ต...ก็คือบอกมาชัดๆ สิว่ากติกาที่ออกมานั้นจะไม่ทำให้สุดท้ายแล้วเม็ดเงินส่วนใหญ่ของโครงการขนาด 5 แสนล้านบาท...ไหลเข้ากระเป๋านายทุนใหญ่...nn

อนันตเดช พงษ์พันธ์ุ