รถยนต์เป็นยานพาหนะ และเป็นสิ่งจำเป็นที่ใช้ในชีวิตประจำวัน ในเวลาเดียวกันยังอาจถือว่า เป็นยานอวดฐานะอย่างหนึ่ง ที่แสดงถึงสถานะทางสังคมและรสนิยมของผู้เป็นเจ้าของรถยนต์
กล่าวกันว่า เจ้าของรถหรูราคาแพง มักได้รับการยอมรับนับถือ และความน่าเชื่อถือในสังคมมากกว่าคนทั่วไป ในการติดต่อเจรจาทางธุรกิจ บางครั้งอาจถูกลอบสังเกตจากอีกฝ่ายหนึ่งว่า ใช้รถยี่ห้ออะไรราคาประมาณเท่าไหร่ เพื่อประกอบการประเมินความน่าเชื่อถือ
ราคารถยนต์ที่ขายในประเทศไทย ถือว่ามีราคาค่อนข้างสูง เพราะต้องเสียภาษีแพงเนื่องจากเป็นนโยบายของรัฐบาลหลายยุคหลายสมัย ที่ไม่ส่งเสริมให้คนใช้รถมากเกินไป และให้หันมาใช้ระบบขนส่งมวลชนแทน แต่ถือว่าไม่ค่อยประสบความสำเร็จ เพราะระบบขนส่งมวลชนยังไม่ทั่วถึงเท่าที่ควร แม้จะได้พัฒนาไปมากก็ตาม
รถยนต์บางประเภท บางรุ่นอาจเสียภาษีมากกว่า 200% ของราคาที่จำหน่ายในต่างประเทศ แต่คนไทยไม่ได้ย่อท้อในการซื้อรถยนต์มาใช้ เพราะคนไทยมักนิยมใช้ระบบซื้อแบบผ่อนส่ง ซึ่งในทางกฎหมายเป็นการเช่าซื้ออย่างหนึ่ง กว่าจะผ่อนหมด รถที่ใช้เก่าพอดี ต้องเปลี่ยนคันใหม่และเริ่มผ่อนคันใหม่
สิ่งจำเป็นในการใช้รถยนต์ อย่างที่หลีกเลี่ยงไม่ได้ คือ ป้ายทะเบียนรถยนต์ เมื่อซื้อรถยนต์คันใหม่ที่ยังไม่ได้จดทะเบียนรถให้เรียบร้อย จะได้รับป้ายทะเบียนรถเป็นป้ายแดง เพื่อให้มาใช้ชั่วคราวก่อน ซึ่งผู้ซื้อส่วนมากมักจะชอบ เพราะเป็นการแสดงออกให้เห็นว่า กำลังใช้รถใหม่ ทั้งที่ป้ายแดงดังกล่าว มีข้อกำหนดมากมาย เช่น ใช้ได้เพียงแค่ 30 วัน, ห้ามใช้รถในเวลากลางคืน, ห้ามใช้รถข้ามจังหวัด เป็นต้น
ในความเป็นจริง ป้ายแดงสำหรับรถใหม่ บางครั้งอาจมีจำนวนป้ายไม่พอ กับจำนวนรถที่ออกใหม่ ร้านขายรถยนต์หรือโชว์รูมบางแห่งจึงแก้ปัญหาด้วยการนำป้ายแดงปลอมให้ลูกค้าใช้จึงเป็นสาเหตุให้ผู้ซื้อรถใหม่บางคนจากโชว์รูมถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจจับฐานใช้ป้ายแดงปลอม
ในบางครั้งร้านขายรถยนต์เองกลับจงใจให้ลูกค้าได้ทะเบียนรถล่าช้า เพราะได้นำหลักฐานเกี่ยวกับรถที่ขายให้ลูกค้าไปเป็นหลักประกันเงินกู้(ตั้งแต่ยังไม่ได้ขายรถให้ลูกค้า) และยังชำระหนี้ไม่หมดจึงไม่สามารถนำหลักฐานดังกล่าวไปยื่นขอออกทะเบียนรถให้ลูกค้าได้ ทำให้ลูกค้าที่ซื้อรถใหม่ต้องใช้ป้ายแดงนาน แต่กลับสมประโยชน์ลูกค้า เพราะจะได้แสดงให้คนทั่วไปเห็นว่า กำลังใช้รถใหม่อยู่
แม้ผู้ที่ใช้รถจะได้ป้ายทะเบียนรถที่ถูกต้องตามกฎหมายแล้ว บางครั้งอาจไม่เคยรู้ตัวมาก่อนเลยว่ารถยนต์ที่กำลังใช้อยู่และมีป้ายทะเบียนนั้น ได้มีรถคันอื่นสวมป้ายทะเบียนปลอมหมายเลขเดียวกับของตนและกำลังใช้รถบนท้องถนนเหมือนกัน บางครั้งอาจมีหลายคันพร้อมๆ กัน
มีข้อสังเกตว่า ผู้ที่ใช้รถติดป้ายทะเบียนปลอมแบบใช้เป็นระยะเวลานาน มักจะใช้รถที่มีลักษณะเหมือน หรือใกล้เคียงกับผู้ที่ใช้รถป้ายทะเบียนของจริงเป็นอย่างมาก เช่น เป็นรถยี่ห้อเดียวกันรุ่นเดียวกัน และสีอาจจะเหมือนกัน หากมีผู้พบเห็นโดยบังเอิญ จะดูกลมกลืนเป็นอย่างมาก จนความมาแตก เมื่อเจ้าของรถตัวจริงได้รับใบสั่งจากเจ้าหน้าที่ตำรวจ จากการกระทำความผิดเกี่ยวกับการจราจรโดยผู้ขับขี่รถยนต์ที่ใช้ป้ายทะเบียนรถปลอมที่มีเลขทะเบียนตรงกัน
จึงเป็นเหตุให้สงสัยว่า การใช้ป้ายทะเบียนรถปลอมในลักษณะนี้ เจ้าหน้าที่ผู้เกี่ยวข้องกับทะเบียนรถจะรู้เห็นเป็นใจด้วยหรือไม่ อย่างไร เพราะบุคคลภายนอกผู้ไม่มีส่วนเกี่ยวข้อง คงไม่มีโอกาสล่วงรู้ถึงข้อมูลส่วนบุคคลเกี่ยวกับการใช้รถของเจ้าของทะเบียนรถตัวจริงได้
แต่การใช้รถในการกระทำความผิด เช่น ใช้ในการปล้น, ขนยาเสพติด, ขนของหนีภาษี อาชญากรจะไม่สนใจว่า การใช้ป้ายทะเบียนรถปลอม จะต้องใช้รถให้ใกล้เคียง หรือตรงกับรถของเจ้าของทะเบียนรถตัวจริง เพราะเป็นการกระทำความผิดในระยะสั้นและรวดเร็ว
บางครั้งเจ้าของทะเบียนรถตัวจริง อาจทำป้ายทะเบียนรถเองขึ้นใหม่ให้มีเลขตรงกับทะเบียนที่ได้รับจากทางราชการ เพียงเพื่อความสวยงามและแปลกใหม่ด้วยความรู้เท่าไม่ถึงการณ์ ถือเป็นความผิดตามกฎหมายฐานปลอมเอกสารราชการ และใช้เอกสารราชการปลอมมีโทษจำคุกตั้งแต่ 6 เดือน ถึง 5 ปี และปรับ 10,000-100,000 บาท และยังเป็นความผิดตามกฎหมายว่าด้วยรถยนต์ ฐานติดแผ่นป้ายทะเบียนรถไม่ถูกต้องตามที่ทางราชการกำหนด ปรับสูงสุดไม่เกิน 2,000 บาท
ผู้ที่ใช้รถยนต์จึงควรมีความตระหนักรู้ และระมัดระวังตลอดเวลา
เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี