ตามสภาพเศรษฐกิจโลกปัจจุบัน การขยายตัวทางเศรษฐกิจของประเทศจีนเป็นไปอย่างรวดเร็ว ประเทศจีนก้าวสู่การเป็นทั้งผู้ผลิต ผู้ซื้อ และ ผู้ขาย รายสําคัญของโลก โดยเฉพาะในแถบภูมิภาคอาเซียน ประเทศจีนได้มีข้อตกลงความร่วมมือทางเศรษฐกิจอาเซียน-จีน (Framework Agreement on ASEAN - China Comprehensive Economic Cooperation) ซึ่งได้ลงนามเมื่อวันที่ 4 พฤศจิกายน 2545 (2002)
ประเทศไทยเป็นหนึ่งในภาคีสมาชิกอาเซียน ซึ่งเป็นคู่ค้ารายสำคัญกับประเทศจีน ภายใต้กรอบข้อตกลงดังกล่าว และภายใต้ข้อตกลงทวิภาคีทางด้านเศรษฐกิจและการค้าระหว่างไทยและจีนในกรอบความร่วมมือด้านการค้า และหุ้นส่วนทางเศรษฐกิจระหว่างสองประเทศ ในปี พ.ศ. 2564
ภายใต้เงื่อนไขความตกลงเกี่ยวกับการเปิดเสรีด้านสินค้าและบริการ เป็นการให้โอกาสแก่ประเทศจีน สามารถเปิดตลาดธุรกิจบริการครอบคลุมกิจกรรมในสาขาวิชาชีพทั้งด้านกฎหมายและการบัญชี สาขาโทรคมนาคมการก่อสร้าง การศึกษา การเงิน การธนาคาร รวมทั้งการประกันภัย การท่องเที่ยว และสาขาการขนส่ง
ประเทศไทยได้ขยายความตกลงทวิภาคีเพิ่มเติมจากเงื่อนไขที่มีในกรอบข้อตกลงเดิมด้วยการเปิดเสรีกิจกรรมบริการบางประเภทในสาขาวิชาชีพ สาขาโทรคมนาคม การเงิน และการขนส่ง ทั้งทางเรือ ทางอากาศ และทางราง อนุญาตให้ต่างชาติประกอบธุรกิจด้านดังกล่าวในประเทศไทยได้ โดยผู้ให้บริการของประเทศสมาชิกอาเซียนและจีนสามารถเข้ามาประกอบธุรกิจ โดยถือหุ้นได้ไม่เกินร้อยละ 49 และมีเงื่อนไขอื่นตามกฎหมายเฉพาะสาขา อาทิ ในสาขาการเงินถือหุ้นได้ไม่เกินร้อยละ 25 หรือในสาขาวิชาชีพอื่นที่ต้องเป็นไปตามที่สภาวิชาชีพนั้นๆ กำหนด
สถิติด้านการลงทุนของจีนในประเทศไทยในปี 2564 มีโครงการลงทุนของจีนที่ได้รับการอนุมัติส่งเสริมการลงทุนจาก BOI มูลค่ารวมทั้งสิ้น 38,567 ล้านบาท สูงเป็นอันดับที่ 2 รองจากการลงทุนจากญี่ปุ่น
สาระสำคัญนอกจากความร่วมมือด้านส่งเสริมและอำนวยความสะดวกแลกเปลี่ยนสิทธิประโยชน์ทางการค้าและบริการระหว่างประเทศภาคีสมาชิกตามข้อตกลงด้วยกันแล้ว ยังมีสาระสำคัญส่วนหนึ่งที่กำหนดขอบเขตสิทธิหน้าที่ของประเทศสมาชิกภาคีให้สามารถกำหนดมาตรการที่เกี่ยวข้องในการส่งเสริมและอำนวยความสะดวก และการให้ความคุ้มครองแก่นักลงทุนของภาคีและเงินลงทุนครอบคลุมถึงการปฏิบัติที่เป็นธรรมและเท่าเทียมกัน รวมไปถึงรัฐภาคีสามารถดำเนินมาตรการเพื่อปกป้องเสถียรภาพทางการเงินและอัตราแลกเปลี่ยนโดยแทรกอยู่ในบทบัญญัติเรื่องการโอน (Transfer) และข้อยกเว้นทั่วไป (General Exception)
ส่วนประโยชน์ที่ไทยจะได้รับจากจีนที่เข้ามาลงทุนประกอบกิจการในประเทศไทย มีหลายประการที่เด่นชัด คือ ช่วยเพิ่มมูลค่าทางเศรษฐกิจ ช่วยสร้างงาน แรงงานไทยได้รับการ ถ่ายทอด ความรู้วิชาชีพเทคโนโลยีใหม่ๆ และสร้างมูลค่าเพิ่มและใช้วัตถุดิบในไทย
ส่วนอีกด้านหนึ่งที่อาจไม่เป็นประโยชน์ และกำลังกลายเป็นข้อกังวลเกี่ยวกับผลกระทบด้านเศรษฐกิจและสังคมไทยขณะนี้ คือ สินค้านำเข้าจากประเทศจีน ชนิดเดียวกัน ปริมาณเดียวกัน แม้จะแตกต่างกันที่ยี่ห้อสินค้า แต่มีราคาขายที่ถูกกว่าราคาสินค้าที่จำหน่ายแก่ผู้บริโภคสินค้าในประเทศเป็นเท่าตัวจนผู้บริโภคส่วนใหญ่ (โดยเฉพาะกลุ่มลูกค้าคนรุ่นใหม่เจนเนอเรชั่น Y-Z) หันมาซื้อหาใช้ทดแทนสินค้าที่จำหน่ายในประเทศไทย ซึ่งมีราคาสูงเกินอัตราค่าครองชีพของผู้บริโภคในประเทศอย่างไม่สามารถคุมราคาได้ เป็นสาเหตุหนึ่งที่ทำให้สินค้านำเข้าจากจีนภายใต้แบรนด์หน้าใหม่ ก้าวขึ้นมาเป็นสินค้าที่ได้ส่วนแบ่งตลาดสูงขึ้นอย่างรวดเร็ว สร้างความกังวลว่า อาจเป็นปัญหาด้านเศรษฐกิจและสังคมไทย จนผู้ประกอบการขนาดกลางจนถึงรายเล็กของผู้ประกอบการในประเทศ อาจถึงกับล้มหายตายจากไป
กลไกภายในประเทศที่ยังพอมีอยู่ พอจะใช้เป็นกลยุทธ์ในการข้อกำหนดหรือมาตรการที่ช่วยบรรเทาหรือป้องกันปัญหานี้โดยพิจารณาเรียงตามข้อกังวลเป็นรายข้อ คือ
1.ด้านการแข่งขันในตลาดในประเทศ ตามกฎหมายพระราชบัญญัติการแข่งขันทางการค้า พ.ศ. 2560 มีสำนักงานคณะกรรมการแข่งขันทางการค้า เป็นกลไกช่วยวางข้อกำหนดหรือมาตรการใดๆ ในเชิงส่งเสริมและสนับสนุนการประกอบกิจการจำหน่ายสินค้า/บริการในประเทศ มิให้มีลักษณะเป็นการทุ่มตลาด ให้เป็นไปด้วยความเป็นธรรมและเท่าเทียมกัน ในขณะที่กระทรวงดีอี สนับสนุนการแจกแพลตฟอร์มการขายสินค้าอิเล็กทรอนิกส์ออนไลน์ให้แก่ผู้ประกอบการในประเทศ และอำนวยความสะดวกให้แก่ผู้บริโภคด้วยเวลาเดียวกัน
2.ด้านคุณภาพสินค้าและบริการในประเทศ กลไกคัดกรองคุณภาพสินค้าและบริการในประเทศเพื่อประโยชน์แก่ผู้บริโภคอยู่หลายส่วน ตามกฎหมายเฉพาะของแต่ละหน่วยงานอาทิ สำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค (สคบ.) สำนักงานมาตรฐานผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรม (มอก.) และสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) ที่จะช่วยวางแนวทางมาตรการคัดกรองคุณภาพสินค้าและบริการให้ได้มาตรฐานความปลอดภัยและสุขลักษณะเพื่อประโยชน์แก่ผู้บริโภคภายในประเทศ
3.ด้านผลกระทบทางเศรษฐกิจและสังคม กลไกวางข้อกำหนดแนวทางป้องกันผลกระทบทางเศรษฐกิจและสังคมที่เกี่ยวข้องในเรื่องนี้ เช่น กระทรวงพาณิชย์ กำหนดมาตรการด้านคุณสมบัติผู้ประกอบการต่างด้าว ตามกฎหมายพระราชบัญญัติการประกอบธุรกิจของคนต่างด้าว พ.ศ. 2542 ประสานกับกรมทรัพย์สินทางปัญญา กำหนดมาตรการควบคุมสินค้าละเมิดทรัพย์สินทางปัญญา กระทรวงแรงงาน กำหนดคุณสมบัติผู้ประกอบการต่างด้าว ซึ่งเป็นนายจ้าง ผู้ลงทุนประกอบกิจการในรูปแบบต่างๆ ในประเทศ รวมถึงมาตรฐานการจ้างและสวัสดิการลูกจ้างในประเทศสำหรับผู้ประกอบกิจการ กระทรวงการคลัง โดยกรมสรรพากรและกรมสรรพสามิต อาจใช้ข้อกำหนดมาตรการกำหนดพิกัดและอัตราภาษีนำเข้าสำหรับสินค้าที่นำเข้าประเภทเดียวกันกับสินค้าที่ผลิตในประเทศที่สูงกว่าภายใต้เหตุผลเป็นสินค้าฟุ่มเฟือย ตลอดจนธนาคารแห่งประเทศไทย กำหนดแนวปฏิบัติและมาตรการการส่งออกเงินตราที่เกิดจากรายได้การจำหน่ายสินค้า/บริการในประเทศ ไปต่างประเทศให้มีจำนวนที่เหมาะสมเพื่อให้เกิดกระแสเงินหมุนเวียนภายในประเทศในระยะเวลาที่เหมาะสม
4.ด้านค่านิยมผู้บริโภคในประเทศ รณรงค์สร้างค่านิยม และส่งเสริมให้ผู้บริโภคในประเทศ นิยมสินค้า/บริการที่ผลิตหรือให้บริการในประเทศก่อน เพื่อให้เกิดกระแสการส่งเสริมการผลิตอันจะเป็นแรงผลักดันไปสู่การพัฒนาผลิตภัณฑ์และกระบวนการผลิต มาตรการในลักษณะนี้อาจถือเป็นมาตรการที่ถูกกำหนดไว้เป็นส่วนหนึ่งของแผนยุทธศาสตร์ด้านเศรษฐกิจระยะยาว
แม้ประโยชน์ที่ได้จากทุนจีนและสินค้าจีนที่ขายในประเทศไทยจะมีราคาถูกเป็นคุณแก่ผู้บริโภค แต่ต้องคำนึงด้วยว่าในระยะยาวหากผู้ประกอบการคนไทย ไม่สามารถแข่งขันและทำธุรกิจต่อไปได้ จะถือว่าผู้บริโภคไทยได้รับประโยชน์ จริงหรือไม่?
เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี