คำกล่าวของ หลวงปู่ศิลา สิริจันโท พระเกจิอาจารย์สายกรรมฐานผู้มีชื่อเสียงในการมีญาณทิพย์หยั่งรู้ล่วงหน้าที่กล่าวไว้ เมื่อวันที่ 30 มิถุนายน 2567 ในพิธีพุทธาภิเษก วัดถ้ำแก้วภาวนา จังหวัดนครราชสีมา ว่า จะเกิดอุทกภัยครั้งใหญ่ในวันที่ 30 ตุลาคม 2573 กรุงเทพมหานครจะเกิดน้ำท่วมใหญ่ในประวัติศาสตร์ ทุกคนต้องอพยพหนีไปตั้งหลักที่เขาใหญ่ จังหวัดนครราชสีมา
แม้คำพยากรณ์ของหลวงปู่ศิลา อาจดูเหมือนเกี่ยวข้องกับสายมู อย่างไรก็ตาม ราคาที่ดินที่เขาใหญ่ได้ขยับตัวสูงขึ้นทันที โดยไม่ต้องรอให้มีน้ำท่วมใหญ่ในปี พ.ศ. 2573 ตามคำทำนายของหลวงปู่
คำทำนายของหลวงปู่ หากพิจารณาในทางวิทยาศาสตร์ ดูเหมือนไม่ไกลเกินกว่าความเป็นจริง เพราะนักวิชาการหลายคน รวมทั้งงานวิจัยของกรีนพีซ (Green Peace) องค์กรคุ้มครองสิ่งแวดล้อมระดับโลกที่ไม่แสวงหากำไรได้ระบุว่า ในอีก 7-8 ปี ข้างหน้า มีความเป็นไปได้ที่พื้นที่ของกรุงเทพมหานครมากกว่า 80% จะจมทะเล
ระยะเวลาตามคำทำนายของหลวงปู่ใกล้เคียงกับงานวิจัยของนักวิชาการหลายคนและงานวิจัยของกรีนพีซ
จึงพอรับฟังและเชื่อถือได้ว่า กรุงเทพมหานครมีโอกาสจมอยู่ใต้น้ำทะเล หากรัฐบาลไทยและผู้บริหารกรุงเทพมหานครไม่ได้ให้ความสนใจกับปัญหานี้อย่างจริงจัง ในการวางแผนแก้ไขปัญหาล่วงหน้าอย่างเป็นระบบและบูรณาการ
แม้ในปัจจุบันหากสังเกตจะพบว่า พื้นที่ของกรุงเทพมหานครบางส่วนได้ถูกน้ำทะเลกลืนหายไปแล้ว เช่น บริเวณที่เรียกว่า ทะเลกรุงเทพฯที่อยู่ในเขตบางขุนเทียน รวมทั้งพื้นที่ใกล้เคียง
ร้านขายอาหารทะเลหลายแห่งในย่านนั้นที่เคยเปิดขาย ปัจจุบันได้ปิดตัวไปแล้ว เพราะที่ตั้งของร้านกลายเป็นน้ำทะเลไปแล้ว
ที่ดินตามโฉนดบางตำแหน่ง แม้จะมีโฉนด แต่หาที่ดินตามโฉนดไม่พบ เพราะถูกน้ำทะเลกลืนไปแล้ว
เสาไฟฟ้าต้น ตั้งอยู่ในทะเลเป็นหลักฐานแสดงว่า ตำแหน่งตรงนั้นเคยเป็นแผ่นดินมาก่อนจึงมีเสาไฟฟ้า รวมทั้งหมดวัดบางแห่งได้จมลงไปใต้ทะเลแล้ว
แม้จะมีปรากฏการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นแล้ว แต่ผู้บริหารประเทศ รวมทั้งผู้บริหารกรุงเทพมหานคร ยังมองไม่เห็นความสำคัญ อาจเป็นเพราะยังมีปัญหาเร่งด่วนอีกหลายด้านต้องแก้ปัญหาเฉพาะหน้า รวมทั้งยังวุ่นวายอยู่กับการหาพรรคร่วมรัฐบาล เพื่อสร้างเสถียรภาพและความมั่นคงให้แก่รัฐบาล จนมองข้ามและลืมที่จะนึกถึงปัญหาใหญ่ที่จะเกิดขึ้นในอนาคต
ปรากฏการณ์ที่กรุงเทพฯอาจถูกน้ำท่วมใหญ่ไม่ว่าจะจากน้ำทะเล น้ำฝน หรือน้ำหลากมาจากที่อื่นก็ตาม หลายคนอาจมีความรู้สึกว่า สิ้นหวังและไม่สามารถทำอะไรได้ เพราะเป็นเรื่องของธรรมชาติ
กรณีนี้ ควรศึกษาเทียบเคียงกับการแก้ปัญหาในต่างประเทศ โดยเฉพาะที่กรุงอัมสเตอร์ดัม ประเทศเนเธอร์แลนด์ ที่มีระดับต่ำกว่าน้ำทะเล หรือพื้นที่ลุ่มต่ำ แต่ผู้บริหารประเทศหรือรัฐบาลของประเทศเนเธอร์แลนด์ ได้วางแผนแก้ไขปัญหาระยะยาวจนประสบความสำเร็จ และถือเป็นต้นแบบที่หลายประเทศนำมาศึกษา และมาใช้ประโยชน์ได้จริง
ระบบป้องกันน้ำท่วมของประเทศเนเธอร์แลนด์ ที่มีชื่อว่า Delta Work ถือว่าเป็นระบบป้องกันน้ำท่วมที่ดีที่สุดในโลก
ก่อนที่จะมีระบบป้องกันน้ำท่วมนี้ ประเทศเนเธอร์แลนด์เคยประสบปัญหาภัยครั้งใหญ่มาก่อน เมื่อปี พ.ศ. 2496 ในคืนวันที่ 31 มกราคม ได้มีมวลน้ำขนาดมหาศาล ประกอบกับพายุที่มาจากทิศตะวันตกเฉียงเหนือ ทำให้น้ำทะเลมีระดับสูงขึ้นกว่าปกติ ซัดกระหน่ำเข้าสู่ฝั่งน้ำมีระดับสูงถึง 4.8 เมตร ประชาชนถูกคร่าชีวิตไปกว่า 2,000 ราย พื้นที่จมอยู่ใต้พื้นน้ำกว่า 9% ประชาชนนับแสนไร้ที่อยู่ เหตุการณ์น้ำท่วมในครั้งนั้น มีชื่อว่า 1953 North Sea Flood ซึ่ง 1953 คือ ปีคริสต์ศักราชที่เกิดน้ำท่วมในครั้งนั้น ตรงกับ พ.ศ. 2496
ต่อมารัฐบาลประเทศเนเธอร์แลนด์ ได้วางแผนแก้ไขปัญหาน้ำท่วมในระยะยาว จนเป็นระบบ Delta Work ในการสร้างเขื่อนขนาดใหญ่กั้นแนวน้ำ และประตูควบคุมระดับน้ำที่ได้ผลถือว่าประสบความสำเร็จอย่างสูง
ย้อนกลับมาที่ประเทศไทย แม้กรุงเทพมหานครเป็นเมืองหลวงของประเทศที่ต้องให้ความ สำคัญ แต่ปัญหาน้ำท่วมใหญ่ที่เกิดขึ้นเป็นระยะ จนสามารถคำนวณระยะเวลาที่จะเกิดน้ำท่วมใหญ่ได้ ถือเป็นปัญหาระดับชาติ จึงไม่ควรให้ความสำคัญแก้ปัญหานี้แต่เพียงกรุงเทพมหานครเท่านั้น ควรจะรวมถึงการวางแผนแก้ไขปัญหาทั้งประเทศ
ปัญหาการเมืองแม้อาจไม่เกี่ยวข้องกับการแก้ปัญหาน้ำท่วมโดยตรง แต่ถือว่ามีผล เพราะประเทศไทยเราไม่มีรัฐบาลที่มีเสถียรภาพ และอยู่บริหารประเทศนาน จนมีเวลาวางแผนการต่างๆเพื่อแก้ปัญหาล่วงหน้าในอนาคตเหมือนอย่างประเทศ เช่น ประเทศสิงคโปร์ เพื่อนบ้านของเราและประเทศอื่นๆ
ประชาชนชาวไทยเต็มขั้นที่ไม่มีโอกาสจัดรัฐบาล และไม่มีโอกาสแย่งตำแหน่งผู้บริหารประเทศในการจัดรัฐบาล คงได้แต่สะท้อนใจ และรอลุ้นด้วยใจระทึกว่า อีก 7-8 ปี จะพบเจออะไรบ้าง
เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี