ll ตามหลักวิชาเศรษฐศาสตร์....“เงินฝืด”...คือการที่ประชาชนไม่กล้าจับจ่ายใช้สอยทำให้ผู้ประกอบการต้องลดราคาสินค้าและบริการลงมาเพื่อจูงใจผู้บริโภค...แต่สิ่งที่เกิดขึ้นตอนนี้ราคาสินค้าและบริการของไทยเพิ่มขึ้นเกือบทุกชนิด...และจากข้อมูลของทุกสำนักก็ชี้ตรงกันว่า..การบริโภคของภาคเอกชนและครัวเรือน...คือตัวช่วยพยุงเศรษฐกิจไทยอยู่ตอนนี้...ดังนั้นที่ ดร.เศรษฐพุฒิสุทธิวาทนฤพุฒิ ผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย....บอกว่า “ยังไม่เห็นสัญญาณภาวะเงินฝืดในไทยตอนนี้” ก็คงน่าจะเป็นจริงตามนั้น...!! แล้วถ้าถามว่าเกิดภาวะ “เงินตึง” หรือเปล่า??...อันนี้แวดวงการเงินก็คิดว่าไม่น่าจะใช่อีกเหมือนกัน...ดูจากตัวเลขเงินให้สินเชื่อของธนาคารพาณิชย์ทั้งระบบก็เพิ่มขึ้นอยู่ (แม้จะไม่มากนัก) ก็ตาม...
ไม่นานมานี้สำนักงานบริหารหนี้สาธารณะ กระทรวงการคลัง เปิดขายพันธบัตรรัฐบาล 1 หมื่นล้านบาท...ก็ขายหมดเกลี้ยงภายใน 29 วินาที...!! ถึงตรงนี้หลายคนก็คงจะงงๆว่า...แล้วทำไมรัฐบาลมาอ้างว่าจำเป็นต้องแจกเงิน (ดิจิทัลวอลเล็ต 5 แสนล้านบาท)...เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจและช่วยเหลือประชาชนที่เจอปัญหาเรื่องปากท้องหนักมากอยู่ตอนนี้....!! คำตอบของคำถามนี้...ก็จะบอกได้ว่าเรื่องที่สังคมได้เห็นได้ยินว่าชาวบ้านร้านตลาดบอกว่าภาวะการเงินฝืดเคืองเหลือเกิน...ก็เพราะรายได้ที่หามาได้มันเพิ่มขึ้นไม่ทันกับค่าครองชีพที่สูงขึ้น...ไม่ว่าจะราคาอาหาร ราคาสินค้าอุปโภค ค่าน้ำ ค่าไฟฟ้าค่าเดินทาง ฯลฯ...ซ้ำยังต้องแบกหนี้ไว้ท่วมหัวจากการใช้ (เงินอนาคต) มาก่อนหน้านี้แล้วเสียงบ่นที่ออกมานั้นก็เป็นคนส่วนใหญ่ของประเทศเสียด้วย (มากกว่า 90%-ของคนทั้งประเทศ)...ทีนี้หากประชาชนได้เงิน 1 หมื่นบาท จากโครงการดิจิทัล วอลเล็ต...ถ้าเป็นเงินสด...เชื่อได้เลยว่าเจ้าหนี้นอกระบบมารอหน้าบ้านเลยจะเหลือเงินไว้ใช้ไม่กี่บาท...ถ้าเป็นเงินดิจิทัล...ก็จะใช้ไปกับการซื้อใช้ในชีวิตประจำวัน (ข้าวสาร อาหารแห้งผงซักฟอก สบู่ ยาสีฟัน ฯลฯ) อะไรทำนองนี้จนหมด 1 หมื่นบาท....
ไม่มีใครได้เอามาลงทุนเพื่อให้เกิด “พายุหมุนทางเศรษฐกิจ” อย่างที่รัฐบาลโม้ไว้...จะมีแต่เงินที่จะหมุนเข้ากระเป๋า 2-3 กลุ่มเจ้าสัวที่เป็นผู้ขายและผลิตสินค้าเหล่านี้...!! และเงินที่รัฐบาลแจกไปให้ก็จะได้ภายในระยะเวลาไม่เกิน 2 เดือน...หลังจากนั้นก็จะได้ยินเสียงร้องโอดครวญอีกว่าไม่มีเงินพอจะใช้จ่ายในชีวิตประจำวัน...และถึงวันนั้นรัฐบาลก็จะหมดปัญญาหาเงินมาแจกแล้วเพราะหนี้สาธารณะมันพุ่งขึ้นมาถึงคอหอยแล้วด้วย...!! ก็ได้แต่หวังว่า...ทีมขุนคลังชุดใหม่...ซึ่งก็น่าจะเป็นชุดเดิมที่นำทีมโดย คุณพิชัย ชุณหวชิร...คงจะตีโจทย์แตกเรื่องปัญหาปากท้องชาวบ้าน...และมีนโยบายที่จะแก้ปัญหาแบบยั่งยืน...ไม่ใช่แก้ปัญหาแบบระยะสั้นและหมักปัญหาไว้ให้กลายเป็นระเบิดเวลาลูกในอนาคต...ll
อนันตเดช พงษ์พันธุ์
เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี