ll ปัจจุบันปัญหาสินค้าไม่ได้มาตรฐานเข้ามาทุ่มทำตลาดในประเทศไทยกำลังเป็นปัญหาใหญ่ที่หลายฝ่ายต้องเร่งแก้ไข ด้านกระทรวงอุตสาหกรรมได้ให้ความสำคัญกับการคุ้มครองประชาชนให้ปลอดภัยจากการใช้สินค้าที่ได้มาตรฐาน โดยมีการตรวจควบคุมการจำหน่ายสินค้าในท้องตลาดและทางออนไลน์อย่างเข้มงวด หากไม่เป็นไปตามมาตรฐานจะดำเนินการตามกฎหมายทันที
รายงานจากกระทรวงอุตสาหกรรม พบว่า ตั้งแต่เดือนตุลาคม 2566 ถึงปัจจุบัน หรือเฉลี่ย 10 เดือน พบสินค้าไม่ได้มาตรฐานคิดเป็นมูลค่ากว่า 344 ล้านบาท มากกว่าปี 2566 ที่มีมูลค่ารวม 203 ล้านบาท และล่าสุดได้มีการทำลายสินค้าไม่ได้มาตรฐานทั้งที่จำหน่ายในท้องตลาดและทางออนไลน์ ตั้งแต่เดือนเมษายน 2566 ถึงวันที่ 23 สิงหาคม 2567 ซึ่งเป็นของกลางที่คดีถึงที่สุดแล้ว จำนวน 409,705 ชิ้น มูลค่ารวม 235,328,163 บาท
ล่าสุดมีการจับตาแพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ซเจ้าใหม่จากจีนที่ได้เข้ามาเปิดตัวกับกลุ่มลูกค้าชาวไทยเมื่อปลายเดือนกรกฎาคม 2567 ที่ผ่านมาซึ่งถือเป็นชาติที่ 3 ในอาเซียน ต่อจากมาเลเซียและฟิลิปปินส์ โดยหลายฝ่ายมีความกังวลว่าจะกระทบต่อผู้ประกอบการของไทยโดยเฉพาะเอสเอ็มอี (SMEs) ซึ่งจะมีผลทำให้ผู้ประกอบการไทยมีความสามารถทางการแข่งขันลดลงจากกลยุทธ์ทางด้านราคา รวมทั้งไทยเองอาจต้องเผชิญกับสินค้าที่ไม่ได้มาตรฐานอีกด้วย
ขณะ ที่นายภาสกร ชัยรัตน์ อธิบดีกรมส่งเสริมอุตสาหกรรม หรือดีพร้อม (DIPROM)กล่าวว่า “ดีพร้อม” ในฐานะที่เป็นหน่วยงานของกระทรวงอุตสาหกรรมที่มีภารกิจในการส่งเสริมและสนับสนุนผู้ประกอบการไทยให้สามารถทำธุรกิจได้อย่างยั่งยืน ซึ่งในปัจจุบันกระแสการทุ่มตลาดของต่างประเทศผ่านการขายสินค้าหลากหลายชนิดในแพลตฟอร์มใหม่ๆ ที่เน้นขายสินค้าต่างประเทศในราคาถูก รวมทั้งกระแสตลาดออนไลน์ของธุรกิจใหม่ๆ กำลังมาแรงเพิ่มมากยิ่งขึ้น ในขณะที่คนไทยส่วนหนึ่งที่เป็นกลุ่มที่ซื้อสินค้าจากต่างประเทศ เนื่องจากต้องการสินค้าราคาถูกจากรายได้ที่ลดลง และมีบางรายที่เป็นผู้ค้าในแพลตฟอร์มของต่างประเทศซึ่งปัญหาเหล่านี้ล้วนมีผลกระทบกับผู้ประกอบการไทยเป็นอย่างมาก
ทั้งนี้ดีพร้อมได้มีแนวทางในการแก้ไขปัญหาดังกล่าว โดยได้ดำเนินการตามนโยบาย RESHAPE THE FUTURE : โลกเปลี่ยน อุตสาหกรรมปรับ พร้อมรับอนาคต ภายใต้แนวคิดชุมชนเปลี่ยน ผ่านการบูรณาการเครือข่ายความร่วมมือ (DIPROM CONNECTION) ซึ่งได้ร่วมมือกับบริษัท ไปรษณีย์ไทย จำกัด กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม เพื่อขับเคลื่อนการเสริมศักยภาพและพัฒนาชุมชน วิสาหกิจชุมชน รวมทั้งมาช่วยเพิ่มศักยภาพในด้านโลจิสติกส์ และการจัดจำหน่ายได้มากขึ้น ในรูปแบบ DIPROM X THAILANDPOST Member Card เพื่อพัฒนาศักยภาพและสร้างโอกาสทางการตลาดในการยกระดับขีดความสามารถวิสาหกิจไทยให้มีความยั่งยืน
โดยผ่านการเสริมสร้างองค์ความรู้ในด้านการพัฒนาผลิตภัณฑ์ กระบวนการผลิต มาตรฐานและออกแบบบรรจุภัณฑ์ให้ทันสมัยสอดรับกับเทรนด์โลก รวมถึงมีการแลกเปลี่ยนองค์ความรู้ในการจัดเก็บสินค้า และระบบคลังสินค้า โดยมองว่าต่อผู้ประกอบการและสินค้าไทยจำเป็นจะต้องปรับตัว และตั้งรับกับสถานการณ์ดังกล่าวที่จะเกิดขึ้น รัฐบาลจำเป็นจะต้องเร่งยกระดับการเติบโตของภาคอุตสาหกรรม เพื่อให้มีศักยภาพในการแข่งขัน และมุ่งเน้นการยกระดับเศรษฐกิจฐานราก เพื่อให้สามารถเติบโตได้อย่างยั่งยืน ลดความเหลื่อมล้ำและเพิ่มโอกาสในการสร้างรายได้จากต้นทุนที่มีในท้องที่ต่างๆ
นายภาสกร กล่าวว่า เพื่อเป็นการเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันให้กับผู้ประกอบการ ดีพร้อมและไปรษณีย์ไทยจึงสนับสนุนส่วนลดค่าส่งสินค้าให้สูงสุด 55% ในการขนส่งสินค้าจากผู้ผลิตไปยังผู้รับปลายทางอย่างมีคุณภาพอีกทั้งยังอำนวยความสะดวกในการจัดการด้านโลจิสติกส์และคลังสินค้าช่วยเก็บ แพ็ก ส่งรองรับการขยายตัวของธุรกิจ e-Commerce ในส่วนของลูกค้ากลุ่มธุรกิจ B2B และ B2C ที่เติบโตขึ้นอย่างต่อเนื่อง ซึ่งความร่วมมือที่เกิดขึ้นดังกล่าวเชื่อว่าจะช่วยสร้างความได้เปรียบทางการแข่งขัน และส่งเสริมการเติบโตของผู้ประกอบการ SMEs และวิสาหกิจชุมชนได้อย่างยั่งยืน โดยคาดว่าจะสามารถสร้างโอกาสทางการตลาดผ่านแพลตฟอร์มต่างๆ ได้กว่า 200 ล้านบาท
ทั้งนี้ช่องทางของไปรษณีย์ไทยมีทั้งรูปแบบของออนไลน์ บนเว็บไซต์ ThailandpostMart ซึ่งเป็นแพลตฟอร์ม e-Marketplace และออฟไลน์ผ่านร้านค้า ThailandPostMart 17 สาขาในพื้นที่เศรษฐกิจ เช่น ไปรษณีย์กลาง เคาน์เตอร์ไปรษณีย์สาขา MBK ไปรษณีย์จังหวัดอุดรธานี อุบลราชธานีนครราชสีมา บุรีรัมย์ ขอนแก่น หนองคาย เชียงใหม่พิษณุโลก ราชบุรี กระบี่ ภูเก็ต สุราษฎร์ธานี สงขลาปัตตานี และไปรษณีย์จอมสุรางค์ อีกทั้งไปรษณีย์ไทยยังมีแผนในการให้บริการขนส่งสินค้าเข้าคลัง Amazon เพื่อขยายโอกาส ขยายช่องทางให้กับผู้ประกอบไทย ได้ส่งสินค้าไปขายยังต่างประเทศอีกด้วย
นอกจากนี้ทางดีพร้อมจะมีดำเนินการร่วมมือกับกลุ่มเซ็นทรัล เพื่อเป็นการต่อยอดส่งต่อสินค้า และผลิตภัณฑ์จากภูมิปัญญาคนไทยไปยังแพลตฟอร์มกับกลุ่มเซ็นทรัลในสินค้า GOOD GOODS โดยจะเป็นการเพิ่มคุณค่างานหัตถกรรม โดยทางกลุ่มเซ็นทรัลจะช่วยในการพัฒนารูปแบบ สร้างสรรค์งานดีไซน์ให้ดูร่วมสมัย ให้เป็นที่ต้องการของคนไทย และนักท่องเที่ยวจากทุกมุมโลก โดยจะทำให้เกิดความยั่งยืนในแต่ละชุมชนต่อไป
กระบองเพชร
เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี