nn จากการที่...ดร.เอกนิติ นิติทัณฑ์ ประภาศ อธิบดีกรมสรรพสามิต...จัดงานมอบรางวัลโครงการ “1 ชุมชน 1 สรรพสามิต แชมเปี้ยน”...ทำให้ได้รู้ว่า...ปัจจุบันผู้ประกอบการสุราชุมชนมีทั้งหมด 2,064 รายแบ่งเป็น ผู้ประกอบการสุราแช่ ขนาดเล็กจำนวน 262 รายขนาดกลาง 5 ราย ผู้ประกอบการสุรากลั่นชุมชน ขนาดเล็ก 1,772 ราย และขนาดกลาง 25 ราย กรมสรรพสามิตมีรายได้ภาษีสุรากลั่นชุมชนงบประมาณปี 2567ในช่วง 11 เดือน เพิ่มขึ้น 2.67% และภาษีสินค้าสุราแช่ชุมชนเพิ่มขึ้น 16.58%...คิดเป็นเม็ดเงินประมาณ 1,267 ล้านบาท...!! ในการนี้...จุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง ไปเป็นประธานในพิธีฯ...และบอกว่ากระทรวงการคลังพร้อมเดินหน้ายกร่าง หรือแก้ไข พ.ร.บ.สรรพสามิตฉบับใหม่...เพื่อส่งเสริมให้สุราชุมชนเติบโตและเข้มแข็งมากขึ้น เปิดทางให้กลุ่มวิสาหกิจชุมชน โฆษณาทำตลาดได้มากขึ้น...เนื่องจากผู้ผลิตรายใหญ่ใช้รูปแบบโฆษณาน้ำดื่มแทนเบียร์สุรา...ฯลฯ...แวดวงการเงิน...ได้ยินอย่างนี้ก็ให้รู้สึกดีใจแทนพ่อแม่พี่น้องผู้ผลิตสุราชุมชน...ที่จะมีโอกาสเล็กๆ ที่จะได้แข่งกับพวกกลุ่มทุน “น้ำเมา” รายใหญ่ที่เขาใช้วิธีเลี่ยงบาลีด้วยการโฆษณาน้ำดื่มซึ่งก็มีชื่อเดียวกับเหล้า เบียร์ที่เขาขายอยู่...!! ไอ้เรื่องที่จะร่างพ.ร.บ.สรรพสามิตฉบับใหม่ หรือ จะแก้ไข พ.ร.บ.สรรพสามิต...แวดวงการเงิน...ก็รู้ว่าเป็นเทคนิคการ “ดึงเช็ง”ของนักการเมือง...เรื่องแบบนั้นมันต้องใช้เวลา...กว่าจะผ่านสภาฯ ได้เผลอๆ รัฐบาล “อุ๊งอิ๊งค์” ก็ไม่อยู่แล้ว...!! ท่านผู้อ่านครับ...ผู้ประกอบการสุรากลั่นชุมชน ขนาดเล็ก 1,772 ราย...มีมากว่า 60% พร้อมที่พัฒนาและเติบได้มากกว่าที่เป็นอยู่...ส่วนกลุ่มขนาดกลาง 25 ราย...เขาก็พร้อมที่จะขยับผลิตภัณฑ์ของเขาขึ้นไปถึงระดับผลิตสุราสี บรั่นดี...ได้แล้ว...เอาง่ายๆ เลยสำหรับผู้ประกอบการขนาดเล็ก...ถ้าท่านรัฐมนตรีจริงใจกับพวกเขา...แค่แก้กฎกระทรวงเรื่อง... “5 แรงม้า 7 แรงคน”...แค่นี้เองก็ทำได้แล้ว...เรื่องไม่เยอะเหมือนทำในระดับ “พ.ร.บ.”...แค่นี้พวกเขาก็ทะลุขีดจำกัด ก้าวข้ามอุปสรรคที่ภาครัฐวางกับดักไว้คอยสกัดกั้นพวกเขาได้แล้ว...คำถามคือ...จะทำกี่โมง???...จริงใจกับพวกเขาแค่ไหน???...หรือยังเกรงใจ “ทุนน้ำเมารายใหญ่” อยู่????... nn