nn เห็นด้วยอย่างยิ่งกับ..ดร.เศรษฐพุฒิ สุทธิวาทนฤพุฒิ ผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.)...ที่กล่าวว่า...“ไทยโตแบบเดิมไม่ได้ เพราะกว่า 10 ปีที่ผ่านมา การเติบโตของเศรษฐกิจในภาพรวมไม่ไปถึงครัวเรือนเท่าที่ควรนอกจากนี้รายได้กระจุกตัวอยู่กับธุรกิจขนาดใหญ่ และธุรกิจรายใหม่อยู่รอดยากขึ้น พึ่งโลกเท่าที่ผ่านมาไม่ได้...10 ปีที่ผ่านมาไทย เติบโตจาก กทม. และโตจากรายใหญ่ ซึ่งเป็นการโตบนฐานที่แคบ โอกาสโตอีกจึงน้อย ท้องถิ่นที่สากล จะช่วยให้โตดีกว่าที่ผ่านมา เพราะโตบนฐานที่กว้างขึ้น การโตจะไปต่อไม่ได้ หากยังพึ่งการอุดหนุน ดังนั้น การโตจะต้องกระจาย (more inclusive) ไปสู่คนหมู่มาก และโตแบบยืดหยุ่น (more resilient) เพราะท้องถิ่นแต่ละแห่งมีความแตกต่างและหลากหลาย สุดท้าย ถ้าจะให้ท้องถิ่นยั่งยืน (sustain) ต้องแข่งขันได้ผ่านความเป็นสากล”....!! แวดวงการเงิน...จึงมั่นใจว่าด้วยเหตุนี้เอง...ภาพสะท้อนของคำว่า “รวยกระจุก จนกระจาย”...มันเด่นชัดขึ้น...และด้วยเหตุที่เราอยู่บนโครงสร้างเช่นนี้ต่อเนื่องอย่างยาวนาน...ทำให้ประเทศไทยมีอันดับความเหลื่อมล้ำด้านความมั่งคั่งสูงเป็นอันดับต้นๆ ของโลก...!! และเหตุที่ไทยอยู่บนโครงสร้างนี้มานานก็เพราะระบบการปกครองของไทยที่บริหารงานด้วยรัฐบาลที่เกรงใจ “นายทุน”มากกว่าจะเกรงใจประชาชนนั่นเอง...หลายสิบรัฐบาลที่ผ่านมากฎหมายส่วนใหญ่จึงเอื้อแต่ “นายทุน”...ไม่ว่าจะ“นายทุน”ในธุรกิจไหนก็ตามล้วนได้ประโยชน์จากกฎหมายที่รัฐบาลประกาศออกมา...!! จนกระทั่งถึงวันนี้ในรัฐบาล ที่มีนายกรัฐมนตรี ชื่อ แพทองธาร ชินวัตร...จากแนวนโยบายที่ออกมา..ก็ไม่ได้แสดงให้เห็นเลยว่า...รัฐบาลได้หยิบเอาปัญหาในหลายมิติของประชาชนในระดับรากหญ้า...ขึ้นมาเป็นนโยบายที่รัฐบาลจะทำ...แต่นโยบายที่รัฐบาลจะทำคือสิ่งที่รัฐบาลคิดและจะทำให้แล้วบอกให้ประชาชนรอรับ...!! โดยไม่สนว่าประชาชนเขาอยากจะได้เช่นนั้นหรือเปล่า...หรือสุดท้ายแล้ว...ทำเพื่อประชาชนหรือนายทุนกันแน่...ตัวอย่างชัดๆ ก็เรื่องที่จะเอาธุรกิจใต้ดินขึ้นมาบนดิน...พูดให้ชัดก็อย่างเช่น...เอ็นเตอร์เทนเมนท์คอมเพล็กซ์ ซึ่งก็มี“บ่อนการพนัน” เป็นหัวใจหลักของเรื่อง...หรือแม้แต่โครงการก่อสร้างขนาดใหญ่ๆ หลายโครงการก็ไม่ได้ยึดโยงกับประชาชน...แต่ยึดโยงกับ “นายทุน” เป็นหลัก...อีกนโยบายที่เด่นชัดว่าเพื่อ“นายทุน” ก็เรื่องขยายสิทธิ์ให้ต่างชาติถือครองที่อยู่อาศัยในประเทศไทย...แน่นอนว่า“นายทุนอสังหาริมทรัพย์”ก็รับไปเต็มๆ...แล้วก็ปฏิเสธไม่ได้ด้วยว่า “ครอบครัวชินวัตร” ก็คือหนึ่งในกลุ่ม“นายทุนอสังหาริมทรัพย์”...nn
อนันตเดช พงษ์พันธุ์
เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี