บริษัทหลักทรัพย์ (บล.) เคจีไอ (ประเทศไทย) วิเคราะห์หุ้นบริษัทคาราบาวกรุ๊ป หรือ CBG เราคาดรายได้จากการขายของ CBG เพิ่มขึ้น 15% YoY และ 10% QoQ อยู่ที่ 5.42พันล้านบาทใน 3Q67F โดยที่ตัวขับเคลื่อนการเติบโตหลักจะมาจากยอดขายเครื่องดื่มชูกำลังในประเทศไทยเพิ่มขึ้นเพราะ CBG ได้ส่วนแบ่งการตลาดเพิ่มต่อเนื่องอยู่ที่ 24.8% ในเดือนสิงหาคม 2567 จาก 24.1% ใน 2Q67 เกินพอที่จะช่วยชดเชยรายได้จากการส่งออกที่ต่ำลงเนื่องจากเป็นช่วง low season ในกัมพูชา อีกทั้ง รายได้จากรับจ้างจัดจำหน่ายให้แก่บุคคลภายนอกจะเป็นอีกหนึ่งตัวขับเคลื่อนการเติบโตหนุนจากอุปสงค์เครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์แข็งแกร่ง (สุราข้าวหอม) ขณะที่ บริษัทมุ่งเน้นกลยุทธ์สร้างการรับรู้ ต่อแบรนด์เบียร์คาราบาวต่อเนื่อง เช่น การรุกขยายตลาดไปยังการค้าแบบดั้งเดิมในจังหวัดจุดหมายปลายทางของนักท่องเที่ยว รวมทั้งเพิ่มการเจาะตลาดเข้าไปยังร้านสะดวกซื้ออีกด้วย
ด้วยปัจจัยหนุนจากรายได้เติบโตแข็งแกร่ง เราคาดว่า CBG จะรายงานกำไรสุทธิที่ 742 ล้านบาท (+40% YoY และ +7% QoQ) ในแง่ อัตรากำไรขั้นต้น (GPM) คาดเพิ่มขึ้น0.9ppts YoY แต่ทรงตัว QoQ อยู่ที่ 27.7% เนื่องจากอัตรากำไรที่เพิ่มของกลุ่มเครื่องดื่มจะถูกชดเชยผลจากการปรับsales mix (รายได้จากการรับจ้างจัดจำหน่ายมี margin ต่ำกว่า)ขณะที่ การเพิ่มขึ้นของรายได้จากการขายน่าจะทำให้สัดส่วน SG&A ต่อยอดขายต่ำลง 2.4ppts อยู่ที่ 11.5% แต่อย่างไรก็ตาม เราคาดสัดส่วน SG&A ต่อยอดขายเพิ่มขึ้น 0.7ppts QoQ หลักๆ เนื่องจากค่าใช้จ่ายการตลาดต่างๆ สูงขึ้น
จากสมมุติฐานส่วนแบ่งการตลาดเครื่องดื่มชูกำลังในประเทศของ CBG มีแนวโน้มเพิ่มต่อเนื่อง เรามองด้านบวกต่อกำไรของบริษัทใน 4Q67F ปกติแล้วการส่งออกเครื่องดื่มชูกำลังจะต่ำที่สุดในไตรมาสที่สาม ประกอบกับรายได้จากการรับจ้างจัดจำหน่ายให้แก่บุคคลภายนอกคาดว่าจะเพิ่มขึ้นใน 4Q67F หนุนจากการเพิ่มขึ้นของการบริโภคในประเทศช่วงเทศกาลวันหยุด ส่วนการกระตุ้นการบริโภคจากภาครัฐบาลที่มุ่งเน้นกลุ่มเศรษฐกิจรากหญ้านั้นน่าจะเป็นอีกแรงหนุนให้กับ CBG ได้
เราคงคำแนะนำซื้อ หุ้น CBG ประเมินราคาเป้าหมายสิ้นปี 2568 ที่ 86.50 บาท เราเลือก CBG เป็นหุ้นเด่นสุดของเราในกลุ่มอาหารและเครื่องดื่ม เนื่องจากโมเมนตัมกำไรเป็นบวกใน 2H67F และมีความเป็นไปได้ของแนวโน้มการเติบโตระยะยาวด้วยแรงหนุนจากการ synergy ระหว่าง CBG และธุรกิจอื่นของผู้ถือหุ้นรายใหญ่ (เครื่องดื่มแอลกอฮอล์และร้านสะดวกซื้อ)
ปัจจัยเสี่ยงจากการบริโภคในประเทศ, การส่งออกเติบโตช้าและต้นทุนวัตถุดิบต่างๆ สูงขึ้น
ที่มา : บล.เคจีไอ (ประเทศไทย)
เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี