nn นายดนุชา พิชยนันท์ เลขาธิการสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ กล่าวในงานสัมมนา“การเปลี่ยนแปลงภูมิรัฐศาสตร์โลกนับต่อประเทศไทย” ว่าความขัดแย้งในหลายประเทศทั่วโลกมีระดับความขัดแย้งเพิ่มความเสี่ยง นำไปสู่วิกฤต และสงคราม เริ่มขยายวงกว้างกระทบไปหลายประเทศ รวมทั้งผลการเลือกตั้งในสหรัฐ ย่อมกระทบต่อไทยหลีกเลี่ยงไม่ได้ เมื่อสหรัฐได้กีดกันทางการค้ากับจีน ยอมรับสงครามรัสเซีย-ยูเครน ปุ๋ยราคาพุ่งร้อยละ 35-40 ค่าระวางเรือขนส่งสินค้าเพิ่มขึ้น ทำให้ราคาสินค้าส่งออกไทยเพิ่มขึ้น
ปัจจุบันเศรษฐกิจของโลก ขึ้นอยู่กับสหรัฐ จีน ยุโรป และสงครามทางการค้าพัฒนาไปสู่สงครามทางเทคโนโลยีมีการป้องกันเทคโนโลยี การออกแบบไอที เมื่อจีนเป็นเจ้าของแหล่งแร่ธาตุสำคัญ ในการผลิตเซมิคอนดักเตอร์ ยานยนต์ไฟฟ้า แพลตฟอร์มดิจิทัล มีการแย่งชิงผู้เชี่ยวชาญ ด้วยการให้วีซ่า การเสียภาษี และรูปแบบอื่นๆ ในการพัฒนาบุคลากร ไทยต้องเตรียมพร้อมรองรับปัญหาดังกล่าว โดยยกระดับการผลิตทุกห่วงโซ่อุปทานอาหาร รองรับเหตุการณ์ที่ไม่คาดฝันในอนาคต โดยมุ่งพัฒนาสินค้าเกษตรยุคใหม่การรับมือมาตรการกีดกันทางการค้าระหว่างขั้วอำนาจ กระทบต่อการลงทุน การส่งออกของไทย กระชับความสัมพันธ์อันเหนียวแน่นของกลุ่มอาเซียน
“นับว่าไทยมีความท้าทายสูงมากจากเวทีโลกเต็มไปด้วยความขัดแย้งทวีความรุนแรงมากขึ้น จึงต้องดึงการลงทุนเข้าสู่ไทย ให้มีอุตสาหกรรมเทคโนโลยีชั้นสูง การพัฒนาฝีมือแรงงานทักษะสูง การรักษาความมั่นคงทางอาหาร รองรับความต้องการของคนในประเทศ ต้องวางแผนการผลิตในระยะยาวด้วยการยกระดับการเกษตรสมัยใหม่ การวางตำแหน่งเชิงกลยุทธ์ ด้านนโยบายระหว่างประเทศ แนะเติมเงินใส่ในกองทุนเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันของประเทศสำหรับอุตสาหกรรมเป้าหมาย ให้เต็ม 1 หมื่นล้านบาท เพื่อยกระดับผู้ประกอบการไทย ดึงเด็กไทย มีศักยภาพทำงานอยู่ในต่างประเทศกลับเข้ามาพัฒนาเมืองไทย” นายดนุชากล่าว
นายศุภวุฒิ สายเชื้อ ประธานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ กล่าวว่า ระเบียบโลกกำลังเปลี่ยนไป เศรษฐกิจสหรัฐยังมีบทบาทสำคัญต่อเศรษฐกิจโลกสัดส่วน 1 ใน 4 ของจีดีพีโลก ขณะที่จีนมีสัดส่วน 6.7% ของจีดีพีโลกในปี 1990 เพิ่มเป็น 16.9%ในปี 2023 ปัจจุบันจีนผลิตสินค้าด้านอิเล็กทรอนิกส์ ยานยนต์ไฟฟ้า เคมีภัณฑ์ สินค้าไฮเทค แต่ความต้องการใช้สินค้าประเทศจีนไม่เพียงพอ จนต้องส่งออกไปยังต่างประเทศ โดยหาประเทศเชื่อมโยงไปยังกลุ่มประเทศขนาดใหญ่ เช่น เชื่อมฮังการี หวังส่งออกไปยังกลุ่มยุโรป เชื่อมกับเม็กซิโก หวังส่งออกไปอเมริกาใต้ เชื่อมกับสิงคโปร์ เวียดนาม เป็นศูนย์กลางส่งมายังอาเซียน สำหรับประเทศไทย เมื่อจีนลดการส่งออกสินค้าเกษตร นับว่าเป็นโอกาสของไทย ส่งออกสินค้าเกษตรไปยังจีน และต้องรอลุ้นว่า ใครชนะการเลือกตั้งในสหรัฐ เพื่อดูว่าการกำหนดนโยบายเศรษฐกิจ ทรัมป์ จะเก็บภาษีสินทรัพย์ หากทรัมป์ชนะการเลือกตั้ง อาจกระทบไทยและเตือนการกำหนดดอกเบี้ยนโยบายของสหรัฐ หากสูงที่ร้อยละ 5 จนกระทบต่อไทยอย่างมาก
ด้านนายเบญจรงค์ สุวรรณคีรี รองกรรมการผู้จัดการ ธนาคารเพื่อการส่งออกและนำเข้าแห่งประเทศไทย กล่าวว่าจีนกำหนดแผนพัฒนาประเทศในระยะยาว 30 ปี ข้างหน้าประกาศเป็นประเทศสังคมโมเดิร์น ในปี 2049 ในช่วงนี้จีนยังเดินหน้าพัฒนาเศรษฐกิจด้านต่างๆ เมื่ออาเซียน เป็นกลุ่มประเทศรองรับการค้า การลงทุน โดยจีนมุ่งเชื่อมโยงกับสิงคโปร์อันดับ 1 อินโดนีเซีย อันดับ 2 ไทยจึงต้องใช้โอกาสนี้รองรับการค้าการลงทุนจากจีน ไทยต้องมีจุดขายให้ชัดเจน ไทยมีจุดเด่น ของตลาดหลักทรัพย์ฯ ดูแลเรื่อง ESG โดยผู้บริโภคสัดส่วนร้อยละ 80 ยินดีจ่ายเงินเพิ่มเพื่อซื้อสินค้าสนับสนุนความยั่งยืน กลุ่มสินค้าดิจิทัลและนวัตกรรมเติบโตจากร้อยละ 16 ในปี 2567 เพิ่มเป็นร้อยละ 12.5 ในปี 2568 ผู้บริโภคต้องการใช้ AI สำหรับการซื้อขายสัดส่วน 3 ใน 5 ไทยจึงต้องใช้โอกาสนี้ ต้องปรับจุดยืนจุดขายในปัญหาภูมิรัฐศาสตร์
ส่วนนายดุลยภาค ปรีชารัชช นายกสมาคมภูมิภาคศึกษาและอาจารย์สาขาเอเชีย ตะวันออกเฉียงใต้มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ กล่าวว่าในช่วงปัญหาภูมิรัฐศาสตร์ของมหาอำนาจ จึงแนะนำ 1.ไทยวางตัวเป็นกลางแบบยืดหยุ่นและสร้างสรรค์ มุ่งเข้าหามหาอำนาจชาติใด ชาติหนึ่ง แบบไม่เลือกข้าง 2.นโยบายเสริมสร้างแกนนอก ปรับตัวเพื่อให้ไทยอยู่รอด ด้วยการขยายอำนาจใช้นโยบายต่างประเทศเชิงรุก มีสถานะอันดับกลาง ถ่วงดุลในบางเรื่องให้มหาอำนาจเกรงใจ 3.นโยบายผลักดันไทยให้เป็นศูนย์กลางพื้นทวีปและพื้นที่สมุทรอาเซียน ไทยมีทำเลเหมาะที่สุด ในการคุมคาบสมุทรมลายู ควรปกป้องผลประโยชน์การค้าการลงทุนทางทะเลอันดามันอ่าวไทย เชื่อมต่อไปยังแปซิฟิก ทางออกของประเทศไทยมีนโยบายต่างประเทศในเชิงรุกมากขึ้น
กระบองเพชร
เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี