ll ธนาคารพัฒนาเอเชีย (Asian Development Bank) หรือเอดีบี ได้เผยแพร่รายงานการวิเคราะห์แนวโน้มเศรษฐกิจในภูมิภาคเอเชีย ประจำเดือนกันยายน 2567 (Asian Development Outlook : ADO)โดยคาดว่าภูมิภาคจะเติบโตอยู่ที่ 5.0% ใน ปี 2567 เมื่อเทียบกับคาดการณ์เมื่อเดือนเมษายนที่ 4.9% และยังคงประมาณการเติบโตทางเศรษฐกิจปี 2568 ไว้ที่ 4.9% เช่นเดิม สำหรับอัตราเงินเฟ้อของประเทศกำลังพัฒนาในเอเชียและแปซิฟิกในปี 2567 คาดว่าจะชะลอตัวลงมาอยู่ที่ 2.8% จากที่เคยคาดการณ์ไว้ก่อนหน้านี้ที่ 3.2%
แนวโน้มเศรษฐกิจที่ปรับตัวดีขึ้นสะท้อนถึงการขยายตัวที่แข็งแกร่งเกินคาดในเอเชียตะวันออก คอเคซัส เอเชียกลาง และแปซิฟิก ทั้งนี้ ความต้องการเซมิคอนดักเตอร์ทั่วโลกที่เพิ่มขึ้น โดยส่วนหนึ่งมาจากการเติบโตของ AI ส่งผลให้มีการส่งออกเพิ่มขึ้น ในขณะเดียวกัน อัตราเงินเฟ้อได้ปรับตัวลดลงมาอยู่ในระดับใกล้เคียงกับก่อนเกิดโรคระบาด เนื่องจากราคาอาหารโลกลดต่ำลงและการส่งผ่านของนโยบายการเงินตึงตัวที่ล่าช้า
นายอัลเบิร์ต พาร์ค หัวหน้านักเศรษฐศาสตร์ประจำเอดีบี กล่าวว่าพื้นฐานทางเศรษฐกิจที่แข็งแกร่งจะยังคงสนับสนุนการขยายตัวทางเศรษฐกิจทั้งในปีนี้และปีหน้า และ สภาวะทางการเงินคาดว่าจะปรับตัวดีขึ้นเนื่องจากอัตราเงินเฟ้อที่ชะลอตัวลงและการผ่อนคลายนโยบายการเงินของสหรัฐฯ ซึ่งจะช่วยสนับสนุนแนวโน้มเชิงบวกของภูมิภาคนี้
ส่วนความเสี่ยงต่อแนวโน้มเศรษฐกิจ ได้แก่ ความตึงเครียดด้านการค้าระหว่างสหรัฐอเมริกาและจีนที่ทวีความรุนแรงขึ้น ตลาดอสังหาริมทรัพย์ของจีนที่เลวร้ายลงความตึงเครียดทางภูมิรัฐศาสตร์ที่เพิ่มมากขึ้น รวมทั้งผลกระทบจากการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศและสภาพอากาศที่ไม่
เอื้ออำนวยต่อราคาสินค้าโภคภัณฑ์และความมั่นคงด้านอาหารและพลังงาน
เอดีบีคาดว่าการเติบโตของเศรษฐกิจจีน ซึ่งเป็นเศรษฐกิจที่ใหญ่ที่สุดของประเทศกำลังพัฒนาในเอเชียและแปซิฟิก ยังคงอยู่ที่ 4.8% ในปีนี้ และ 4.5% ในปีหน้า โดยความอ่อนแออย่างต่อเนื่องของภาคอสังหาริมทรัพย์ในจีนได้ส่งผลกระทบเชิงลบต่อการใช้จ่ายของครัวเรือน
ในปี 2567 อย่างไรก็ตาม ผลกระทบดังกล่าวได้รับการชดเชยบางส่วนจากการลงทุนที่เพิ่มขึ้นอันเป็นผลจากนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจผ่านเครื่องมือทางการเงินและการคลังและการส่งออกที่เพิ่มขึ้น
เศรษฐกิจอินเดีย ซึ่งมีเศรษฐกิจใหญ่เป็นอันดับสองของภูมิภาค คาดว่าจะเติบโตที่ 7.0% ในปี 2567 เท่ากับที่เคยคาดการณ์ไว้เมื่อเดือนเมษายนที่ผ่านมา ท่ามกลางอุปสงค์ภายในประเทศที่แข็งแกร่ง รวมถึงการใช้จ่ายของภาครัฐที่เพิ่มขึ้นเศรษฐกิจในคอเคซัสและเอเชียกลางคาดว่าจะขยายตัวเพิ่มขึ้นเป็น 4.7% ในปีนี้ จากที่เคยคาดการณ์ไว้ที่ 4.3% เมื่อเดือนเมษายนที่ผ่านมา โดยได้รับแรงหนุนจากอุปสงค์ภายในประเทศที่ปรับตัวดีขึ้นจากการโอนเงินเข้าประเทศในบางเศรษฐกิจ สำหรับเศรษฐกิจในแปซิฟิกคาดว่าจะขยายตัวเพิ่มขึ้นเป็น 3.4% จาก 3.3%ที่คาดการณ์ไว้ในเดือนเมษายน โดยได้รับแรงหนุนจากจำนวนนักท่องเที่ยวที่เพิ่มขึ้น ส่วนเศรษฐกิจในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้นั้น คาดว่าจะปรับลดลง 0.1% เหลืออยู่ที่4.5% เนื่องจากการลงทุนภาครัฐที่ลดลงและการส่งออกที่ฟื้นตัวช้ากว่าที่คาดไว้
สำหรับเศรษฐกิจไทย เอดีบีปรับประมาณการเศรษฐกิจไทย จะขยายตัวที่ 2.3% ในปี 2567 จากที่เคยคาดการณ์ไว้เมื่อเดือนเมษายนที่ 2.6% และมีการปรับลดประมาณการเศรษฐกิจปี 2568 ลงจาก 3%มาอยู่ที่ 2.7% โดยคาดว่าภาคการท่องเที่ยวและการบริโภคภาคเอกชนจะยังคงเป็นแรงสนับสนุนหลักต่อการขยายตัวทางเศรษฐกิจ อย่างไรก็ตาม การบริโภคภาคเอกชนคาดว่าจะชะลอลงในระยะถัดไปจากภาวะการเงินที่ตึงตัวและความเชื่อมั่นผู้บริโภคที่ยังคงลดลงอย่างต่อเนื่อง ในขณะเดียวกัน การส่งออกสินค้าฟื้นตัวได้ช้าเมื่อเทียบกับประเทศอื่นในภูมิภาคและการลงทุนภาครัฐและเอกชนยังคงอยู่ในระดับต่ำ นอกจากนี้ผู้ประกอบการยังคงมีความกังวลด้านต้นทุนการผลิตและการขนส่งที่ยังคงสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง สำหรับมาตรการช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจของภาครัฐที่กำลังจะออกมานั้นคาดว่าจะช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจได้บ้างในระยะสั้น
เอดีบีชี้ว่ายังคงมีหลายปัจจัยที่ยังต้องติดตามในระยะต่อไปอย่างใกล้ชิด คือ ความขัดแย้งด้านภูมิรัฐศาสตร์ ปัญหาหนี้ครัวเรือนที่ยังอยู่ในระดับสูง หนี้ SME โดยเฉพาะธุรกิจที่เปราะบาง ปัญหาสภาพอากาศที่แปรปรวน รวมถึงสถานการณ์ทางการเมืองในประเทศที่จะส่งผลกระทบ
โดยตรงต่อความเชื่อมั่นของนักลงทุนและแผนการลงทุนของภาครัฐ ในส่วนของเสถียรภาพทางด้านราคานั้น ADB คาดว่าอัตราเงินเฟ้อทั่วไปของประเทศจะยังคงอยู่ในระดับต่ำที่ 0.7% ในปีนี้และ 1.3%ในปีหน้า จากภาวะเศรษฐกิจที่ยังคงฟื้นตัวได้ช้า และภาครัฐยังคงดำเนินมาตรการต่างๆ เพื่อช่วยบรรเทาค่าครองชีพของประชาชน
กระบองเพชร
เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี