แต่เดิมการผลิตเครื่องดื่มในประเทศไทยประเภท แอลกอฮอล์ สุรา และเบียร์ ซึ่งเป็นสินค้าสรรพสามิตมีลักษณะเป็นการผูกขาด เพราะต้องได้รับใบอนุญาตหรือสัมปทานจากรัฐบาลเท่านั้น ตามพระราชบัญญัติสุรา พ.ศ. 2493
มาตรการควบคุมตามกฎหมายยังรวมไปถึง การผลิตเพื่อใช้ในบ้านเรือน(บริโภคกันเอง) ซึ่งมิใช่เพื่อการจำหน่าย รวมไปถึงการมีไว้ในครอบครองซึ่งวัตถุดิบและเครื่องมือ (เครื่องกลั่น) การผลิตสินค้าประเภทนี้ หากกระทำโดยผู้ที่มิได้รับใบอนุญาต ถือเป็นการกระทำที่ฝ่าฝืนมาตรการควบคุมและกำกับดูแลของรัฐบาล เป็นการกระทำความผิดตามกฎหมาย และต้องรับโทษตามกฎหมาย
นอกจากนี้ ยังมีแนวปฏิบัติด้านขนบธรรมเนียมทางสังคมและจารีตปฏิบัติของไทย ในเชิงป้องกันการก่อความเดือดร้อนรำคาญ ก่ออาชญากรรมและการฝ่าฝืนกฎหมาย ซึ่งอาจเกิดอันตรายแก่สาธารณชน อันเป็นผลมาจากการบริโภคเครื่องดื่มแอลกอฮอล์เกินขนาด เป็นแรงสนับสนุนแฝงให้แก่มาตรการควบคุมของรัฐบาลในขณะเดียวกันที่รัฐบาลมีรายได้จากภาษีสรรพสามิตในการควบคุมกำกับดูแล
จำนวนยอดรายได้ซึ่งเกิดจากความนิยมสินค้าสรรพสามิตประเภทนี้ของผู้บริโภค หลังหักจากค่าใช้จ่ายจากการโฆษณาประชาสัมพันธ์แฝง รวมถึงรายได้จากช่องทางการจำหน่ายในรูปแบบต่างๆ (แม้จะหักจากค่าใช้จ่ายจากการโฆษณาประชาสัมพันธ์แฝง) จากการจำหน่ายสินค้าประเภทนี้ มีอัตราสูงมากโดยเฉลี่ยเมื่อเทียบกับสินค้าประเภทอื่น มีลักษณะเป็นการผูกขาดธุรกิจ
ผู้รับใบอนุญาตจากรัฐบาลจะเป็นผู้ลงทุนขนาดใหญ่เท่านั้นปิดกั้น ไม่ส่งเสริม และเปิดโอกาสให้แก่การลงทุนประกอบธุรกิจขนาดกลาง ขนาดเล็ก และรวมไปถึงในระดับชุมชน ให้มีการแข่งขันในธุรกิจประเภทนี้
มาตรการกำกับดูแลโดยระบบใบอนุญาต หรือสัมปทานของรัฐบาล อาจไม่สะท้อนการพัฒนาทางเศรษฐกิจของประเทศ ส่งผลให้การประกอบธุรกิจด้านนี้ “ผูกขาด” อยู่กับผู้รับสัมปทานกลุ่มเดียว ทั้งระบบไม่ส่งเสริมการพัฒนารูปแบบธุรกิจด้านนี้ เสียโอกาสการพัฒนาเทคโนโลยีการผลิตสูตรผลิต และแบรนด์ใหม่ของสินค้าเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ จากการคิดค้นและสร้างสรรค์ของผู้ประกอบธุรกิจรายอื่นๆ ให้ผู้บริโภคได้มีทางเลือกหลากหลายเพิ่มขึ้น
ด้วยสาเหตุดังกล่าว พรรคการเมืองบางพรรคได้เสนอแนวทางกฎหมายใหม่เกี่ยวกับเรื่องนี้ เพื่อแก้ปัญหาการผูกขาด และเป็นการส่งเสริมเศรษฐกิจชุมชน
ล่าสุด ได้มีพรรคการเมืองเสนอร่างกฎหมายเกี่ยวกับสุราเข้าสู่สภาผู้แทนราษฎร เพื่อพิจารณา ได้แก่ ร่างพระราชบัญญัติภาษีสรรพสามิต (ฉบับที่.....) 3 ฉบับ ในคราวเดียวกัน
พรรคประชาชนได้เสนอกฎหมายที่เรียกกันว่า กฎหมายสุราก้าวหน้า พรรครวมไทยสร้างชาติได้เสนอกฎหมายที่เรียกกันว่า กฎหมายสุรารวมไทย และพรรคเพื่อไทยได้เสนอกฎหมายที่เรียกกันว่า กฎหมายสุราชุมชนเพื่อเศรษฐกิจฐานราก
ความจริงแล้ว ในขณะนี้ มีกฎหมายที่ใช้บังคับอยู่แล้ว แต่มีสถานะเป็นเพียงกฎกระทรวง มีชื่อว่า กฎกระทรวงการผลิตสุรา พ.ศ. 2565 ที่เกี่ยวด้วยการประกอบธุรกิจผลิตสินค้าสรรพสามิตประเภทสุราโดยเฉพาะ แยกจากพระราชบัญญัติภาษีสรรพสามิต พ.ศ. 2560 (มาตรา 152-158) ซึ่งมีผลบังคับให้ยกเลิกพระราชบัญญัติสุรา พ.ศ. 2493
เนื้อหากฎกระทรวงการผลิตสุรา พ.ศ. 2565 กำหนดให้สุราชุมชนขนาดเล็กสามารถขยายกำลังการผลิตเป็นระดับกลาง ที่ใช้เครื่องจักรที่มีกำลังการผลิตสูงกว่า 5 แรงม้าแต่ไม่เกิน 50 แรงม้า และสามารถใช้คนงานมากกว่า 7 คนได้แต่ต้องไม่เกิน 50 คน ผู้ผลิตสุราชุมชนที่จะขยายกำลังการผลิตจากระดับเล็กเป็นระดับกลาง จะต้องเป็นผู้ได้รับใบอนุญาตผลิตสุราแช่ หรือสุรากลั่นชุมชนขนาดเล็กมาแล้วไม่น้อยกว่า 1 ปี และไม่เคยกระทำความผิดตามกฎหมายภาษีสรรพสามิต หรือเคยกระทำความผิด และพ้นโทษมาแล้วไม่น้อยกว่า 1 ปี
กรณีโรงงานผลิตเบียร์ขนาดใหญ่ต้องมีขนาดการผลิตไม่ต่ำกว่า 10 ล้านลิตรต่อปี สำหรับทุนจดทะเบียนนั้น ต้องไม่น้อยกว่า 10 ล้านบาท นอกจากนี้ กรณีผลิตเบียร์เพื่อขาย ณ สถานที่ผลิต (Brew Pub) ต้องใช้เครื่องจักรหรืออุปกรณ์ตามมาตรฐานที่อธิบดีประกาศกำหนด และปฏิบัติตามกฎหมายเกี่ยวกับสิ่งแวดล้อม และกฎหมายเกี่ยวกับการสาธารณสุขที่เกี่ยวข้อง
บุคคลธรรมดาที่มีอายุไม่น้อยกว่า 20 ปีบริบูรณ์ และนิติบุคคลสามารถขอใบอนุญาตผลิตสุราที่มิใช่เพื่อขายแลกเปลี่ยน หรือดำเนินการอื่นใดโดยได้รับประโยชน์ตอบแทนและต้องมีปริมาณการผลิตสุราไม่เกิน 200 ลิตรต่อปี
อย่างไรก็ดี สถานที่ผลิตสุราต้องมีพื้นที่เพียงพอที่จะผลิตสุราโดยไม่ก่อให้เกิดอันตราย เหตุเดือดร้อนรำคาญแก่ผู้อื่น และมิใช่สถานที่ผลิตสุราของผู้ได้รับใบอนุญาตผลิตสุรารายอื่น โดยคำนึงถึงความปลอดภัยของการบริโภคสุรา และมิติของสิ่งแวดล้อมเป็นสำคัญ
ความแตกต่างที่สำคัญของร่างกฎหมายใหม่ 3 ฉบับที่เสนอโดยพรรคการเมือง คือ ร่างกฎหมายของพรรคประชาชน เปิดโอกาสให้ประชาชนและชุมชนมีสิทธิผลิตสุราได้โดยเสรี ไม่ต้องขออนุญาตในขณะที่ร่างกฎหมายของพรรครวมไทยสร้างชาติและพรรคเพื่อไทย เปิดโอกาสให้ประชาชนและชุมชนมีสิทธิผลิตสุราได้เสรีมากขึ้น แต่ยังต้องถูกควบคุมโดยหน่วยงานของรัฐบาล โดยการแจ้งเพื่อได้รับใบอนุญาต ซึ่งจะไม่มีกระบวนการยุ่งยากเหมือนสมัยก่อนที่จะต้องได้รับ สัมปทานแบบบริษัทที่เป็นทุนใหญ่
หากพิจารณาถึงความเหมาะสม ร่างกฎหมายใหม่เกี่ยวกับสุราของพรรครวมไทยสร้างชาติ และพรรคเพื่อไทย น่าจะสอดคล้องกับสภาพสังคมในปัจจุบัน แม้จะแตกต่างกันในรายละเอียดอยู่บ้างก็ตาม
เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี