ll การขยายฐานภาษีเป็นเรื่องที่ดีและควรจะทำอย่างยิ่ง...แต่ถึงกระนั้นการอุดช่องโหว่และการเข้มข้นในการจัดเก็บภาษีก็เป็นอีกเรื่องที่สำคัญ...มีอยู่กรณีหนึ่งที่อยากหยิบเอามาเป็นตัวอย่าง...คือ ก่อนหน้านี้มีผู้นำเข้าเหล็กแผ่นรีดร้อนเข้ามาในคลังสินค้าทัณฑ์บนซึ่งแน่นอนว่าไม่ต้องชำระภาษีอากรทั้งขาเข้าและขาออก...เพื่อนำมาผลิตเป็นถังบรรจุแก๊สเพื่อส่งออก...แต่ว่าไม่รู้ใช้สูตรคำนวณการผลิตแบบไหนจึงมีเหล็กเหลือจากการผลิตจำนวนมาก...สุดท้ายก็ถูก “จับโป๊ะ” ได้ว่าเหล็กส่วนเกินที่ว่านั้นถูกนำมาผลิตถังแก๊สขายในประเทศ...แบบนี้ก็เลี่ยงเข้าข่ายเลี่ยงภาษีชัดๆ...ทีนี้พอ “เรื่องแดง” ขึ้นมา...กรมศุลกากร...ก็ก้นร้อนเลย...เร่งเข้าไปตรวจสอบ...แต่ไม่รู้ตรวจสอบกันอีท่าไหนเรื่องผ่านมานานเกือบจะหมดอายุความแล้ว (10 ปี)...กรมศุลกากรก็ยังทำอะไรไม่ได้กับกรณีนี้....!! คงต้องฝาก คุณธีรัชย์ อัตนวานิช อธิบดีกรมศุลกากร...ติดตามกรณีแบบนี้ด้วย...ไหนๆ ก็ไม่ได้ขยับเก้าอี้ในรอบนี้แล้ว...ก็ช่วย “ขันนอต” เจ้าหน้าที่หน่อยก็คงจะดีไม่น้อยเพราะเรื่องแบบนี้มีอยู่หลายกรณีที่กรมศุลกากรเหมือนจะใส่เกียร์ว่างอยู่นะ...ไอ้เรื่องที่วิ่งไล่จับบุหรี่เถื่อน บุหรี่ไฟฟ้าหอมกระเทียมเถื่อน ฯลฯ...ก็ทำต่อไปนะดีแล้ว...แต่เรื่องยากๆแบบพวกนำเข้าเจ้าเล่ห์ที่จงใจเลี่ยงภาษีแบบนี้ก็ไม่ควรปล่อยผ่านง่ายๆ....จริงๆ เรื่องเหล็กจีนเลี่ยงภาษีมีอีกหลายกรณีนะ...เดี๋ยวแวดวงการเงินจะเอามาแฉให้อีกในโอกาสต่อไป...
ll มันก็น่าเบื่อนะกับหนึ่งใน “กุมารทองแห่งคลองประปา” รายหนึ่งที่ออกมาพยายามจะกดดันธนาคารแห่งประเทศไทย(แบงก์ชาติ)เรื่อง“ดอกเบี้ยนโยบาย” อยู่บ่อยครั้ง...ล่าสุดก็ฉวยจังหวะที่ค่าเงินบาทแข็งค่าขึ้นมามาก...กดดันแบงก์อีกแล้ว...ประมาณเหมือนจะพยายามบอกว่าที่ค่าเงินบาทแข็งแบบนี้เพราะส่วนหนึ่งมาจากที่แบงก์ชาติไม่ยอมลดดอกเบี้ยนโยบาย...!! Oh no ท่านกุมารทองฯครับผม...แวดวงการเงิน...ไม่เถียงว่าการลดดอกเบี้ยจะมีส่วนช่วยการลดดอกเบี้ยอาจจะเป็นตัวที่ทำให้การเข้าถึงสินเชื่อง่ายขึ้น การขอสินเชื่อคล่องตัวขึ้น ลดปริมาณการเกิดหนี้เสียลงได้ และลดต้นทุนของเอกชน...แต่ตอนนี้ดอกเบี้ยนโยบายเราอยู่ที่ 2.50% ดอกเบี้ยเงินฝากประจำ 12 เดือนก็อยู่ที่ไม่เกิน 1.75% หรือยาวว่านั้นก็ไม่เกิน 2.5%...ขณะที่ดอกเบี้ยสหรัฐ(เฟดฟันด์เรท) เขาอยู่ระดับ 4-5%...ส่วนของยุโรปก็ระดับ 3.75%...คิดได้จริงๆ เหรอว่าเขาโยกเงินมาเพื่อส่วนต่างดอกเบี้ยของไทยเงินจึงไหลทะลักเข้ามามากจนทำให้เงินบาทแข็ง...!! อ้อ...เปล่านะ...แวดวงการเงิน...ไม่ได้บอกว่ากำลังพูดถึง...คุณเผ่าภูมิ โรจนสกุล รมช.คลัง...ที่ได้กล่าวไว้ในงานสัมมนาแห่งหนึ่งเมื่อถูกถามว่า...ค่าเงินบาทจะแข็งค่าขึ้นไปได้มากแค่ไหน????...“เรื่องนี้เป็นเรื่องของทิศทางนโยบายการเงินที่เปลี่ยนทิศทางและทำให้เงินไหลเข้ามาในภูมิภาคและในประเทศไทยมากขึ้น ซึ่งหากนโยบายการเงินเราสวนทางกับนโยบายการเงินโลกค่าเงินบาทก็จะแข็งค่ามากขึ้นไปเรื่อยๆได้”....!! Oh no อีกที...ll
อนันตเดช พงษ์พันธุ์
เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี