เมื่อช่วงต้นเดือนตุลาคม 2567 ที่ผ่านมา ตำรวจท่องเที่ยวได้จับกุมชายสัญชาติลักเซมเบิร์ก สวมรอยเป็นไกด์เถื่อน พานักท่องเที่ยวต่างประเทศกลุ่มใหญ่ขี่สกู๊ตเตอร์ไฟฟ้าเที่ยวชมสถานที่สำคัญต่างๆ รอบเกาะรัตนโกสินทร์ เมื่อถูกจับกุมได้อ้างว่าทำหน้าที่เป็นเพียงล่าม
หลังจากที่สมาคมมัคคุเทศก์อาชีพแห่งประเทศไทยได้ยื่นหนังสือร้องเรียนอย่างเป็นทางการต่อกระทรวงท่องเที่ยวและกีฬา เมื่อต้นเดือนกันยายน 2567 กระทรวงได้เร่งออกมาตรการกวดขัน ปราบปรามมัคคุเทศก์เถื่อน ทัวร์ผีทุกภาษาอย่างจริงจัง เนื่องจากพบว่า มีชาวต่างชาติลักลอบเข้ามาสวมรอยเป็นมัคคุเทศก์หรือไกด์ แย่งอาชีพสงวนตามกฎหมายของคนไทยเป็นจำนวนมาก
มัคคุเทศก์หรือไกด์นำเที่ยว เป็นอาชีพสงวนตามกฎหมายสำหรับคนไทย ตามมาตรา 7 วรรคหนึ่งพระราชกำหนดการบริหารจัดการการทำงานของคนต่างด้าว พ.ศ. 2560 แก้ไขเพิ่มเติมพระราชกำหนดการบริหารจัดการการทำงานของคนต่างด้าว (ฉบับที่ 2)พ.ศ. 2561 บัญชี 1 ลำดับที่ 22) จัดเป็นอาชีพที่สร้างรายได้ดี
มัคคุเทศก์ไทยจะทำหน้าที่เป็นทั้งผู้นำเที่ยว (tour leader หรือ guide)ในสถานที่ต่างๆ และล่ามผู้บรรยายให้ความรู้ด้านประวัติศาสตร์ ศิลปะวัฒนธรรม และขนบธรรมเนียมประเพณีปฏิบัติของไทย ในภาษาสัญชาติของนักท่องเที่ยวต่างชาติ หรือในภาษาที่นักท่องเที่ยวต่างชาติเข้าใจ ทำให้ง่ายต่อความเข้าใจและซาบซึ้งด้วยศิลปะท่วงทีการใช้ภาษาในการบรรยาย สร้างความประทับใจ และพึงพอใจให้แก่นักท่องเที่ยวเป็นอย่างมาก
ผู้ทำหน้าที่มัคคุเทศก์จะต้องผ่านการอบรมและขึ้นทะเบียนใบอนุญาตเป็นมัคคุเทศก์จากกรมการท่องเที่ยว รวมถึงเจ้าของสถานประกอบการธุรกิจนำเที่ยวด้วย ตามพระราชบัญญัติธุรกิจนำเที่ยวและมัคคุเทศก์ (ฉบับที่ 2) พ.ศ. 2559
กฎหมายกำหนดให้มีมัคคุเทศก์ 1 คน ต่อจำนวนนักท่องเที่ยว50 คน ตามประกาศคณะกรรมการธุรกิจนำเที่ยวและมัคคุเทศก์ เรื่องหลักเกณฑ์การจัดให้มีมัคคุเทศก์ต่อจำนวนนักท่องเที่ยว พ.ศ. 2566โดยใบอนุญาตมัคคุเทศก์มีประเภททั่วไป ท้องถิ่น และภูมิภาค ใบอนุญาตมีอายุคราวละ 5 ปี ขณะทำหน้าที่จะต้องมีใบอนุญาตแสดงตลอดเวลา
ประเทศไทยเป็นประเทศเสรีที่คนไทยมีรอยยิ้มและน้ำใจไมตรี ต้อนรับ เอื้อเฟื้อ ให้เกียรติ แก่บรรดาชาวต่างชาติผู้มาเยือนเสมอ ถือเป็น
ขนบธรรมเนียมปฏิบัติสืบทอดกันมา
ความที่คนไทยมีจิตใจโอบอ้อมอารีและเอื้อเฟื้อเผื่อแผ่ กลับกลายเป็นปัญหา ทำให้ชาวต่างชาติเป็นจำนวนมากเข้ามาในประเทศไทย แล้วลักลอบ แทรกแซง แย่งอาชีพคนไทย ที่เป็นอาชีพสงวนสำหรับคนไทยมากมายหลายอาชีพ อาทิ ช่างตัดผม/เสริมความงาม, ตัวแทน/นายหน้า, ขายของ, งานบริการทางกฎหมาย และบัญชี โดยแฝงตัวเข้ามาในรูปแบบต่างๆ
ทั้งที่นายจ้างและชาวต่างชาติผู้ฝ่าฝืนต้องได้รับโทษตามกฎหมาย โดยนายจ้างมีโทษปรับ สูงสุดถึง 100,000 บาท ต่อการจ้างแรงงานต่างด้าวเถื่อน 1 คน และหากทำผิดซ้ำ จะมีโทษปรับ 50,000-200,000 บาท โทษจำคุกไม่เกิน 1 ปี และขึ้นบัญชีห้ามจ้างแรงงานต่างด้าวอีก 3 ปี
ส่วนแรงงานต่างด้าวที่ทำงานโดยไม่ได้รับอนุญาต มีโทษปรับ 5,000-50,000 บาท และจะถูกส่งกลับประเทศตามสัญชาติ
กรณีตำรวจท่องเที่ยวจับกุมชาวต่างชาติ สัญชาติลักเซมเบิร์ก ที่ลักลอบทำงานเป็นมัคคุเทศก์หรือไกด์ ตามที่เป็นข่าว เป็นเพียงหนึ่งตัวอย่างเล็กๆ เท่านั้นเอง
การสอดส่องดูแล การลักลอบทำงานของชาวต่างชาติในประเทศไทย จะอาศัยการปฏิบัติหน้าที่ของเจ้าหน้าที่ตำรวจ และเจ้าหน้าที่จากกระทรวงแรงงาน ถือว่าไม่เพียงพอ เพราะไม่อาจสอดส่องดูแลได้ทั่วถึง
สมาคม หรือองค์กร ทางด้านวิชาชีพต่างๆ ที่ชาวต่างชาติ ลักลอบเข้ามาทำงานในประเทศไทย ควรแสดงบทบาทและความรับผิดชอบอย่างจริงจัง ในการสงวนรักษาอาชีพ ตลอดจนปกป้องผลประโยชน์ของคนไทยที่เป็นเจ้าของประเทศ
เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี