“ยุคนี้งานเดียวไม่พอ” เป็นคำพูดที่ใครหลายคนบอกกัน แม้แต่ผมเองก็พยายามบอกคนใกล้ตัวอยู่เสมอ ว่าคนเราควรคิดและมองหา งานที่ 2 อาชีพที่ 3 และธุรกิจที่ 4 อยู่เสมอ
ไม่ใช่แค่เพื่อให้มั่งคั่งเร็ว เพราะนั่นอีกนานกว่าจะเห็นผล แต่เพื่อป้องกันความเสี่ยงกรณีสูญเสียรายได้หลักไป อันนี้สิเกิดเมื่อไหร่ก็ได้ ไม่มีใครรู้ ถ้ารายได้หลักหายไป แต่ยังมีรายได้เสริมประคองรายจ่ายเอาไว้ ชีวิตก็ยังเดินต่อไปได้ การเงินไม่สะดุด
อย่างไรก็ดี แม้ยุคนี้จะเป็นยุคแห่งการสร้างอาชีพเสริม แต่หลายคนพอมีอาชีพเสริมเข้าจริง กลับไม่ได้มั่งคั่งหรือมั่นคงอย่างที่คิดเอาไว้ แย่หนักกว่านั้นคือ หลายคนยิ่งทำหลายอย่าง “ยิ่งจนลง” ไม่ได้รวยขึ้น ทั้งที่ก็ขายดี มีรายได้เข้ามาเรื่อยๆ
ทำไมจึงเป็นอย่างนั้น?
เชื่อว่าหลายคนน่าจะเดาคำตอบได้
ใช่ครับ! เพราะบริหารเงินรายได้ไม่เป็นนั่นเอง
จะว่าไปแล้วในบรรดารายได้ทั้งหลาย “เงินเดือน” เป็นรายได้ที่จัดการได้ง่ายที่สุด เพราะเป็นเงินสุทธิให้เรานำไปกินใช้ได้เลย แค่กินใช้ให้มีเก็บมีออมทุกเดือน แบบนี้ก็ถือว่าบริหารเงินเดือนพอใช้ได้แล้ว
แต่กับรายได้เสริมไม่เหมือนกันครับ รายได้หรือยอดขายของเรา ไม่สามารถนำมากินใช้ส่วนตัวได้ทันที เพราะในยอดขายนั้นมี “ต้นทุน” ของสินค้าและบริการของเรารวมอยู่ด้วย ที่ถูกจึงต้องบันทึกต้นทุนและค่าใช้จ่าย หักจากยอดขาย เหลือเป็นกำไรเท่าไหร่ถึงจะนำมากินใช้ได้
ทั้งนี้เราสามารถวัดกันได้ง่ายๆ เลยว่า ใครทำอาชีพเสริมแล้วการเงินก้าวหน้าหรือทำมานานแล้วชีวิตไม่ไปไหน ด้วยคำถามง่ายๆ ไม่กี่คำถาม ดังนี้
1. รู้หรือเปล่าว่า รายได้จริงๆของเราเท่าไหร่ ต้นทุนของเราจริงๆ เท่าไหร่ (ตอบข้อนี้ไม่ได้ แยกย้ายทางใครทางมันได้เลยครับ)
2. กำไรต่อวัน หรือต่อเดือน ของเราเป็นเท่าไหร่
3. มีการหักต้นทุนแยกไว้หมุนเวียนกิจการต่อหรือเปล่า
4. กำไรที่ได้ เราจัดสรรปันส่วน หรือบริหารมันอย่างไร
ข้อแรกสำคัญที่สุด ไม่รู้ตัวเลขรายได้ที่แน่นอน ไม่รู้ต้นทุนตัวเอง ไม่มีทางรู้กำไร แล้วก็บริหารต่อไม่ได้เลย ดังนั้นต้นทุนและค่าใช้จ่ายทุกอย่างต้องถูกบันทึกไว้ทั้งหมด
ใครที่ไม่ได้ทำงานประจำ ค้าขายหรือทำอาชีพอิสระเพียงอย่างเดียว ต้องตั้งเงินเดือนตัวเองเป็นส่วนหนึ่งของต้นทุนด้วย และห้าม (ย้ำ! ห้าม) กินใช้เกินเงินเดือนที่ตั้งไว้เด็ดขาด เพราะถ้ากินใช้เกินเงินเดือนที่ตั้งไว้ ก็มีโอกาสที่จะกินต้นทุนไปด้วย
แล้วก็จะเกิดปรากฏการณ์ “ขายดี แต่ไม่มีเงินทำทุนต่อ” (บ้าไปแล้ว)
เมื่อรู้ต้นทุน ขายได้เท่าไหร่ ก็ให้หักต้นทุนเก็บไว้หมุนเวียน เช่น ถ้ายอดขาย 100 บาท ต้นทุน 60 บาท ก็ให้หัก 60 บาทจากยอดขาย ใส่เก๊ะใส่กระปุกเอาไว้ซื้อของมาขายต่อในครั้งหน้าห้ามแกล้งลืมแกล้งทำมึนไม่หักเก็บ แล้วก็ห้ามให้ใครยืมเงินหมุนเวียนก้อนนี้เด็ดขาด เพราะถ้าหมดไม่มีติดตัว เดี๋ยวก็ได้หยิบได้ยืมเขาอีก ยิ่งขายยิ่งเป็นหนี้ ยิ่งจนลง
หักต้นทุนแล้ว เหลือกำไร สิ่งที่ต้องทำต่อก็คือ จัดสรรกำไรเป็น 3 ส่วน ดังนี้
ส่วนแรก : โปะหนี้จากจ่ายขั้นต่ำ (ถ้ามีหนี้)
ส่วนที่สอง : เติมความสุข ใช้ชีวิตให้กินอร่อยเที่ยวสนุกได้อีกสักนิด
ส่วนที่สาม : ออมและลงทุนเพื่อต่อยอดความมั่งคั่ง
เรื่องสัดส่วนไม่มีหลักการตายตัว ถ้าคิดไม่ออกก็อย่างละ 30% แต่จะเพิ่มลดตรงไหนมากน้อย ก็ไม่มีผิดกติกา ถ้าไม่มีหนี้ ก็จัดสรรให้กับการเติมเต็มความสุขและลงทุนเพิ่มเติมได้เลย
สิ่งสำคัญอีกประการหนึ่งก็คือ อย่าใช้เงินมั่ว คิดว่ายังไงก็เงินเราเหมือนกัน แล้วก็โยกใช้จ่ายปะปนกันไปหมด วิธีคิดนี้ผิดมากๆ
ถ้ามีงานประจำและมีอาชีพเสริม ดีที่สุดคือกินใช้ในชีวิตประจำวันไม่ให้เกินเงินเดือน ส่วนกำไรจากอาชีพเสริม ก็จัดสรร 3 ส่วนอย่างที่บอกไป
แต่ถ้าเงินเดือนจากงานประจำใช้ไม่พอ จะดึงจากธุรกิจไปเติมได้ เฉพาะส่วนที่เป็นกำไรเท่านั้น ห้ามดึงทุนไปเด็ดขาด จำไว้ว่าดึงทุนไปใช้เมื่อไหร่ ที่ทำมาทั้งหมดได้เหนื่อยฟรีแน่นอน
สุดท้ายแล้วคนที่พยายามหารายได้เพิ่ม ไม่ว่าจะเป็นงานที่ 2 อาชีพที่ 3 หรือธุรกิจที่ 4 ล้วนแล้วแต่น่าชื่นชมในความพยายามทั้งสิ้น และมันจะยอดเยี่ยมมาก ถ้าความพยายามของเรา สุดท้ายได้รับการตอบแทนเป็นความมั่งคั่งและมั่นคงทางการเงินที่เพิ่มขึ้น หรืออย่างน้อยช่วยพาชีวิตการเงินของเราให้พ้นจากปัญหาหนี้ได้
ตักน้ำเติมใส่ตุ่มใบใหญ่ๆ สักใบ มันจะเร็วขึ้น ถ้าเรามีถังน้ำหลายใบ ช่วยกันตักช่วยกันเติมน้ำใส่ตุ่ม แต่ถ้าถังทุกใบที่เรามีต่างก็มีรูรั่วใหญ่บ้างเล็กบ้าง การมีถังหลายใบนอกจากจะไม่ช่วยให้น้ำเต็มตุ่มแล้ว ยังทำให้เราออกแรงเหนื่อยเปล่าอีกด้วย
จัดการเงินกันให้ดีนะครับ
ยิ่งมีรายได้หลายทางยิ่งต้องใส่ใจและละเอียดเรื่องเงินครับ
#TheMoneyCoachTH
เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี