บริษัทหลักทรัพย์ (บล.) เคจีไอ (ประเทศไทย) วิเคราะห์หุ้นบริษัทท่าอากาศยานไทย หรือ AOT เราคาดว่ากำไรสุทธิ4Q67F จะอยู่ที่ 4.16 พันล้านบาท (+21.2% YoY, -8.9% QoQ) จะทำให้กำไรสุทธิ FY67F อยู่ที่ 1.91 หมื่นล้านบาท(+116.9% YoY) ต่ำกว่าประมาณการของเรา 6.9% เมื่ออิงตามผลการดำเนินงาน 4Q67F คาดว่าจำนวนผู้โดยสารรวมจะอยู่ที่ 29.2 ล้านคน (+13.6% YoY, +0.8% QoQ) แบ่งเป็น
ผู้โดยสารระหว่างประเทศ 18.1 ล้านคน และผู้โดยสารในประเทศ 11.1 ล้านคน จำนวนเที่ยวบินคาดว่าจะอยู่ที่ 184,131 เที่ยว (+11.6% YoY, +1.5% QoQ) เราคาดว่ารายได้จะอยู่ที่เกือบๆ 1.6 หมื่นล้านบาท (+3.9% YoY, -2.7%QoQ) คาดว่า EBIT margin จะอยู่ที่ 36.1% จาก 31.7%ใน 4Q66 และ 38.4% ใน 3Q67

สรุปแล้ว เราคาดว่าผลการดำเนินงาน AOT จะดีขึ้นต่อเนื่อง YoY ใน 4Q67F จากจำนวนผู้โดยสารเพิ่มขึ้นอย่างไรก็ตามกำไรที่ลดลง QoQ จะเป็นเพราะได้รับผลกระทบจากการคืนพื้นที่เชิงพาณิชย์ในส่วนของร้านค้าปลอดอากรขาเข้า ตั้งแต่วันที่ 1 สิงหาคม อีกทั้งคณะกรรมการบริษัทยังอนุมัติให้จ่ายโบนัส 8 เดือนสำหรับปี FY67 จาก 7 เดือนในปี FY66 จะทำให้กำไรสุทธิ 4Q67F ลดลงเพราะค่าใช้จ่าย SG&A สูงกว่าคาด

เมื่อมองต่อไปข้างหน้า เราคิดว่า AOT น่าจะเติบโตต่อเนื่องใน 1Q68F (ตุลาคม-ธันวาคม 2567) เนื่องจากเป็นฤดูท่องเที่ยวของไทย แนวโน้มระยะยาวของบริษัทยังจะได้แรงหนุนจากจำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติที่กำลังเพิ่มขึ้นไปถึงระดับก่อน COVID-19 ระบาดได้เป็นอย่างน้อย ซึ่งปัจจุบันเพิ่มขึ้นมาอยู่ที่ประมาณ 88% ของระดับก่อน COVID-19 ระบาดแล้ว เรายังเห็นโอกาสที่จำนวนนักท่องเที่ยวจะเพิ่มขึ้นได้ในอีกสองสามปีข้างหน้า

นอกจากนี้ AOT จะขยายสนามบินสุวรรณภูมิฝั่งตะวันออกเพื่อรองรับผู้โดยสารเพิ่มอีก 15 ล้านคน/ปี และมีแผนจะขยายอาคารผู้โดยสารด้านใต้ (South Terminal) เพื่อรองรับผู้โดยสาร 70 ล้านคน/ปี และมีแผนจะพัฒนาสนามบินดอนเมืองเฟส 3 เพื่อรองรับผู้โดยสาร 50 ล้านคน/ปี
ในอนาคตด้วย

เรายังคงประมาณการกำไรสุทธิปี FY67F ไว้ที่ 2.05 หมื่นล้านบาทในปี FY67F และปี FY68F ไว้ที่ 2.42หมื่นล้านบาท และยังคงคำแนะนำซื้อ โดยประเมินราคาเป้าหมาย DCF ปี FY68 ที่ 72.00 บาท

ปัจจัยเสี่ยงจาก COVID-19 กลับมาระบาดใหม่, เศรษฐกิจถดถอย และ ความไม่สงบทางการเมืองไทย

ที่มา : เคจีไอ (ประเทศไทย