บริษัทหลักทรัพย์ (บล.) เคจีไอ (ประเทศไทย) อัปเดตบริษัทอมตะ คอร์ปอเรชั่น หรือ AMATA ยอดขายที่ดินรอการโอนกรรมสิทธิ์(backlog) ณ สิ้น 3Q67 สูงสุดเป็นประวัติการณ์ถึง 1.94 หมื่นล้านบาท(ไทย: 1.76 หมื่นล้านบาท และเวียดนาม: 1.8 พันล้านบาท) เพิ่มขึ้น 15%QoQ เรามองว่าปัจจัยนี้จะช่วยหนุนผลการดำเนินงาน 4Q67F และปี 2568F ได้ดี ขณะที่ CEO ของ AMATA ยืนยันเป้าหมายยอดขายที่ดินนิคม ฯ ปี 2567F ที่ 2.500 พันไร่ (9M67: ขายได้แล้ว 2.000 พันไร่)ยอดโอนที่ดินอาจสูงถึง 1.00 พันไร่ (9M67: โอนแล้ว 766 ไร่) ซึ่งเป็นแนวอนุรักษ์นิยมกว่าประมาณการของเราที่ 1.200 พันไร่ ชี้เป็นนัยว่า 4Q67F น่าจะเป็นอีกไตรมาสที่แข็งแกร่งด้วยยอดโอนที่ดินราว 434 ไร่ (เทียบกับ 452 ไร่ใน 3Q67 และ 303 ไร่ใน 4Q66) ขณะที่ค่าใช้จ่ายต่างๆใน 4Q67F น่าจะลดลงสู่ระดับปกติเมื่อเทียบกับฐานสูงใน 3Q67 รวมถึงการตั้งสำรองความเสียหายราว 70 ล้านบาทจากพายุไต้ฝุ่นยางิในเวียดนาม ทั้งนี้ กำไรสุทธิ 9M67 ที่ 1.46 พันล้านบาท (+22% YoY)คิดเป็น 63% ของประมาณการทั้งปีของเราที่ 2.3 พันล้านบาท (+23% YoY)
สำหรับปี 2568 เราประมาณยอดโอนที่ดินนิคมฯ ที่ 1.416 พันไร่ (+18% YoY) หนุนจาก backlog สูงสุดเป็นประวัติการณ์ที่ 1.94 หมื่นล้านบาท ส่วนประมาณการยอดขายที่ดินนิคมฯ ของเราอยู่ที่ 2.500 พันไร่ (ทรงตัว YoY) ท่ามกลางการย้ายฐานการผลิตแข็งแกร่งไปยังทั้งไทยและเวียดนาม เรามองว่าอาจมี upside จากยอดขายที่ดินในนิคมฯ แรกใน สปป.ลาว ที่แขวง Namor ปัจจุบันบริษัทฯมีที่ดินรวม 1.7 หมื่นไร่ที่พร้อมรองรับดีมานด์ และยังตั้งเป้าซื้อที่ดินใหม่ 5- 6พันล้านบาทต่อปีในปี 2567F-68F โดยที่ AMATA ได้ปรับเพิ่มราคาขายที่ดินขึ้น 5-10% เมื่อต้นปี 2567 ส่วนการปรับราคาครั้งต่อไปคาดว่าจะเกิดขึ้นในปีหน้า
การยื่นขอสิทธิประโยชน์ทางภาษีจาก BOI ยังมีแนวโน้มสูงขึ้น โดยเพิ่มขึ้น 42% YoY อยู่ที่ 7.22 แสนล้านบาทใน 9M67 เมื่อเทียบกับค่าเฉลี่ย 28% ต่อปีในช่วงปี 2564-2566 ขณะที่ AMATA ยังคงมองในแง่ดีเกี่ยวกับการย้ายฐานของการลงทุนจากต่างประเทศ โดยเฉพาะจากประเทศต่างๆ ที่ใช้ภาษาจีน ได้แก่ จีนแผ่นดินใหญ่ ไต้หวัน สิงคโปร์ และฮ่องกง ท่ามกลางโอกาสเกิดสงครามการค้ารอบใหม่ที่อาจรุนแรงขึ้น ปัจจุบันลูกค้า AMATA ราว 80% มาจากจีนขณะที่ 37% ของทั้งหมดเป็นลูกค้าอุตสาหกรรมและ 20% เป็นอุตฯ ไฟฟ้าและอิเล็กทรอนิกส์
เราคงคำแนะนำซื้อ โดยมีราคาเป้าหมาย SOTP ที่ 34.00 บาทจากที่เราคาดว่ายอดขายที่ดินอุตสาหกรรมรายปีใน 2 ปีข้างหน้าจะอยู่ที่ 2.500 พันไร่สูงกว่าค่าเฉลี่ยในอดีต 3 ปีถึงสองเท่าที่ 1.153 พันไร่(ปี 2564-2566) ปกติกำไรจะเพิ่มขึ้นในช่วงครึ่งปีหลังและแข็งแกร่งกว่าครึ่งปีแรก
ปัจจัยเสี่ยงจากความรวดเร็วในอัตราการเติบโต GDP, การเพิ่มขึ้นของต้นทุนสาธารณูปโภคและค่าแรงงานขั้นต่ำ, ความผันผวนของอัตราดอกเบี้ยและเงินลงทุนจากต่างประเทศ (FDI)
ที่มา : บล.เคจีไอ (ประเทศไทย)
เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี