บริษัทหลักทรัพย์ (บล.) เคจีไอ (ประเทศไทย) วิเคราะห์หุ้นบริษัทท่าอากาศยานไทย หรือ AOT หลังจากที่เราได้ร่วมประชุมนักวิเคราะห์งวด 4Q67 เมื่อวันที่ 22 พฤศจิกายน เราได้ปรับประมาณการกำไรปี 2568F และ 2569F เพื่อให้สอดคล้องกับผลการดำเนินงานปี 2567 และแนวโน้มธุรกิจในอีกสองสามปีข้างหน้า เราปรับลดประมาณการกำไรเต็มปี 2568F ลงประมาณ 3.3% เหลือ 2.34หมื่นล้านบาท (+21.8% YoY) และปี 2569F ลง 5.7% เหลือ 2.638หมื่นล้านบาท (+12.7% YoY) เพื่อสะท้อนถึง i) การปรับเพิ่มประมาณการรายได้ขึ้น 4.9% และ 6.0% เพราะรายได้จากธุรกิจที่ไม่ใช่การบิน (ค่าเช่า, บริการ และ สัมปทาน) สูงเกินคาดในปี 2567และ ii) การปรับลดสมมุติฐาน EBIT margin ลง 3.7ppts และ 5.2ppts เพราะ margin มีแนวโน้มจะอ่อนแอเกินคาด เพราะเราคาดว่าค่าใช้จ่ายพนักงาน, ค่าใช้จ่ายในการ outsource, ค่าใช้จ่ายในการซ่อมแซมและบำรุงรักษา รวมทั้งค่าเสื่อมราคาและ amortization จะยังสูงเหมือนกับในปี 2567
เมื่อมองต่อไปข้างหน้า เราคาดว่าผลการดำเนินงาน 1Q68F (ตุลาคม-ธันวาคม 2567) จะแข็งแกร่งขึ้นทั้ง YoY และ QoQ เนื่องจากเป็นช่วง high season ของการท่องเที่ยวในประเทศไทย เรายังคาดว่า แนวโน้มระยะยาวจะได้แรงหนุนจากการที่จำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติฟื้นตัวกลับไปที่ระดับก่อน COVID ระบาดเป็นอย่างน้อย ปัจจุบัน จำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติเพิ่มขึ้นมาอยู่ที่ประมาณ 88% ของระดับก่อน COVID ระบาดแล้ว จึงมีโอกาสที่จะเพิ่มขึ้นต่อเนื่องในอีกสองสามปีข้างหน้า เมื่ออิงตามประมาณการของเราจำนวนผู้โดยสารระหว่างประเทศของ AOT จะเพิ่มขึ้นเป็น 94% ของระดับก่อน COVID ระบาดได้ในปี FY68F และคาดว่าจะสูงกว่าช่วงก่อน COVID ระบาด 3.7% ในปี FY69F นอกจากนี้ AOT ยังเปิดrunway ใหม่ที่สนามบินสุวรรณภูมิ ทำให้ความสามารถในการรองรับเที่ยวบินเพิ่มขึ้นจาก 68 เที่ยว/ชั่วโมง เป็น 94 เที่ยว/ชั่วโมง ในระยะยาวAOT มีแผนจะขยายอาคารผู้โดยสารฝั่งทิศใต้ (South Terminal)เพื่อรองรับผู้โดยสาร 70 ล้านคน/ปี ขณะที่บริษัทจะพัฒนาสนามบินดอนเมืองเฟส 3 เพื่อรองรับผู้โดยสาร 50 ล้านคน/ปีในอนาคตซึ่งจะทำให้ AOT บรรลุเป้าหมายที่จะเป็นหนึ่งใน 20 สนามบินที่ดีที่สุดในโลก เรายังคงมองบวกกับแนวโน้มการเติบโตในระยะยาวของบริษัท ซึ่งจะช่วยหนุนการเติบโตของกำไร AOT จากการที่ประเทศไทยพัฒนาเป็นศูนย์กลางการท่องเที่ยวในภูมิภาค
เมื่อพิจารณาจากประมาณการกำไรที่ปรับใหม่ เรายังคงคำแนะนำซื้อ โดยประเมินราคาเป้าหมาย DCF ปี FY68 ใหม่ที่ 71.50 บาท จากเดิมที่ 72.00 บาท
ปัจจัยเสี่ยงจากCOVID-19 กลับมาระบาดใหม่, เศรษฐกิจถดถอย และ ความไม่สงบทางการเมืองไทย
ที่มา : บล.เคจีไอ (ประเทศไทย)
เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี