ll มูลค่าส่งออกเดือน ต.ค. อยู่ที่ 27,222.1 ล้านดอลลาร์ฯ แตะระดับสูงสุดในรอบ 19 เดือน เร่งตัว 14.6% เทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน (YoY ) เทียบจาก 1.1%YoY ในเดือนก่อน ทั้งนี้การส่งออกสินค้าทั้งกลุ่มสินค้าอุตสาหกรรม สินค้าเกษตรและอุตสาหกรรมเกษตร ขยายตัวต่อเนื่อง สำหรับการส่งออกทองคำในเดือนนี้เร่งตัวถึง 169.3%YoY ทำให้เมื่อหักทองคำแล้วมูลค่าส่งออกเดือนนี้จะอยู่ที่ 9.1%YoY สำหรับการส่งออก 10 เดือนแรกของปี 2567 ขยายตัว 4.9%YoY
การส่งออกสินค้าอุตสาหกรรมขยายตัว18.7%YoY เร่งตัวสูงเมื่อเทียบจากเดือนก่อนที่เติบโตได้ 2.0%YoY โดยสินค้าสำคัญที่ยังขยายตัว ได้แก่ เครื่องคอมพิวเตอร์ อุปกรณ์และส่วนประกอบ (+77.5%) เครื่องปรับอากาศและส่วนประกอบ (+44.9%) เครื่องจักรกลและส่วนประกอบ (+43.0%) ผลิตภัณฑ์ยาง (+27.2%) และหม้อแปลงไฟฟ้า (+23.1%) เป็นต้น ส่วนสินค้าสำคัญที่หดตัว ได้แก่ อุปกรณ์กึ่งตัวนำ ทรานซิสเตอร์ และไดโอด (-34.7%) รถยนต์ (-23.6%) น้ำมันสำเร็จรูป (-21.4%) และอัญมณีและเครื่องประดับ (-1.8%) เป็นต้น
การส่งออกสินค้าเกษตรและอุตสาหกรรมเกษตรขยายตัว 7.2%YoY เร่งขึ้นจากเดือนก่อนที่เติบโตได้ 3.5%YoY โดยสินค้าเกษตรขยายตัวดีขึ้นเป็น 6.8%YoY เทียบจากเดือนก่อนที่เติบโตเพียง 0.2%YoY สำหรับสินค้าอุตสาหกรรมเกษตรขยายตัวต่อเนื่องที่ 7.6%YoY แม้จะชะลอลงเล็กน้อยจาก 7.8%YoY เมื่อเดือนที่ผ่านมา โดยสินค้าส่งออกสำคัญที่ขยายตัว ได้แก่ ยางพารา (+32.6%) ผลไม้กระป๋องและแปรรูป (+28.0%) อาหารทะเลกระป๋องและแปรรูป (+26.7%) อาหารสัตว์เลี้ยง (+18.2%) และไก่สด แช่เย็น แช่แข็ง และแปรรูป (+12.4%) เป็นต้น ส่วนสินค้าสำคัญที่หดตัว ได้แก่ ไขมันและน้ำมันจากพืชและสัตว์ (-46.2%) ผลิตภัณฑ์มันสำปะหลัง (-30.6%) น้ำตาลทราย (-12.8%) และผลไม้สด แช่เย็น แช่แข็ง และแห้ง (-3.3%) เป็นต้น
การส่งออกรายตลาดสำคัญส่วนใหญ่ขยายตัว โดย สหรัฐฯ : ขยายตัว 25.3%YoY เติบโตติดต่อกันเป็นเดือนที่ 13 สินค้าสำคัญที่ขยายตัว ได้แก่ เครื่องคอมพิวเตอร์ อุปกรณ์และส่วนประกอบ และเครื่องโทรสาร โทรศัพท์ อุปกรณ์และส่วนประกอบ เป็นต้น สำหรับสินค้าสำคัญที่หดตัว ได้แก่ หม้อแปลงไฟฟ้าและส่วนประกอบ อุปกรณ์กึ่งตัวนำ ทรานซิสเตอร์ และไดโอด และเหล็ก เหล็กกล้าและผลิตภัณฑ์ เป็นต้น (ส่งออก 10 เดือนแรกขยายตัว 13.8%) จีน : กลับมาขยายตัวได้อีกครั้งที่ 8.5%YoY โดยสินค้าสำคัญที่ขยายตัว ได้แก่ ผลิตภัณฑ์ยาง และเครื่องคอมพิวเตอร์ อุปกรณ์และส่วนประกอบ เป็นต้น ส่วนสินค้าสำคัญที่หดตัว ได้แก่ ผลไม้สด แช่เย็น แช่แข็งและแห้ง และเม็ดพาสติก เป็นต้น (ส่งออก 10 เดือนแรกขยายตัวเล็กน้อยที่ 0.8%)
ญี่ปุ่น : เติบโต 7.0%YoY กลับมาขยายตัวอีกครั้งในรอบ 9 เดือน ทั้งนี้สินค้าสำคัญที่ขยายตัว ได้แก่ ไก่แปรรูป และเครื่องจักรกลและส่วนประกอบ เป็นต้น สำหรับสินค้าสำคัญที่หดตัว ได้แก่ รถยนต์ และเครื่องใช้ไฟฟ้าและส่วนประกอบอื่นๆ เป็นต้น (ส่งออก 10 เดือนแรกหดตัว 7.3%) EU27 : ขยายตัว 22.1%YoY เติบโตติดต่อกันเป็นเดือนที่ 5 สินค้าสำคัญที่ขยายตัว ได้แก่ เครื่องคอมพิวเตอร์ อุปกรณ์และส่วนประกอบ และรถยนต์ เป็นต้น ส่วนสินค้าสำคัญที่หดตัว ได้แก่ อัญมณีและเครื่องประดับ หม้อแปลงไฟฟ้าและส่วนประกอบ เป็นต้น (ส่งออก 10 เดือนแรกขยายตัว 9.3%) ASEAN-5 : กลับมาขยายตัวได้อีกครั้งที่ 6.8%YoY โดยสินค้าสำคัญที่ขยายตัว ได้แก่ อัญมณีและเครื่องประดับ เครื่องคอมพิวเตอร์ อุปกรณ์และส่วนประกอบ เป็นต้น ส่วนสินค้าสำคัญที่หดตัว ได้แก่ รถยนต์ น้ำมันสำเร็จรูป และแผงวงจรไฟฟ้า เป็นต้น (ส่งออก 10 เดือนแรกขยายตัวเล็กน้อย 0.4%)
ส่วนมูลค่าการนำเข้าเดือน ต.ค. อยู่ที่ 28,016.4 ล้านดอลลาร์ฯ ขยายตัว 15.9%YoY เร่งตัวขึ้นจากเดือนก่อนที่เติบโต 9.9%YoY โดยการนำเข้าสินค้าทุน (+25.7%YoY) สินค้าอุปโภค-บริโภค (+16.2%YoY) สินค้าวัตถุดิบและกึ่งสำเร็จรูป (+13.9%YoY) รวมทั้งสินค้าเชื้อเพลิง (+22.2%YoY) ต่างขยายตัว ขณะที่การนำเข้าสินค้ายานพาหนะฯ (-22.1%YoY) ยังหดตัวต่อเนื่อง ส่วนดุลการค้าเดือน ต.ค. ขาดดุล 794.4 ล้านดอลลาร์ฯ ทั้งนี้ ดุลการค้า 10 เดือนแรกของปีขาดดุล 6,751.2 ล้านดอลลาร์ฯ
อย่างไรก็ตาม การเร่งตัวสูงของการส่งออกในเดือน ต.ค. อาจเป็นปัจจัยชั่วคราว ขณะที่การค้าโลกระยะข้างหน้ายังมีความไม่แน่นอน โดยเฉพาะสงครามการค้าที่รุนแรงจากมาตรการขึ้นภาษีนำเข้าของสหรัฐฯระลอกใหม่ มูลค่าการส่งออกที่เร่งตัว 14.6%YoY สูงกว่าการคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ที่ 5.2% ส่วนหนึ่งเป็นผลจากการขยายตัวสูงของมูลค่าการ
ส่งออกสินค้าในกลุ่ม Hard Disk Drive แผงวงจรไฟฟ้า และผลิตภัณฑ์คอมพิวเตอร์ ซึ่งได้รับอานิสงส์จากวัฏจักรอิเล็กทรอนิกส์ในช่วงขาขึ้นตามกระแสความต้องการใช้งานปัญญาประดิษฐ์และการจัดเตรียมดาต้าเซ็นเตอร์ การขยายตัวสูงดังกล่าวยังเป็นผลจากฐานการส่งออกที่ต่ำในช่วงเดียวกันของปีก่อน (มูลค่าส่งออกเดือน ต.ค. 66 และค่าเฉลี่ยไตรมาส 4/66 อยู่ที่ 23,579 และ 23,283 ล้านดอลลาร์ฯ ตามลำดับ) จากภาวะชะงักงันด้านอุปทานที่เกิดขึ้นภายหลังการโจมตีเรือสินค้าผ่านทะเลแดงของกลุ่มกบฏฮูตี
นอกจากนี้ ยังมีแรงกระตุ้นที่สำคัญจากปัจจัยชั่วคราวในการเร่งส่งออกสินค้าเพื่อหลีกเลี่ยงผลกระทบจากการปรับเพิ่มราคาสินค้า ก่อนที่มาตรการขึ้นภาษีนำเข้าของสหรัฐฯระลอกใหม่ตามนโยบายของว่าที่ ปธน.ทรัมป์ จะทยอยมีผลในทางปฏิบัติ โดยเฉพาะการปรับขึ้นภาษีนำเข้าต่อสินค้าจากประเทศจีนในอัตรา 60% และสินค้าจากประเทศอื่นในอัตรา 10-20% สะท้อนจากการส่งออกสินค้าของหลายชาติในเอเชียที่เร่งตัวขึ้นในเดือน ต.ค. อาทิ จีน มาเลเซีย อินโดนีเซีย ไต้หวัน นำโดยสินค้าในหมวดเครื่องใช้ไฟฟ้าและอิเล็กทรอนิกส์ ซึ่งเอเชียเป็นฐานการผลิตสำคัญ มองต่อไปในช่วงปี 2568 การค้าโลกและการส่งออกของไทยยังต้องเผชิญความไม่แน่นอนจากสงครามการค้าที่มีแนวโน้มรุนแรงขึ้นทั้งจากฝั่งสหรัฐฯและการตอบโต้โดยประเทศคู่ค้า รวมทั้งภาวะเศรษฐกิจของประเทศหลักที่มีแนวโน้มชะลอตัวต่อเนื่อง ขณะที่อัตราดอกเบี้ยอาจปรับลงช้ากว่าคาด ซึ่งปัจจัยดังกล่าวจะกระทบต่อกำลังซื้อของตลาดส่งออกสำคัญต่อไปในระยะข้างหน้า
Krungthai
เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี