บริษัทหลักทรัพย์ (บล.) เคจีไอ (ประเทศไทย) วิเคราะห์หุ้นบริษัท ซีพี แอ็กซ์ตร้า (CPAXT) การที่ CPAXT ตั้งบริษัทย่อยที่ถือหุ้นโดยตรง คือ Axtra Growth Plus Co., Ltd. ทุนจดทะเบียน 8.4 พันล้านบาท บริษัทถือหุ้น 95% อีก 5% ถือโดย MQDC Town Corporation Limited ทั้งนี้ Axtra Growth Plus Co., Ltd. จะเป็นผู้ถือหุ้นของบริษัทย่อยที่ถือหุ้นทางอ้อม คือ Happitat at the Forestias Co., Ltd โดยถือหุ้น 100% วัตถุประสงค์เพื่อขยายธุรกิจพื้นที่เช่าศูนย์การค้าหลังทำการปรับปรุง และ ขยายห้างไปแล้ว
Happitat at the Forestias Co., Ltd ทำธุรกิจพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ประเภท mixed-use ภายใต้ชื่อ “The Happitat”มีทั้งอาคารศูนย์การค้า และ อาคารสาธารณูปโภคจะมีพื้นที่เช่า 72,000 ตร.ม. โครงการคาดว่าจะเสร็จในสิ้นปี 2568 ถึงต้นปี 2569
บริษัทคาดว่าการลงทุนจะอยู่ที่ 1.2-1.5 หมื่นล้านบาท ตั้งเป้า 80-90% ของงบลงทุนจะมาจากสินเชื่อธนาคาร ผู้บริหารคาดว่ากรณีที่ดีที่สุดมูลค่าการลงทุนจะอยู่ที่ 1 หมื่นล้านบาท เงินลงทุน 8.4 พันล้านบาท จะมาจากเงินกู้ยืมจะใส่เงินที่เหลือในปี 2568 โดยอาศัยเงินทุนหมุนเวียน ผู้บริหารตั้งเป้า occupancy rate สำหรับพื้นที่สำนักงาน 40% ในปี 2569 จะเพิ่มเป็น 100% ใน 3 ปี ตั้งเป้า occupancy rate ของพื้นที่เช่าที่ 85% ในปี 2569 เพิ่มเป็น 100% ใน 4 ปี คาดถึงจุดคุ้มทุนปี 2571
ค่าใช้จ่ายดอกเบี้ยที่เพิ่มขึ้นจากเงินกู้ยืมจะกดดันอัตรากำไรปี 2568 ของ CPAXT 2% โดยใช้สมมุติฐานการใช้เงินกู้ยืม 8.4 พันล้านบาท มีค่าใช้จ่ายดอกเบี้ย 3.8%คาดว่ารายได้ค่าเช่าที่จะได้เพิ่มขึ้นจากโครงการนี้จะอยู่ที่ 680 ล้านบาทในปี 2569 จะเพิ่มเป็น 890 ล้านบาทในปี 2571 รายได้ค่าเช่าที่เพิ่มขึ้นจะคิดเป็น 5-6% ของรายได้ค่าเช่าทั้งหมดในปี 2566
ประเด็นนี้อาจเป็นปัจจัยลบในระยะสั้นจากค่าใช้จ่ายเพิ่มขึ้น แต่ในระยะกลางมีปัจจัยที่ต้องติดตาม ได้แก่ i) ความเสี่ยงที่ต้องใช้เงินลงทุนสูงกว่าที่คาดไว้ ii) ความเสี่ยงจากการที่ occupancy rate ต่ำกว่าเป้า ระยะยาวประเด็นนี้จะทำให้บริษัทขยายพอร์ตธุรกิจ และเพิ่มความรู้เกี่ยวกับอสังหาริมทรัพย์ประเภท mixed-use property และ ยังช่วยเพิ่มรายได้ประเภท recurring income จากการให้เช่าพื้นที่ synergy ที่เกิดขึ้นหลังควบรวมกิจการจะถูกหักล้างไปบางส่วนกับดีลนี้ ทำให้การรับรู้อานิสงส์อย่างเต็มที่ถูกเลื่อนออกไปเป็นปี 2571 แต่คาดว่าผลประกอบการจะดีขึ้นในปี 2567-2568 และได้อานิสงส์จากมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของรัฐบาลน่าจะหนุนให้ผลประกอบการ 4Q67 ดีขึ้น
เรายังคงคำแนะนำ “ซื้อ” และ ประเมินราคาเป้าหมายสิ้นปี 2568 ที่ 39.00 บาท
ปัจจัยเสี่ยงจากเศรษฐกิจชะลอตัวลง, ราคาสินค้าเกษตรลดลง, ขยายสาขาได้ช้า, disruption ที่เกิดจากเทคโนโลยีใหม่, ความเสี่ยงด้านกฎเกณฑ์ของทางการ ค่าใช้จ่ายเพิ่มจากการขยายกิจการในต่างประเทศ
เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี