บริษัทหลักทรัพย์ (บล.) เคจีไอ (ประเทศไทย) อัปเดตกลุ่มรับเหมาก่อสร้างสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง (สศค.) คาดการณ์ว่าการลงทุนภาครัฐปี 2568F จะเพิ่ม 4.7% YoY จากฐานต่ำในปี 2566-67Fแรงหนุนจากเร่งเบิกจ่ายงบประมาณและโครงการสำคัญๆ แม้ว่าจะโตก้าวกระโดด 26% YoY ใน 3Q67 แต่ตัวเลข 9M67 ยังลดลง 2.3% YoY (-1.8% YoY ในปี 2567F ตามการประมาณการของ NESDB)
เรามองว่าทั้ง CH Karnchang (CK) และ STECON Group (STECON) มีโอกาสเห็นกำไร 4Q67F และ 1Q68F ชะลอตัวลงเนื่องจากไม่มีเงินปันผลรับ ส่วนแบ่งกำไรจาก Bangkok Expressway & Metro (BEM) และ CK Power (CKP) น่าจะอ่อนตัวลงมีความเป็นไปได้ว่าการขาดทุนจากอัตราแลกเปลี่ยนของเขื่อนไฟฟ้าพลังน้ำหลวงพระบางในสปป.ลาว จะกดดัน CK ในอีก 2 ไตรมาส STECON อาจยังได้รับผลกระทบจากต้นทุนพิเศษการซ่อมแซมความเสียหายที่อุโมงค์ป้องกันน้ำท่วมบึงหนองบอนจนถึงกลางปี 2568 โครงการรถไฟฟ้าสายสีชมพูและสีเหลือง ซึ่งเป็นบริษัทร่วม จะยังคงขาดทุนอีกหลายปี
CK ได้ลงนามสัญญามูลค่า 6.8 พันล้านบาทในขบวนรถไฟฟ้าใหม่และการปรับปรุงระบบรถไฟฟ้าของ MRT สายสีน้ำเงินหนุนให้ backlog ณ สิ้นปี 2567 เกือบถึง 2.00 แสนล้านบาท ขณะที่ STECON ได้ลงนามสัญญาโครงการใหม่ๆ 4.1 หมื่นล้านบาท ใน 4Q67ส่งผลให้ backlog สูงเกินกว่า 1.00 แสนล้านบาท (รวมโครงการเมืองการบินอู่ตะเภาของ UTA)
หลายโครงการรอการพิจารณาโดยที่โครงการภาครัฐเป้าหมายที่รอการอนุมัติจากคณะรัฐมนตรีและการประมูลมีมูลค่า 3.00-5.00 แสนล้านบาทในปีหน้า ปี 2568F-69F คาดว่า CK และ STECONจะลงนามโครงการใหม่ๆ รวม 4.0 หมื่นล้านบาทต่อปี CK และ BEMมุ่งเน้นได้งานโครงการทางด่วนยกระดับมูลค่า 3.5 หมื่นล้านบาทและโครงการมอเตอร์เวย์บางส่วน STECON มองถึงการพัฒนาศูนย์ข้อมูล 2 แห่งรวมมูลค่า 1.2 พันล้านบาทในปีหน้า และโครงการรถไฟฟ้าสายสีแดง
เราคงให้น้ำหนักกลุ่มรับเหมาฯ ที่ Neutral เราชอบ CK จากกำไรเติบโตเลขสองหลัก backlog ปัจจุบันสูงเป็นประวัติการณ์ คาดกำไรเต็มปีจะเติบโต 15-20% ต่อปีช่วงปี 2567F-69F จากการรับรู้รายได้จาก backlog ขณะที่ CK รอลงนามโครงการทางด่วนยกระดับ 3.5 หมื่นล้านบาทในปีหน้า ราคาเป้าหมาย 23.00 บาท สำหรับ STECON อัตราการฟื้นตัวของกำไรและการลงนามสัญญาใหม่ๆ ช้ากว่าที่คาด ราคาเป้าหมาย 8.50 บาท ส่วนใหญ่มาจากการถือหุ้น 2% ในGULF ยังมีปัจจัยหนุนการฟื้นตัว เช่น การเรียกร้องค่าเครมประกันหลายร้อยล้านบาทจากโครงการบึงหนองบอน การได้รับเงินค่าโครงการเชื้อเพลิงสะอาดของ TOP ที่ค้างชำระ 800 ล้านบาท การอนุมัติให้โครงการเมืองการบินอู่ตะเภาซึ่งพัฒนาโดย JV ของบริษัท, UTA จะเดินหน้าต่อ ยังมีข่าวดีคือการให้คะแนน ESG ของทั้ง CK และ STECON ได้รับการปรับเพิ่มเป็น AA
ปัจจัยเสี่ยงจากความรวดเร็วในอัตราการเติบโตของGDP ความล่าช้าจากการอนุมัติของคณะรัฐมนตรีและการเริ่มดำเนินการโครงการใหม่ การเพิ่มขึ้นของอัตราดอกเบี้ย การปรับเพิ่มค่าแรงงานขั้นต่ำขึ้น
ที่มา : บล.เคจีไอ (ประเทศไทย)
เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี