บริษัทหลักทรัพย์ (บล.) เคจีไอ (ประเทศไทย) แนะกลยุทธ์ลงทุนหลังจากที่กระทรวงพาณิชย์รายงานยอดส่งออกเดือนพฤศจิกายน 2567 ตามข้อมูลศุลกากรว่าเพิ่มขึ้น 8.2% YoY ซึ่งอยู่ระดับกลางๆ ของ consensus ในช่วง 7.0-9.0% YoY ตามรายงานของสื่อในประเทศ โมเมนตัมการเติบโตชะลอลงจาก 14.6% YoYในเดือนตุลาคม 2567 ขณะที่การส่งออกเดือนพฤศจิกายน 2567เพิ่มขึ้น 0.9% YoY เมื่อพิจารณาเป็นรายหมวด พบว่าการส่งออกสินค้าเกษตรเพิ่มขึ้น 4.1% YoY, สินค้าอุตสาหกรรมการเกษตรเพิ่มขึ้น 7.7% YoY และ สินค้าอุตสาหกรรมเพิ่มขึ้น 9.5% YoYในงวด 11M67 มูลค่าการส่งออกรวมเพิ่มขึ้น 5.1% YoY

การส่งออกสินค้าหมวดอาหาร และ เครื่องดื่มที่เกี่ยวข้องกับบริษัทที่เราศึกษาอยู่มีทั้งภาพบวก และ ลบในเดือนพฤศจิกายน2567 โดยโมเมนตัมการส่งออกเป็นบวกกับ CBG, ITC, SUN และผู้ผลิตเนื้อสัตว์ แต่เป็นลบกับ OSP และ TU โดยการเติบโตของการส่งออกเครื่องดื่ม Energy drink แข็งแกร่งที่สุดที่ 13% YoYและ 29% MoM แต่การเติบโตไปยังแต่ละตลาดแตกต่างกันไป การส่งออกไปยังกัมพูชาเพิ่มขึ้น 23% YoY (เป็นบวกกับ CBGในขณะที่การส่งออกไปเมียนมาลดลงถึง 21% YoY (เป็นลบกับOSP) ส่วนการส่งออกอาหารสัตว์เลี้ยงเพิ่มขึ้น 11% YoY และ1% MoM ทั้งนี้ การส่งออกไก่ และ ข้าวโพดหวานเพิ่มขึ้น 3%และ 7% YoY ตามลำดับ แต่กลับลดลงเล็กน้อย MoM เพราะปัจจัยฤดูกาล ซึ่งเป็นไปตามสมมุติฐานของเรา ขณะที่การส่งออกอาหารทะเลแปรรูป และ กุ้งแช่แข็งลดลง 5% และ 15% YoY ตามลำดับ ทำให้เรามองแนวโน้มผลการดำเนินงานของ TU ใน 4Q67F แบบระมัดระวัง

กระทรวงพาณิชย์ตั้งเป้าอัตราการเติบโตของการส่งออกปี 2568 (ในสกุลดอลลาร์ฯ) อย่างเป็นทางการที่ 2-3% ต่ำกว่าเป้าปี 2567 ที่ประมาณ 5% เพราะปัจจัยเสี่ยงอย่างเช่น สงครามการค้ารอบใหม่ระหว่างจีนและสหรัฐ รวมทั้งการชะลอตัวของเศรษฐกิจโลก ทั้งนี้มุมมองของทางการดังกล่าว ใกล้เคียงกับที่นักเศรษฐศาสตร์ของ KGI มองส่งออกเติบโต 3% ในปี 2568

ด้วยประเด็นของหุ้นส่งออกที่ดูไม่สดใสนักในปี 2568 เราจึงยังคงให้น้ำหนักที่ neutral กับหุ้นที่เน้นการส่งออกอย่างเช่นF&B และ อิเล็กทรอนิกส์ เราชอบบริษัทที่มีประเด็นผลประกอบการพลิกฟื้น และ ประมาณการกำไรปี 2568 มีupside จากการที่ค่าแรงในประเทศไทยขึ้นน้อยกว่าที่คาดเอาไว้ก่อนหน้านี้ โดยเราเลือก BTG และ SUN เป็นหุ้นเด่นของเราในกลุ่ม F&B

ที่มา : บล.เคจีไอ (ประเทศไทย)