การจัดการเงินที่ดีควรจัดสรรให้กลมกล่อม ครอบคลุมชีวิตในทุกมิติ ทั้งอดีต ปัจจุบัน และอนาคต
(คำถามจากคุณนุช)
เริ่มต้นปีอยากรีเซตแผนการเงินตัวเอง ด้วยการเริ่มออม DCA กองทุนรวมต่างประเทศค่ะ แต่ติดตรงที่จริงๆ ก็ยังมีหนี้บัตรเครดิตอยู่ พี่สาวบอกว่าควรเคลียร์หนี้บัตรให้จบก่อนการลงทุนดีกว่ามั้ย ขอคำแนะนำโค้ชค่ะ เคยฟังโค้ชว่าเป็นหนี้ก็ลงทุนได้ จริงๆ หนูลงทุนได้ใช่มั้ยคะ มีความหวังให้เงินลงทุนที่งอกเงยมาปิดหนี้และมีเงินก้อนค่ะ
(คำตอบโค้ชหนุ่ม)
ใช่เลยครับ เป็นหนี้ก็ลงทุนได้ครับ!
ตอนผมเป็นหนี้ ผมก็ออมและลงทุนสม่ำเสมอ แม้จะลงทุนได้เดือนละไม่มาก แต่ก็เป็นการสร้างความรู้สึกที่ดีให้กับตัวเอง ทำให้มีกำลังใจ เหมือนว่าชีวิตเราไม่ได้จมอยู่แต่กับหนี้ จมอยู่แต่กับอดีตนะ แต่ขาข้างหนึ่งของเรา ก็ยังเริ่มต้นทำอะไรเพื่ออนาคตด้วย
(ถึงตรงนี้ใครเห็นต่าง อยากปิดหนี้ให้หมดทุกบาททุกสตางค์ก่อนแล้วค่อยลงทุน ก็ไม่ได้ผิดอะไรแต่อย่างใดนะครับ)
อย่างไรก็ดี ด้วยอัตราดอกเบี้ยบัตรเครดิตที่สูงถึง 16% ต่อปี การจะลงทุนทั้งที่ยังเป็นหนี้ หากไม่วางแผนให้ดี ก็อาจทำให้หนี้หมดช้า และตอง้จ่ายดอกเบี้ยเป็นเงินจำนวนมากได้ ผมเลยอยากให้คำแนะนำเสริมดังนี้
ต้องไม่สร้างหนี้เพิ่ม ถ้ายังรูดบัตร ก่อหนี้เพิ่มทุกเดือน แบบนี้ลงทุนไปก็ไร้ประโยชน์ครับ
กลับไปอ่านข้อ 1 ย้ำ และทำให้ได้
หาทางลดดอกเบี้ยที่ต้องจ่าย โดยไม่กระทบสภาพคล่อง เช่น อาจลองหาสินเชื่อ ดอกเบี้ยต่ำ มารวบหนี้รวมหนี้ดู ทั้งนี้ ให้ระวังยอดผ่อนต่อเดือนที่ไม่สูงไปกว่าเดิมด้วย หรืออาจลองเจรจาปรับโครงสร้างหนี้ลดยอดผ่อนและดอกเบี้ยดูด้วย เป็นอีกทางเลือกหนึ่ง
แบ่งเงินที่จะกันไว้ลงทุนส่วนหนึ่งโปะหนี้ที่รวบแล้วหรือเจรจาแล้ว เพื่อให้หมดหนี้เร็วขึ้นอีกนิด เช่น กันเงินไว้ลงทุนได้เดือนละ 1,000 บาท โปะหนี้เพิ่ม 500 บาท ลงทุน 500 บาท (เดี๋ยวนี้ 500 บาท เริ่มลงทุนได้แทบทุกกองทุนแล้ว)
ศึกษาการลงทุนให้ดีก่อนลงเงิน ไม่ใช่เห็นว่าเงินน้อย ขาดทุนก็ไม่เป็นไร อย่าคิดแบบนี้เด็ดขาด ทั้งนี้อาจเริ่มต้นศึกษาจากกองทุนดัชนีก็ได้
ลงทุนสม่ำเสมอ ลงทุนทุกเดือน อย่าให้ขาด ทบทวนเงินสะสมทุกปี
ตั้งปณิธานว่าจะไม่ถอนออกมาใช้ ไม่ว่าจะเจ็บจนแค่ไหนก็ตาม (หาเงินด้วยวิธีอื่น จะทำงานเสริมหรืออะไรก็ได้ แต่จะไม่ขายสินทรัพย์ลงทุนเพื่อแก้ปัญหา)
สมัยที่เป็นหนี้ เงินลงทุนผมก็ไม่ได้เยอะมาก แต่ลงทุนประจำ ไม่ถอนออกมาเลย ทำแบบนี้ทุกเดือน ต่อเนื่องกันหลายปี เงินก็เริ่มโต แต่ที่โตกว่าเงิน คือ ความหวัง ครับ
ด้านหนึ่งแม้จะยังเป็นหนี้ แต่ก็จำกัดวงและมีแผนจัดการกับมันชัดเจน เห็นด้วยตาว่าหนี้มันลดลง ก็มีกำลังใจ
อีกด้านลงทุนสะสมเงินไปเรื่อยๆ แม้จะขาดทุนจากการลงทุนในบางช่วงเวลา แต่ก็มีกำลังใจ เพราะอย่างน้อยเราก็มีทรัพย์สินของตัวเอง ที่ค่อยๆ โตขึ้นอย่างมีแผนการ และที่สำคัญเมื่อเห็นเงินเริ่มโตเป็นก้อนใหญ่ เราจะยิ่งมีกำลังใจและอยากจะจบหนี้ที่มีให้เร็วขึ้น คิดไอเดียหาเงินมาลงทุนให้มากขึ้น เพราะอยากลงทุนมากกว่าสาละวนชีวิตอยู่กับหนี้
รถไม่ขับเคลื่อนด้วยการมองแต่กระจกมองหลัง แต่ต้องมองกระจกมองหน้าเป็นหลัก ส่องกระจกมองหลังเป็นครั้งคราว ชีวิตการเงินคนเราก็เช่นกัน มันก็ต้องมีออม
มีลงทุน ให้รู้สึกว่าชีวิตเคลื่อนไปข้างหน้า ส่วนหนี้สินก็จัดการเดือนละครั้งตามแผนที่วางไว้
การบริหารเงินที่ทำให้ชีวิตสมดุล คือ การจัดการเงินกับทั้งอดีต (ภาระสินเชื่อ ถ้ามี) ปัจจุบัน (มีเงินเพียงพอกับการใช้ชีวิตประจำวันอย่างมีความสุข) และอนาคต (สะสมและลงทุนเพื่อบรรลุเป้าหมาย + พร้อมรับมือกับความเสี่ยง) ในสัดส่วนที่พอเหมาะและสอดคล้องกับจังหวะชีวิต
“เงิน” ของเรา เรากำหนดวิธีการจัดการได้เอง ใช้ให้คุ้มค่าและดีต่อใจไปพร้อมๆ กันได้ครับ
#TheMoneyCoachTH
เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี