ข่าวกรณีสุนัขที่หลุดหายจากบ้านย่านปทุมธานี เนื่องจากตกใจเสียงพลุฉลองวันขึ้นปีใหม่ แล้วเจ้าของประกาศตามหาหมาหายโดยจะให้รางวัล แก่ผู้ที่เจอแล้วติดต่อกลับ เป็นจำนวนเงินสูงถึง 20,000 บาท ต่อมาเพิ่มเป็น 50,000 บาท ได้สร้างความสนใจกับคนทั่วไปเป็นอย่างมาก ในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา
ประเด็นความน่าสนใจอยู่ตรงที่ว่า การประกาศโฆษณาว่าจะให้รางวัลในลักษณะเช่นนี้ มีผลผูกพันตามกฎหมายและบังคับตามกฎหมายได้จริงหรือไม่?
ตามข่าวที่ปรากฏหมาที่หายเพราะตกใจเสียงพลุได้หนีเข้าไปที่ร้านหมูกระทะแห่งหนึ่ง บังเอิญเจ้าของเป็นคนใจดีและใจบุญให้อาหารและยังให้หมาอยู่ในร้าน หลังปิดร้านแล้ว แต่ไม่ได้ผูกไว้เพราะเกรงว่าจะถูกกัดได้รับอันตราย เนื่องจากไม่คุ้นเคยได้ติดต่อบอกเจ้าของหมาตามเบอร์มือถือที่ประกาศ แต่เจ้าของหมายังอยู่พัทยาไม่สามารถมารับได้ หมาอยู่ในร้านตอนกลางคืนแล้วหลบหนีออกไปอีก ไม่พบตัว
จนมีผู้มาพบหมาตัวนั้นอีกครั้งได้ติดต่อกันไปหาเจ้าของหมาส่งรูปยืนยันว่าใช่ดูแลรอจนเจ้าของหมามารับแต่เจ้าของยังไม่ยอมให้เงินตามที่ประกาศโฆษณาไว้
การประกาศโฆษณาในลักษณะเช่นนี้ ตามกฎหมายถือเป็นคำมั่นซึ่งเป็นคำเสนออย่างหนึ่ง ที่ให้ไว้แก่บุคคลทั่วไป เมื่อมีบุคคลใดบุคคลหนึ่งสามารถปฏิบัติได้ตามคำมั่น ถือว่าได้ทำคำสนองถูกต้องตรงกับคำมั่นซึ่งเป็นคำเสนอนิติกรรมสัญญาจึงเกิดขึ้นผู้ที่ประกาศโฆษณาและเป็นผู้ให้คำมั่นนั้นย่อมผูกพันและมีความรับผิดที่จะต้องจ่ายเงินตามประกาศ หากไม่ยอมปฏิบัติตามที่ประกาศไว้ ผู้ที่ปฏิบัติตามคำที่ประกาศด้วยการพบหมาและแจ้งกลับสามารถเรียกร้องเงินรางวัลได้ หากยังไม่จ่ายอีกสามารถฟ้องคดีเพื่อให้ ผู้ประกาศโฆษณานั้นรับผิดได้
ตามประกาศโฆษณาแม้อาจจะมีข้อความที่ไม่ชัดเจนคลุมเครืออยู่บ้าง แต่เมื่อพิจารณาตามเจตนารมณ์ของผู้ประกาศ มีความหมายว่า หากมีผู้พบเจอหมาตัวนั้น แล้วติดต่อกลับเจ้าของหมา จนเป็นเหตุให้เจ้าของหมาพบหมาหรือได้รับหมาคืน จะได้รับรางวัลตามที่ประกาศ
เจ้าของร้านหมูกระทะที่เจอหมาคนแรก และติดต่อไปหาเจ้าของหมาซึ่งเจ้าของหมาไม่สามารถรับหมาคืนได้ เพราะหมาหนีไปแล้ว ต้องถือว่าไม่มีสิทธิได้รับเงินรางวัล แต่เจ้าของร้านหมูกระทะเป็นสุภาพบุรุษมาก แสดงเจตนาไว้ตั้งแต่ทีแรกว่าไม่ขอรับเงินรางวัลและหากได้มาจะส่งมอบให้กับผู้ที่พบหมาคนที่สอง ซึ่งติดต่อเจ้าของหมาและได้รับหมาคืน
คนที่สองที่พบหมา ได้โพสต์ข้อความลงในโซเชียลว่า มีผู้สอบถามมาว่าได้รับเงินจริงหรือไม่ ? ซึ่งสร้างความไม่พอใจกับเจ้าของหมา จนมีการโต้ตอบกันในลักษณะที่ว่าการจ่ายเงินเป็นเรื่องของเจ้าของหมา
ผลสุดท้ายเจ้าของหมาเกี่ยงอีกว่า ต้องดูกล้องวงจรปิดก่อนว่า ใครเป็นผู้เจอหมาคนแรกจะให้เงินแก่คนนั้น ซึ่งได้มีปัญหาตามมาอีกว่าต้องจ่ายเงินรางวัล เป็นจำนวนเงิน 20,000 บาท หรือ 50,000 บาทกันแน่
ประเด็นนี้ต้องดูอีกว่า ตอนที่พบหมานั้นการแจ้งประกาศโฆษณาเพิ่มเงินเป็น 50,000 บาท ได้เกิดขึ้นทีหลังหรือไม่ ? แต่เจ้าของหมาผู้ประกาศไม่ได้แสดงท่าทีตั้งแต่ทีแรกที่จะลบประกาศการเพิ่มเงินรางวัลอย่างชัดเจน ตามที่อ้างว่าเป็นเรื่องเข้าใจผิดหรือสื่อสารผิด หรือเหตุใดก็สุดแล้วแต่ จึงควรต้องรับผิดชอบจ่ายเงินรางวัล 50,000 บาท ให้แก่ผู้ที่พบหมาคนที่สอง
จนในที่สุดกรณีนี้อยู่ในความสนใจของสาธารณชน คุณหนุ่ม-กรรชัย พิธีกรชื่อดัง ได้เชิญผู้เกี่ยวข้องทั้งหมดมาร่วมออกรายการ โหนกระแสทางโทรทัศน์ และเจ้าของหมายอมที่จะเขียนเช็คจ่ายเงินรางวัลจำนวน 20,000 บาทเพื่อมอบให้ เจ้าของร้านหมูกระทะผู้พบหมาคนแรก ซึ่งเขาได้แสดงเจตนาไว้แล้วว่า ไม่ต้องการรับเงินรางวัลแต่จะมอบให้แก่ผู้ที่พบหมาคนที่สอง ทั้งที่เจ้าของหมาไม่เห็นด้วย
เช็คเงินรางวัลดังกล่าวจำนวน 20,000 บาท ยังเกิดปัญหาขึ้นจนได้ ตรงที่เจ้าของหมาเขียนพ.ศ. ในเช็คผิดแทนที่จะเขียน พ.ศ. 2568 กลับเขียนเป็น พ.ศ. 2668 หรืออีก 100 ปีข้างหน้า ซึ่งกว่าจะถึงกำหนดรับเงินรางวัลทั้งผู้ให้เช็คและผู้รับเช็คซึ่งเป็นรางวัล คงไม่มีใครมีอายุยืนยาวถึงขนาดนั้น แต่เจ้าของหมาอ้างว่าเป็นเรื่องที่ หลงผิดหรือเข้าใจผิด ซึ่งถือว่าเป็นเหตุบังเอิญโดยแท้ ทั้งที่เจ้าของหมาเป็นผู้ที่เขียนเช็คอยู่เป็นประจำ
คุณหนุ่ม-กรรชัย พิธีกรชื่อดังได้แสดงความมีน้ำใจทดลองออกเงินรางวัลให้แก่ผู้มีสิทธิได้รับรางวัลไปก่อน เป็นเงินจำนวน 20,000 บาท และให้เจ้าของหมาเขียนเช็ค
หรือชำระให้กับคุณหนุ่มกรรชัยคืนภายหลัง ซึ่งถือว่าคุณหนุ่ม-กรรชัย มีน้ำใจและแมนมาก
การประกาศโฆษณาให้รางวัลแก่ผู้ที่สามารถปฏิบัติตามข้อกำหนดได้มีมานานแล้วไม่ใช่เรื่องหมาหายนี้เป็นเรื่องแรก
เมื่อหลายปีก่อนเคยมีประกาศโฆษณาให้รางวัลที่ดูแปลกสร้างความสงสัย และสนใจสังคมเป็นอย่างมากคือประกาศโฆษณาให้รางวัลโดยเทพโซโล ผ่านทางเฟซบุ๊กที่จะให้รางวัลแก่ผู้ที่ทำร้าย คนที่เทพโซโลไม่ชอบหน้า โดยระบุชื่อไว้ชัดเจนและให้ถ่ายภาพหรือคลิปตอนที่ทำร้าย ส่งกลับมาให้เทพโซโลแล้วจะได้รับเงินรางวัลตามที่ประกาศโฆษณา แม้จะถือว่าเป็นคำมั่นประกาศโฆษณาให้รางวัลตามกฎหมาย แต่ไม่ถือว่า มีผลผูกพันตามกฎหมาย เนื่องจากมีวัตถุประสงค์ที่ขัดต่อความสงบเรียบร้อยและศีลธรรมอันดีของประชาชน ในที่สุดจึงถือว่า ขัดต่อกฎหมายและไม่มีผลผูกพัน
เรื่องประกาศโฆษณา ให้รางวัลแก่ผู้ที่พบเห็นหมาหายอาจดูเป็นเรื่อง หมาๆ แต่เป็นเรื่องที่มีผลผูกพันตามกฎหมายและบังคับใช้ได้จริง
คนที่คิดจะประกาศโฆษณาให้รางวัลแก่ใคร ไม่ว่าเรื่องอะไรก็ตาม ต้องคิดให้ดีและรอบคอบ ที่สำคัญคือ ต้องมีความรับผิดชอบต่อสังคมด้วย
เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี