บริษัทหลักทรัพย์ (บล.) เคจีไอ (ประเทศไทย) วิเคราะห์หุ้น ธนาคารเกียรตินาคินภัทร หรือ KKP กำไรสุทธิ 4Q67 อยู่ที่ 1.4 พันล้านบาท (+8% QoQ, +110% YoY) ดีกว่า consensusประมาณการของเรา 37%/45% เพราะรายได้จากตลาดทุนแข็งแกร่ง ขณะที่กำไรสุทธิเต็มปีอยู่ที่ 5.0 พันล้านบาท (-8%) กำไรที่เพิ่มขึ้น QoQ เป็นเพราะรายได้จากตลาดทุนแข็งแกร่งและค่าใช้จ่ายในการดำเนินงานลดลง ซึ่งเกินพอที่จะชดเชยNII ที่ลดลง ส่วนกำไรที่เพิ่มขึ้นอย่างแข็งแกร่ง YoY เป็นเพราะ credit cost และ LOS ลดลงอย่างมาก
สินเชื่อหดตัวลงอีก 1% QoQ และ 8% YoY สาเหตุสำคัญมาจากสินเชื่อ H/P และสินเชื่อที่อยู่อาศัย (รวมกันเป็นสัดส่วน >50%) ที่ลดลงสองหลัก ขณะเดียวกัน yield สินเชื่อลดลงประมาณ10-12bps QoQ จากการลดการขยายสินเชื่อในเดือนตุลาคม และ ลดลง 40bps YoY จากการเปลี่ยนจากการปล่อยสินเชื่อ yield สูงไปเน้นสินเชื่อ yield ต่ำแทน ทั้งนี้ เนื่องจากต้นทุนการระดมทุนลดลงเพียงเล็กน้อย NIM จึงลดลงตาม yield สินเชื่อทำให้ NII ลดลง 6% QoQ และ 16% YoY ใน 4Q67 และ ลดลง 11% ในปี 2567
กำไรจากการค้าหลักทรัพย์ และ กำไรจาก FVTPL กลับมาแข็งแกร่งใน 4Q67 ขณะที่รายได้ค่าธรรมเนียม IB และ รายได้ค่าธรรมเนียมจากธุรกิจ wealth management ช่วยหนุนให้รายได้non-NII เพิ่มขึ้น >100% ทั้ง QoQ และ YoY ใน 4Q67
NPL ทรงตัวติดต่อกันมาสองไตรมาสแล้ว แสดงว่า NPL ผ่านจุดสูงสุดไปแล้วใน 2Q67 โดย NPL ของสินเชื่อส่วนใหญ่ทรงตัว ยกเว้น NPL ของสินเชื่อจดจำนองที่เพิ่มขึ้นเล็กน้อย2% QoQ ขณะเดียวกัน ผลขาดทุนจากการขายรถที่ยึดมา (losson selling repossessed car หรือ LOS) ก็ทรงตัวน่าจะสะท้อนถึงโครงการช่วยเหลือของภาครัฐที่มีการนำมาใช้ในช่วงปลายปีซึ่งช่วยเลื่อนอุปทานรถมือสองที่จะถูกนำมาขายทอดตลาดออกไป อย่างไรก็ตาม ธนาคารนำรายได้ที่แข็งแกร่งบางส่วนไปกำหนดcredit cost เพิ่มขึ้นเป็น 2.2% ใน 4Q67 (จาก 2% ใน 3Q67) ทั้งนี้ KKP บันทึก credit cost เป็นกรณีพิเศษก้อนใหญ่ตลอดปี 2566 สำหรับสินเชื่อธุรกิจรายใหญ่ซึ่งทำให้ credit cost ปี 2566 อยู่ที่ 2.75% (ปี 2567 อยู่ที่ 2.3%)
ผลการดำเนินงานโดยรวมใน 4Q67 ดูดี เพราะ KKP มีการกระจายแหล่งรายได้ และรายได้จากตลาดทุนเพิ่มขึ้น ซึ่งช่วยชดเชยรายได้จากการปล่อยกู้ที่ต่ำเกินคาด ทั้งนี้ การลดสินเชื่อลงช่วยให้สัดส่วนเงินกองทุนขั้นที่ 1 (Tier I ratio) ของธนาคารเพิ่มขึ้นทำให้รักษาระดับอัตราผลตอบแทนจากเงินปันผลไว้ได้ที่ระดับสูง เราแนะนำถือรอรับเงินปันผล ราคาเป้าหมายปี 2568F ที่ 54.5 บาท
ปัจจัยเสี่ยงจาก NPLs เพิ่มขึ้น และ credit cost เพิ่มขึ้น,NIM ถูกกดดัน
ที่มา : บล.เคจีไอ (ประเทศไทย)
เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี