1.อย่ารีบรับหนี้มาเป็นของตัวเอง
ช่วยแก้หนี้ ไม่จำเป็นต้องรับหนี้มาเป็นของตัวเอง ไม่ว่าจะเป็น กู้ยืมเงินในชื่อตัวเอง มาปิดหนี้ให้พ่อแม่ (อย่าหาทำ) หรือที่เจอบ่อยอย่างกู้ซื้อบ้านที่กำลังส่งไม่ไหวแล้วก็แบกหลังแอ่นจนการเงินขาดสภาพคล่อง
จำไว้ว่า ถ้าพ่อแม่การเงินพัง ยังมีคุณคอยช่วย แล้วถ้าการเงินคุณพังไปด้วยหละ ทีนี้พังหมดเลยนะ ตั้งสติให้ดี
2.ที่ถูกควร “ช่วยผ่อน” หรือ “ช่วยวางแผนแก้หนี้”
กันเงินไว้เท่าที่ช่วยไหว ส่งให้พ่อแม่กินใช้ หรือช่วยผ่อนหนี้บางส่วนได้ (แต่ไม่รับมาเป็นชื่อตัวเอง) จากนั้นช่วยวางแผนแก้หนี้ให้ท่าน ทำข้อมูลรายรับรายจ่าย วางแผนเจรจาธนาคาร รวบหนี้รวมหนี้ หรือไม่ก็ตัดขายทรัพย์สินที่ติดหนี้ออกไปบ้าง เพื่อลดภาระ ตรงนี้ต้องอาศัยการวางแผนการเงินที่ดีทั้งของพ่อแม่และของเราด้วย
กรณีหนี้นอกระบบ อาจต้องแยกเป็นก้อนเป็นรายๆ ไป ถ้าหนักจริงๆ ทนให้เขากินดอกรายวันรายเดือนต่อไปตายแน่ ก็อาจกู้เงินในระบบบางส่วน มาช่วยลดภาระส่วนนั้น (อย่าลืมจำกัดวงเงินเท่าที่เราไหว)
3.ดูเรื่องช่องทางรายได้ของพ่อแม่ ว่ามันสร้างรายได้ได้จริงมั้ย
บางทีอาชีพการงานที่เราไม่ได้วิเคราะห์ ไม่ได้มองมันจริงๆ จังๆ นี่แหละ ที่คอยกัดกินเงินครอบครัว บางครั้งร้านที่เปิดอยู่ทุกวัน หรือการเกษตรที่ทำอยู่ มัันไม่พอกิน มันจมเงินครอบครัว ทำแล้วไม่คุ้ม ก็ต้องตั้งหลักหาทางกันใหม่
เราเองก็ต้องช่วยพ่อแม่หน่อย เพื่อแก้ปัญหาที่ยั่งยืน อย่าคิดง่ายๆ ว่าส่งเงินให้แล้วก็จบ แล้วปัญหาก็วนมาใหม่
4.คุยเรื่องเงินกันแบบตรงไปตรงมา เพื่อหาทางออกอย่างยั่งยืน
บางบ้านพ่อแม่ก็ใช้ไม่ได้จริงๆ ยังกินดื่ม ยังเล่นพนันงานการไม่ทำแล้วก็ขยันสร้างหนี้ กู้ยืมเขาไปทั่ว กรณีแบบนี้ก็ต้องนั่งคุยกัน และกำหนดเงื่อนไขการช่วยเหลือ ไม่งั้นก็ได้ช่วยกันไปไม่รู้จบ คุยเคลียร์กันให้ชัด *ช่วยได้แค่ไหน *ถ้ากู้มาทำแบบนี้ไม่ช่วย คุยกันด้วยเหตุผล ลดอารมณ์ลงให้มากที่สุด (เพราะรู้ว่ามาแน่ เดือดแน่!)
หรือถ้ายังพอมีแรงทำงานได้ ช่วยกันหาช่องทางสร้างรายได้ ไม่ใช่คิดว่า “แก่แล้วควรได้พัก ให้ลูกเลี้่ยง” ยุคสมัยนี้เลิกวิธีคิดนี้ไปได้แล้ว ถ้ายังมีปัญหาเงินไม่พอใช้ จะมาคิดแบบนี้ได้ยังไง ทำอะไรได้ก็ต้องทำ
สุดท้ายหัวใจสำคัญที่สุดของเรื่องการเงินส่วนบุคคล คือ การรับผิดชอบต่อชีวิตการเงินตัวเองให้ได้พ่อแม่ก็ไม่มีข้อยกเว้น ก็ต้องดูแลตัวเองให้ได้ โดยมีลูกช่วยสนับสนุนตามกำลัง
ดังนั้นตั้งหลักคุยกันจริงจัง ไม่คุยกันเล่นๆ หรือแค่ตะโกนถามกัน (พรุ่งนี้ต้องส่งหนี้ เอาเงินที่ไหน) แต่นั่งคุยกันเอาแผนมากาง คุยกันแบบมีวุฒิภาวะ คุยกันแบบจะหาทางออกจริงๆ ไม่ใช่ขอแต่เงินให้ผ่านไปที
อดทนและสู้ไปด้วยกัน
การแก้ปัญหาหนี้สินพ่อแม่ ไม่ใช่เรื่องง่ายเลย สมัยผมช่วยที่บ้านแก้ปัญหา ก็ทะเลาะและมีปากเสียงกันทุกครั้งที่คุยกัน บางครั้งทำพ่อแม่ร้องไห้ (นรกแน่กู) แต่ก็ต้องคุย ต้องทำ ต้องทน แล้วก็ต้องมีวินัยตั้งใจช่วยกันทั้งครอบครัว สุดท้ายพอทุกอย่างผ่านพ้น หนี้สินเบาลง กระแสเงินสดในครอบครัวไปได้ พ่อแม่มีเงินไว้จัดการตัวเอง มันก็ค่อยๆ ดีขึ้นตามลำดับ
แล้วถึงวันนั้น เราจะลืมทุกอย่าง ว่าเคยทะเลาะกัน โกรธกัน พูดจากันไม่ดี เพราะเรื่องเงิน เหลือแต่ความสุข และความสบายใจที่ไม่ต้องเป็นหนี้อีกต่อไป
เป็นกำลังให้ทุกคนนะครับ ถ้าไม่ไหวส่งอีเมลมาคุยกัน talk@moneycoach.co.th
#moneystory #TheMoneyCoachTH
เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี