nn น่าจะเป็นที่ถกเถียงกันในสังคมอีกสักพักเมื่อ คุณแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี มีแนวคิดที่จะทบทวนมาตรการห้ามขายเหล้า เบียร์ และ เครื่องดื่มแอลกอฮอลล์ชนิดอื่นๆ...ในช่วงเวลา 14-15 นาฬิกา รวมทั้งวันสำคัญทางพุทธศาสนา...เพราะต้องการอำนวยความสะดวกให้กับนักท่องเที่ยวและจะช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจไปอีกทางหนึ่งด้วย...แน่นอนว่าเรื่องทางฝั่งสาธารณสุข (กลุ่ม NGO) คงจะไม่เห็นด้วย...และมีข้อโต้แย้งออกมาด้วยชุดข้อมูลด้านสาธารณสุข ข้อมูลเรื่องอุบัติเหตุบนท้องถนนจากเหตุเมาแล้วขับ...ถ้ารัฐบาลอยากจะทำเรื่องนี้จริงๆ ก็ต้องโต้แย้งด้วยชุดข้อมูลเหมือนกัน...ถ้าตอบกว้างๆ เพียงแค่เพื่อส่งเสริมการท่องเที่ยว..แค่นี้สู้พวกเขาไม่ได้หรอกครับ...!! สำหรับ..แวดวงการเงิน...บ้านเรามีการออกมาตรการควบคุมเครื่องดื่มแอลกฮอล์ยิบย่อยไปหมดแล้วสังคมไทยก็อยู่กับกติกาพวกนี้มานานหลายปีแล้ว...ผลที่ออกมาคืออะไร...จำนวนผู้ดื่มไม่ได้ลดลงเลย และมีผู้ดื่มหน้าใหม่เพิ่มขึ้นเรื่อยๆ...ยอดอุบัติเหตุบนท้องถนนเพราะเมาแล้วขับลดลงบ้างสักปีหรือเปล่า คำตอบคือไม่เลย...ยอดขายเหล้า เบียร์ ไวน์ ฯลฯ เติบโตขึ้นทุกปี...ไม่เชื่อลองไปดูตัวเลขภาษีสรรพสามิตจากสุราและเบียร์ก็ได้มันก็เพิ่มขึ้นตลอดนะ...อย่างปีงบประมาณ 2567 ที่บ่นๆ กันว่าเศรษฐกิจไม่ดี...ภาษีสรรพสามิตจากสุรา เบียร์ ก็ยังเพิ่มขึ้นเลย...ไม่เชื่อลองไปขอดูตัวเลขจาก ดร.กุลยา ตันติเตมิท อธิบดีกรมสรรพสามิต ดูได้เลย...เอาล่ะไอ้เรื่องห้ามขายหรือกำหนดเวลาการขายพักไว้ตรงนี้ก่อน...!! แต่ประเด็นที่..แวดวงการเงิน...อยากจะนำเสนอคือเรื่องของการห้าม...โฆษณาหรือโปรโมท...สินค้ากลุ่มนี้...เพราะกระผมมองว่ามันไร้สาระมากและไม่เห็นจะได้ผลอะไรเลย...อย่างที่ได้ยกตัวอย่างไปข้างต้น...ในทางกลับกันเรากลับทิ้งโอกาสที่จะดึงเม็ดเงินจำนวนมหาศาลจาก...โฆษณาหรือโปรโมท...สินค้ากลุ่มนี้เข้ามาในระบบ...ในต่างประเทศที่เจริญแล้ว...สินค้ากลุ่มนี้เป็นเมนสปอนเซอร์ให้กับการแข่งขันกีฬาอาชีพรายการใหญ่ๆ ที่มีคนดูเกือบครึ่งโลก...บางแบรนด์..มีโลโก้ติดหลาอยู่บนกีฬาดังไม่ว่า...การแข่งขันรถสูตร1 (ฟอร์มูล่าวัน)...หรือการแข่งขันโมโตจีพี...และในหลายประเทศก็มีอีเว้นท์ใหญ่ของสินค้ากลุ่มนี้...ดึงดูดเม็ดเงินเข้าระบบเศรษฐกิจมากมายมหาศาล...แต่แปลกไหม...ทั้งโปรโมททั้งโฆษณากันกระหึ่มขนาดนั้น...ทำไมคนในประเทศพวกเขามีอัตราการดื่มน้อยกว่าคนไทย (เทียบเปอร์เซ็นต์ต่อจำนวนประชากร)...ทำไมอุบัติเหตุบนท้องถนนจากเหตุเมาแล้วขับของพวกเขาจึงต่ำมาก(ยกตัวอย่างประเทศญี่ปุ่นนั่นชัดเจนเลย)...สุดท้ายเลยสินค้าในกลุ่มนี้ของพวกเขากับกระจายไปทั่วทุกมุมโลก...ดึงเม็ดเงินเข้าประเทศพวกเขาไปไม่เท่าไหร่จะเท่าไหร่...(จากไทยก็ไม่น้อยนะ 5555)...!! ฝากไปให้คิดนะรัฐบาล...nn

อนันตเดช พงษ์พันธ์ุ