บริษัทหลักทรัพย์(บล.)เคจีไอ(ประเทศไทย)วิเคราะห์หุ้นบริษัท เมืองไทย แคปปิตอล หรือ MTCกำไรสุทธิของ MTC ใน 4Q67 อยู่ที่ 1.5 พันล้านบาท (เพิ่มขึ้น 3% QoQ และ 14% YoY) เป็นไปตามประมาณการของเรา และ consensus ขณะที่กำไรสุทธิในปี 2567 อยู่ที่ 5.9 พันล้านบาท (+20%) กำไรที่เพิ่มขึ้นเล็กน้อย QoQ ใน 4Q67 เป็นเพราะค่าใช้จ่ายสำรองฯ (credit cost) ลดลง ขณะที่กำไรที่เพิ่มขึ้นอย่าแข็งแกร่ง YoY สะท้อนถึงสินเชื่อที่ขยายตัว 16% และ credit cost ที่ลดลง

โมเมนตัมสินเชื่อของ MTC ขยายตัวอย่างช้าๆมาสองไตรมาสแล้ว โดยขยายตัวที่ประมาณ 3% QoQ และ 16% YoY แต่ margin กลับลดลงเร็วกว่า โดยลดลงถึง 40bps QoQ และ 110bps YoY เพราะแรงกดดันจากต้นทุนการระดมทุน (+40bps QoQ และ +80bps YoY) ซึ่งเพิ่มขึ้นอย่างมาก เนื่องจากหุ้นกู้สกุล USD มีต้นทุนสูง ในขณะที่หุ้นกู้ในประเทศไทยที่ออกมาช่วงปลาย 3Q67 ก็มีต้นทุนสูงเช่นกัน

NPL เพิ่มขึ้น 1% QoQ และ YoY เพราะ NPL จากสินเชื่อ H/P รถมอเตอร์ไซค์ลดลงอย่างมากจากการ write-off หนี้เสีย โดย NPL จากสินเชื่อกลุ่มนี้ลดลงถึง 31% QoQ และ เกือบ 70% YoY ทำให้ยอด NPL จากสินเชื่อ H/P กลุ่มนี้ลดลงเหลือ 10% ของ NPL รวมใน 4Q66 เหลือ 4% ของ NPL รวมทั้งพอร์ตใน 4Q67 ดังนั้น credit cost จึงลดลงมาอยู่ที่ 277bps ใน 4Q67 (ต่ำที่สุดในรอบ 8 ไตรมาส) และ 297bps ในปี 2567 (จาก 358bps ในปี 2566)

ในภาพรวม ผลการดำเนินงาน 4Q67 ดูดี เพราะแม้ NIM จะถูกกดดัน แต่ก็ชดเชยด้วยคุณภาพที่ดีขึ้น และ credit cost ที่ลดลง โดยในปี 2567 MTC ลด credit cost ลงประมาณ 60bps ซึ่งช่วยชดเชย NIM ที่ลดลงไป 100bps สำหรับในระยะต่อไป หุ้นกู้ชุดใหม่ที่ออกมาโดยมีต้นทุนถูกลงจะช่วยบรรเทาแรงกดดันทางด้านต้นทุนการระดมทุน ในขณะที่ credit cost ปี 2568F น่าจะ <300bps (ประมาณการของเราอยู่ที่ 300bps) ซึ่งน่าจะทำให้ผลประกอบการของบริษัทโตได้พอสมควร ทั้งนี้ เนื่องจากเรายังคงประมาณการกำไรเอาไว้เท่าเดิม เราจึงยังคงคำแนะนำซื้อ โดยประเมินราคาเป้าหมายที่ 50.5 บาท อิงจาก PE ปี 2568F ที่ 16x

ปัจจัยเสี่ยงNPLs และ credit costs เพิ่มขึ้น, NIM ถูกกดดัน

ที่มา : บล.เคจีไอ (ประเทศไทย)