nn บุหรี่เถื่อน...ธุรกิจความเสี่ยงน้อย กำไรงาม...ใครๆ ก็อยากเข้ามากินส่วนแบ่ง และธุรกิจนี้ไม่หายไปง่ายๆ แม้หน่วยงานรัฐจะมุ่งปราบบุหรี่เถื่อนกันแค่ไหนก็ห้ามการทะลักเข้ามาไม่ได้แล้ว...จับกุมอย่างเดียวไม่ใช่จุดจบของปัญหา เพราะเห็นแต่ข่าวจับกุม แต่คนถูกจับโดนโทษอะไรไม่มีใครทราบ...โดนปรับเท่าไหร่ก็เดาไม่ได้...เผลอๆ เข้าระบบ “เจอ-จ่าย-จบ” กลับมาทำซ้ำจนชาวบ้านเอือม ไม่มีใครกล้ายุ่ง เพราะกลัวตัวเองจะเดือดร้อน...นโยบาย Seal Stop Safe ซีลเข้มชายแดนต่อต้านยาเสพติด น่าจะพอช่วยสกัดกั้นบุหรี่เถื่อนได้บ้าง แต่ถ้ายังมีนกต่อคอยเปิดช่องในประเทศแบบกรณี“รถตำรวจ”ขนเสียเอง...รัฐบาลก็คงต้องปวดหัวต่อไป...!! คุณกุลยา ตันติเตมิท อธิบดีกรมสรรพสามิต...น่าจะต้องเดือดร้อนบ้างแล้วกับบุหรี่เถื่อน เพราะตัวเลขการจัดเก็บรายได้ของกรมฯจากภาษียาสูบ แค่ 4 เดือนแรกของปีงบฯ’68 ร่วงถึงกว่า 24% หากอัตราลดคงที่ไปเรื่อยๆ ยันสิ้นปี คงไม่มีหวังที่จะเก็บรายได้แตะ 5 หมื่นล้านบาทแบบเดิม...น่าเห็นใจที่กรมสรรพสามิตต้องมาไล่จับบุหรี่เถื่อนที่เติบโตมากถึง 25% ของการบริโภคบุหรี่ทั้งระบบ...แถมยังเจอพฤติกรรมผู้บริโภคที่เปลี่ยนไปใช้บุหรี่ไฟฟ้ากว่า 1 ล้านคน ทำรายได้ภาษียาสูบวูบหนักต่อเนื่อง เรื่องนี้ต้องแก้ที่ต้นเหตุซึ่งคืออะไรแวดวงฯเชื่อว่าคุณกุลยาทราบข้อมูลดี แต่ที่อยากฝากไว้คือการปล่อยให้สินค้ามาผ่านแดนในประเทศไทย หรือนำเข้ามาเพื่อส่งออกนั้นประเทศไทยไม่ได้ประโยชน์อะไร มีแต่เสียกับเสีย เพราะมีคนตั้งใจทำของหล่นกลางทาง...เรื่องบุหรี่เถื่อนนี้ คุณเผ่าภูมิ โรจนสกุล รมช.คลัง...ที่กำกับดูแลกรมสรรพสามิต น่าจะเดินเครื่อง สั่งปราบปราม แถลงข่าวให้เห็นผลงานนำรายได้กลับคืนสู้ท้องพระคลัง สมกับเป็นข้าราชการกระทรวงการคลังในอดีต แวดวงฯ เชียร์เต็มที่เพราะวันนี้บุหรี่เถื่อนมัน “เกลื่อนเมือง” จริงๆ ครับท่าน…แต่ถึงกระนั้นจะหวังพึ่งสรรพสามิตอย่างเดียวคงไม่ไหว ศุลกากรเองก็ต้องเข้ามาร่วมด้วย เพราะบุหรี่เถื่อนจำนวนมากหลุดจากเขตปลอดภาษี และสินค้าผ่านแดนที่ศุลกากรก็บอกว่าไม่มีอำนาจเข้าไปตรวจสอบหรือทำอะไรได้โดยตรง...ถ้าเช่นนั้นเรื่องนี้คงต้องฝากถึงคุณจุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ รมช.คลัง...ในฐานะกำกับกรมศุลกากร...ต้องเข้ามากำจัดจุดอ่อนเรื่องอำนาจของกรมศุลกากรโดยด่วนแล้วล่ะครับ...nn

อนันตเดช พงษ์พันธ์ุ