บริษัทหลักทรัพย์ (บล.) เคจีไอ (ประเทศไทย) วิเคราะห์หุ้น บริษัททางด่วนและรถไฟฟ้ากรุงเทพ หรือ BEM ปกติไตรมาส 4 ของปีจะเป็นช่วง low season ของทั้งธุรกิจทางด่วนและธุรกิจระบบราง รวมถึงไม่มีเงินปันผลรับด้วย กำไรจึงลดลง 20% QoQ แต่แผ่วลง YoY จากค่าใช้จ่ายในการบริหารสูงขึ้น ขณะที่ รายได้จากค่าทางด่วนทรงตัวที่ 2.25 พันล้านบาท โดยอัตรากำไรขั้นต้นไม่เปลี่ยนแปลงอยู่ที่ 66% ส่วนรายได้จากธุรกิจระบบรางเพิ่มขึ้น 8% และอัตรากำไรขั้นต้นขยับขึ้น 1 ppt อยู่ที่ 14% หลังจากได้ปรับเพิ่มราคาค่าโดยสารมาตั้งแต่กลางปี 2567 ในแง่รายได้จากการพัฒนาพื้นที่เชิงพาณิชย์ก็ดีขึ้น 17% YoY และ 16% QoQ อยู่ที่358 ล้านบาท ขณะที่ สามารถคุมต้นทุนการเงินได้ดี แต่ค่าใช้จ่ายในการขายและบริหาร (SG&A) เพิ่มขึ้น 8% YoY ส่งผลให้กำไรสุทธิอ่อนตัวลง

กำไรปี 2567 ทำสถิติสูงสุดเป็นประวัติการณ์ที่ 3.77 พันล้านบาท (+8% YoY)แม้ว่าธุรกิจทางด่วนจะทรงตัว แต่รายได้ธุรกิจระบบรางยังเพิ่ม 8% และกำไรขั้นต้นเพิ่ม 90% โดยอัตรากำไรขั้นต้นปี 2567 เพิ่มอยู่ที่ 11% จาก 6% ในปี 2566 ส่วนรายได้จากการพัฒนาพื้นที่เชิงพาณิชย์เพิ่มขึ้น 10% และอัตรากำไรขั้นต้นดีขึ้น 2 ppt อยู่ที่65% ขณะที่ สัดส่วน SG&A ต่อรายได้ลดลงเล็กน้อย ด้านต้นทุนการเงินเพิ่มขึ้นเพียง 2% YoY จาก 77% ของเงินกู้เป็นหุ้นกู้ที่มีอัตราดอกเบี้ยคงที่

ในไตรมาสแรกของปีก็ยังเป็นช่วง low season ของธุรกิจต่ออีก เราจึงคาดกำไรสุทธิจะไม่น่าตื่นเต้นนัก แต่เมื่อเข้าสู่ 2Q-3Q จะมีการบันทึกเงินปันผลรับจากบริษัทในเครือ อย่างไรก็ดี BEM ยังรอโครงการทางด่วนยกระดับมูลค่า 3.5 หมื่นล้านบาทที่จะมีการลงนามในปี 2568 พร้อมกับการแก้ไขระยะเวลาสัมปทานและรูปแบบการแบ่งจ่ายรายได้จาก 60:40 เป็น 50:50 เพื่อรองรับแนวคิดของรัฐบาลในการลดราคาค่าผ่านทางเฉลี่ยลงอยู่ที่ 50 บาทต่อเที่ยว นอกจากนี้ วัฏจักรดอกเบี้ยขาลงจะเป็นประโยชน์ต่อ BEM ที่มีอัตราส่วนหนี้สินที่มีภาระดอกเบี้ยสุทธิ (net IBD/E ratio) ที่ 1.95x

เราคงคำแนะนำ “ซื้อ” ประเมินราคาเป้าหมาย SOTP ที่ 11.20 บาท จากธุรกิจหลัก 9.00 บาท ,0.80 บาทจาการลงทุนใน TTW และ CKP และอีก 1.40 บาทจากรถไฟฟ้าสายสีส้ม บริษัทได้ประกาศจ่าย DPS สะสมทั้งปี 2567 ที่ 0.15 บาท/หุ้น คิดเป็น yield ราว2.3% ณ ราคาปิดล่าสุด (ขึ้น XD: 11 มีนาคม)

ปัจจัยเสี่ยงจากความรวดเร็วในอัตราการเติบโตของ GDP ความล่าช้าจากการอนุมัติของคณะรัฐมนตรีและการเริ่มดำเนินการโครงการใหม่ๆ การแก้ไขสัญญาต่างๆ การปรับเปลี่ยนกฎระเบียบต่างๆ ความผันผวนของอัตราดอกเบี้ย และจำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติเดินทางเข้ามาในไทย

ที่มา : บล.เคจีไอ