น้องคนหนึ่งหลังไมค์มาขอคำปรึกษา หลังไปเข้าอบรมวิธีการสร้างความมั่งคั่ง ผ่านช่องทางออนไลน์กับกูรูด้านความมั่งคั่งท่านหนึ่ง
น้องเขาเล่าว่า หลังเรียนวิธีตั้งเป้าหมายกับกูรูท่านดังกล่าวแล้ว ก็ให้รู้สึกตกใจเล็กน้อย เพราะเป้าหมายการเงินที่เขาประเมินจากวิธีที่กูรูสอน ออกมาเป็นตัวเลขกลมๆ 500,000 บาทต่อเดือน
ที่สำคัญมันเป็น Passive Income หรือรายได้จากทรัพย์สิน ไม่ใช่รายได้จากการทำงาน (หรือ Active Income)
ซึ่งนั่นหมายถึง เขาต้องสร้างและสะสมทรัพย์สิน (อาทิ หุ้น กองทุนรวม อสังหาฯให้เช่า ธุรกิจ หรือทรัพย์สินทางปัญญา ฯลฯ) ที่จะสร้างหรือผลิตรายได้ให้กับเขาทุกเดือน ในรูป ดอกเบี้ย เงินปันผล ค่าเช่า กำไรจากกิจการ และค่าลิขสิทธิ์ รวมๆ กันเดือนละ 500,000 บาท
[ต่อไปนี้ คือ เรื่องราวการสนทนาระหว่างผมกับน้องเค้า]
“แล้วปัญหาของน้อง คือ ... ?” ผมถาม
“ก็แค่เห็นเป้าหมายแล้วผมตกใจครับ รายได้จากทรัพย์สินเยอะขนาดนั้น ตอนนี้แค่ 1,000 เดียว ผมยังไม่มีเลย ที่สำคัญหนี้ผมยังมีหนี้อยู่อีกตั้งแยะ ที่ยังใช้เขาไม่หมด”
“แล้ว? ...” ผมถามต่อ หลังฟังคำอธิบาย
“ผมก็เลยมาถามพี่หนุ่มนี่ยังไงละครับ เอาเข้าจริง ผมเองก็ดูอยู่หลายทาง แต่ไม่รู้จะเริ่มทำอะไรก่อนดี พี่หนุ่มมีคำแนะนำมั้ยครับ ว่าผมควรเริ่มจากทำอะไร?”
“ก่อนจะไปถึงวิธีการหารายได้จากทรัพย์สินต่อเดือนมากขนาดนั้น ถามหน่อยสิ ตอนคิดตัวเลขเป้าหมายออกมา เรารู้สึกยังไง”
“รู้สึกเลยครับว่า งานประจำไม่ตอบโจทย์ชีวิตเราแน่ๆ”
“ไม่ใช่สิ! ที่พี่ถามหมายถึง ตอนเราได้ตัวเลขเป้าหมายการเงิน เราไม่รู้สึกเอะใจอะไรกับมันเลยเหรอ?”
“เอะใจยังไงครับ”
“งั้นถามใหม่ อะไรทำให้เราเชื่อในทันที ว่ามันเป็นเป้าหมายเรา?”
นิ่งเงียบไปนาน ผมเลยถามต่อ
“ทำไม? ต้อง 500,000 เป็น 100,000 หรือ 150,000 พอมั้ย? จะเอา 500,000 ไปทำอะไรบ้าง ที่บอกว่าต้องได้เท่านี้ ถึงจะมีชีวิตที่มีอิสรภาพ หมดกังวลเรื่องการเงิน”
ปลายทางยังนิ่งเหมือนกำลังฟัง
“ถ้าเห็นตัวเลข 500,000 ที่คำนวณได้แล้วรู้สึกตกใจ อาจเป็นไปได้มั้ยว่า เป็นเพราะเราเองก็รู้สึกว่าหาเหตุผลมาอธิบายมันไม่ได้ เราไม่อินกับมัน หรือที่แย่ที่สุด คือ ไม่มีเหตุผลรองรับว่าทำไม? ต้องพยายามทำตัวเลขนั้นให้เป็นจริงขึ้นมา”
“แล้วเรามีวิธีดูยังไงครับ ว่าสิ่งที่เราคิดมันเป็นเป้าหมายของเราจริงๆ” เจ้าของเรื่องถามกลับ
“ก็เหตุผลหลังตัวเลขไงหละ ทำไม? ทำไม? ทำไม? เราเคยถามตัวเราจริงๆ” มั้ย WHY น่ะ
จะว่าไปตัวเลข 500,000 ที่เราคำนวณได้ อาจจะถูกก็ได้นะถ้าเราตั้งโจทย์เองว่า เงินกินอยู่ใช้จ่ายในแต่ละเดือนระดับนั้น ถึงจะมีชีวิตที่สมบูรณ์พร้อม
แต่ถ้าไม่ใช่ คิดถึงมันแล้วใจสั่น ไร้พลัง อันนั้นก็อาจเป็นตัวเลขที่เราอุปโลกน์ขึ้นมา เป็นเรื่องที่เรามโนไปเอง คิดเกินความต้องการที่แท้จริงแบบไร้สติ เป้าหมายจริงอาจไม่ได้สูงขนาดนั้นก็ได้ อันนี้มุมมองส่วนตัวพี่นะ
“แต่ถ้าแบบนั้นมันจะเป็นลดขนาดความฝันตัวเองหรือเปล่าครับ คนเราควรคิดใหญ่ ฝันใหญ่ ไม่ใช่เหรอครับ”
“คนเราไม่ได้มีความสุขจากการเปรียบเทียบ หรือตั้งกฎเกณฑ์ว่าฝันแบบนี้เล็กไป หรือต้องฝันใหญ่หรอก
คนเรามีความสุข กับ “ความฝันที่เป็นจริง” มากกว่า”
ความฝันที่เป็นความฝันของเราจริงๆ ไม่ได้หยิบยืมหรือเลียนแบบคนอื่น มีเหตุผลรองรับเป้าหมายหรือสิ่งที่ฝัน ทำให้เรามีพลังอย่างแรงกล้า กล้าลุย กล้าเดิน กล้าลงมือทำ
และนั่นจะทำให้ทุกวันที่เรากำลังพยายามทำความฝันหรือเป้าหมาย เราจะมี “ความสุข” ในทุกวัน ทั้งๆ ที่ยังไม่สำเร็จหรืออย่างน้อยก็ไม่ตกใจกับเป้าหมายตัวเองตั้งแต่เริ่ม แบบที่เราเป็นอยู่นี่ไง
“ไม่ต้องเชื่อพี่หรอกนะ ลองค่อยๆ คิดดูเอาเองแล้วกัน เพราะสิ่งที่น้องกำลังสงสัย ถือเป็นวิชาการเงินขั้นสูงสุดแล้วล่ะ ใครเข้าใจตรงนี้ได้ ก็จะรวยเร็วขึ้น และมีความสุขง่ายขึ้น”
“จริงเหรอครับ วิชาอะไรเหรอครับ”
“การรู้จักและเข้าใจตัวเองครับ
อันนี้แหละคือวิชาการเงินขั้นสูงสุดแล้ว เมื่อรู้และเข้าใจที่เหลือก็ง่าย รวยง่ายขึ้น เพราะไม่ตั้งโจทย์เวอร์ รวยเร็วขึ้น เพราะตั้งเป้าหมายที่ทรงพลัง สอดคล้องกับความสุขในชีวิตที่ต้องการจริงๆ จึงทำให้เรามุ่งมั่นที่จะทำให้ประสบความสำเร็จ”
หลังรอเขาตอบกลับอยู่นาน สุดท้ายไม่มีเสียงตอบอะไรกลับมา ...
สงสัยเค้าคงไม่อินกับคำอธิบายอันแสน Abstract ของผมแน่ๆ เลย 555
#TheMoneyCoachTH
เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี